SolarEdge ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีพลัง
งานอัจฉริยะ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ สหรัฐอเมริกา มียอดรายได้จาก Solar Inverter เป็นอันดับหนึ่งของโลก (ข้อมูลโดย IHS) มาตั้งแต่ปี 2018 ปัจจุบันมีผู้ติดตั้งโครงการที่ใช้ SolarEdge มากกว่า 40,000 ราย และมีระบบ SolarEdge ติดตั้งไปแล้วกว่า 133 ประเทศทั่วโลก เมื่อเร็ว ๆ นี้ SolarEdge ได้ออกบูทจัดแสดงเทคโนโลยีโซลูชั่นโซลาร์เซลล์อัจฉริยะ ในงาน ASEAN Sustainable Energy Week ระหว่างวันที่ 14- 16 กันยายนที่ผ่านมา ณ ฮอลล์ 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
วีรุจน์ เตชะสุวรรณา ผู้จัดการประเทศไทย SolarEdge กล่าวว่า SolarEdge ได้ติดตั้งระบบแรกที่ประเทศไทยเมื่อปี 2016 โดยนับเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้ปัจจุบันนี้มีโครงการที่ติดตั้งระบบ SolarEdge มากกว่า 2,000 โครงการในประเทศไทย โดยกระจายในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมผลิตข้าว รวมทั้ง Residential หรือ การติดตั้งในที่อยู่อาศัย ซึ่งนับเป็นตลาดที่มีอนาคต
ล่าสุด SolarEdge ได้เปิดตัวอินเวอร์เตอร์รุ่นล่าสุด SE 90K ภายในงาน ASEAN Sustainable Energy Week ซึ่งสามารถตอบโจทย์การติดตั้งให้ลูกค้าเชิงพาณิชย์ เนื่องจากเป็นโซลูชั่นที่ Built-in DC Surge Protection Device (SPD), Arc Fault Protection (
AFCI), และระบบหยุดทำงานฉุกเฉินหรือ Rapid Shutdown มากับตัวเครื่อง โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องติดตั้งหรือซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมแต่อย่างใด โดยขณะที่แบรนด์อื่นอาจจำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์ และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาอินเวอร์เตอร์ ที่สำคัญคือโซลูชั่นของ SolarEdge สามารถตอบโจทย์มาตรฐานการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาฉบับล่าสุดของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) ซึ่งกำหนดใช้มาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูง โดยจะต้องให้มีระบบ Rapid Shutdown ในทุกโครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์ใหม่บนหลังคาทั้งหมดในประเทศไทย ซึ่งระบบ DC Optimized Solution ของ SolarEdge จะมี Optimizer ทำงานในส่วนลดแรงดันตามมาตรฐาน Rapid Shutdown ได้อยู่แล้ว จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย
โดยทั่วไปแผงโซลาร์เซลล์จะต่ออนุกรม (ซีรีส์) แล้วมาต่อเข้าที่อินเวอร์เตอร์ที่ String Inverter ทั่วไปที่มี MPPT (Maximum Power Point Tracking) อยู่ที่ Inverter หากยกตัวอย่างแผงโซลาร์เซลล์ 20 แผงมาต่ออนุกรมกัน โดยทุกแผงสามารถผลิตไฟได้สูงสุด 500 วัตต์ กรณีที่มีเงาผ่านแผงโซลาร์เซลล์แผงใดหนึ่ง หรือแผงเกิดปัญหา ส่งผลให้การผลิตไฟลดลงเหลือเพียง 300 วัตต์ในแผงนั้น ถ้าเป็น String Inverter หลักการทำงานคือจะผลิตไฟได้เหลือแค่ 300 วัตต์ทุกแผงในทุกแผง แต่ SolarEdge มี DC Optimized Solution ที่เข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ โดยย้ายตัว MPPT ที่เคยอยู่ที่ Inverter ไปอยู่ที่ Optimized แทน ซึ่งจะช่วยให้แผงอื่นที่ไม่โดนเงาหรือมีปัญหาจะยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุดเหมือนเดิม SolarEdge ปัจจุบันมี Optimizer หลัก ๆ คือรุ่น รุ่น 1 ตัวต่อ 1 แผงโซลาร์เซลล์ และรุ่น 1 ตัวต่อ 2 แผงโซลาร์เซลล์
โดยปกติเฉลี่ยการผลิตไฟจาก DC Optimized Solution ของ SolarEdge จะได้ไฟมากกว่า String Inverter ปกติอย่างน้อย 3% โดยจะมีผลอย่างมากในปีหลัง ๆ ของการติดตั้ง เพราะโดยธรรมชาติไฟที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์จะลดลงทุก ๆ ปี เช่น ปีแรกได้การรับประกันจากผู้ผลิต 97% และเหลือ 80% ในปีที่ 25 ถ้าเป็น String Inverter โดยทั่วไป ในปีที่ 25 ไฟที่สูงที่สุดกับไฟที่ต่ำที่สุดที่ผลิตออกจากแผงโซลาร์เซลล์ในสตริง ๆ หนึ่งอาจจะแตกต่างกันมาก String Inverter จะทำงานโดยจับไฟจากตัวที่ผลิตต่ำที่สุด ซึ่งหมายความว่ายิ่งในช่วงปีหลัง ๆ จะทำให้ผลิตไฟได้น้อยมาก แต่ด้วย DC Optimized Solution ของ SolarEdge จะผลิตไฟได้มากกว่าเพราะมี Power Optimizer ที่ดึงพลังงานของแผงโซลาร์ให้ออกมาในรายแผง แล้วในอนาคตอีก 25 ปีข้างหน้า ค่าไฟอาจจะแพงกว่านี้มาก ทำให้ผลต่างของการผลิตไฟนั้นจะมีนัยยะในรูปตัวเงินมากกว่าในปัจจุบัน
“สิ่งที่ได้มาของ SolarEdge คือ ปริมาณไฟที่มากกว่า ซึ่งจะตอบโจทย์การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ว่าทุกคนอยากติดก็อยากได้ไฟเยอะมากที่สุด เพราะพื้นที่หลังคามีจำกัด วันนี้อาจจะเห็นผลไม่เยอะมาก แต่ค่าไฟประเทศไทยก็เห็นว่าปรับขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะปีนี้ขึ้นไปมากกว่า 25% แล้วเมื่อเทียบกับตอนต้นปี แล้วในอีก 25 ปีข้างหน้าราคาค่าไฟจะเป็นเท่าไร ยังไงก็คุ้มกับการติดตั้งในวันนี้กับโซลูชั่นที่สามารถผลิตไฟได้มากกว่า” วีรุจน์ กล่าว
ขณะนี้ SolarEdge มีตัวแทนจำหน่ายในไทย 2 ราย ได้แก่ บริษัท โซโลมอน เทคโนโลยี ไทยแลนด์ จำกัด และบริษัท สยาม โซลาร์ เซลล์ จำกัด โดย SolarEdge มีทีม Sale, Field Service Engineer 3 คน และ Technical ซึ่งมีเบอร์กลางให้สามารถโทรเข้ามาปรึกษาได้ทุกเรื่อง พร้อมทำงานเสริมกับพาร์ทเนอร์ทั้งด้านออกแบบและบำรุงรักษา เพื่อให้พาร์ทเนอร์ทั้งคู่ ซึ่งมียอดขายที่ดี เติบโตควบคู่กันกับเรา
“ยอดขาย SolarEdge เติบโตต่อเนื่องทุกปี ถ้ามี Residential ก็จะรับกับเทรนด์สมัยใหม่ และ EV Charger ก็รวมอยู่ในนี้ด้วยเช่นกัน ทุกวันนี้โซลาร์เซลล์ไม่ใช่สิ่งไกลตัว เราเดินไปห้างสรรพสินค้า ยังเห็นมีโซลาร์เซลล์ หรือจะสร้างบ้านใหม่เดินเข้าไปโซนตก
แต่งบ้านมีบูทผู้ติดตั้งโซลาร์เซลล์ไปออกงาน มองว่าเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวเรามาก” วีรุจน์ กล่าว
กล่าวเกี่ยวกับ SolarEdge
SolarEdge เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะระดับโลก ด้วยการนำขีดความสามารถด้านวิศวกรรมระดับโลกมาผสานกับความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง SolarEdge จึงได้รังสรรค์โซลูชั่นพลังงานอัจฉริยะขึ้นเพื่อขับเคลื่อนชีวิตของพวกเราและผลักดันความก้าวหน้าสู่อนาคต SolarEdge ได้พัฒนาโซลูชั่นอินเวอร์เตอร์อัจฉริยะซึ่งได้เปลี่ยนรูปแบบการเก็บเกี่ยว และการจัดการพลังงานในระบบโซล่าร์เซลล์ (PV) โดยอินเวอร์เตอร์ DC optimized ของ SolarEdge จะช่วยเพิ่มการผลิตไฟฟ้าสูงสุดทั้งยังช่วยลดต้นทุนการผลิต พลังงานด้วยระบบโซล่าร์เซลล์อีกด้วย และในขณะที่ SolarEdge ยังมุ่งมั่นพัฒนาพลังงานอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง SolarEdge ได้ตอบโจทย์กลุ่มตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ได้อย่างกว้างขวาง ผ่านระบบโซล่าร์เซลล์ (PV) อุปกรณ์กักเก็บพลังงาน การชาร์จ EV เครื่องสำรองไฟฟ้า (UPS) และโซลูชั่นงานบริการด้านสายส่ง เยี่ยมชมเราได้ที่:
https://www.solaredge.co.th/อ่านข่าวเพิ่มเติมมได้ที่