ไคลเมท คอนเนค ดิจิทัล หรือ CCD (Climate Connect Digital) ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีชั้นนำด้านสภาพภูมิอากาศ ได้เผยแพร่บัญชีก๊าซเรือนกระจกประจำปีงบประมาณ 2564-2565 (เมษายน 2564 ถึงมีนาคม 2565) และประกาศใช้มาตรการชดเชย โดยรายงานบัญชีก๊าซเรือนกระจก (GHG inventory report) ครอบคลุมถึงการปล่อยมลพิษจากกิจกรรมทางธุรกิจทั่วโลกของพนักงาน, ผู้ฝึกงาน และที่ปรึกษาทั้งหมดในสหราชอาณาจักร, สเปน, มาเลเซีย และอินเดีย
CCD มีสิทธิ์การปล่อยและดูดกลับก๊าซในประเภท (Scope) ที่ 2 และประเภทที่ 3 เท่านั้นโดยสอดคล้องกับมาตรฐานการทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก (GHG Protocol) การปล่อยก๊าซประเภทที่ 2 ที่มาจากไฟฟ้าที่ซื้อมาเพื่อใช้ในสำนักงานที่บริษัทฯ เช่าอยู่นั้นคำนวณได้มากกว่า 1 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) การปล่อยก๊าซประเภทที่ 3 ซึ่งรวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินทางเพื่อธุรกิจ การใช้งานเซิร์ฟเวอร์คลาวด์โดเมนของลูกค้า การสูญเสียพลังงานของระบบสายส่งและสายจำหน่ายไฟฟ้า และการทำงานจากที่บ้าน คำนวณได้เป็น 141.179 tCO2e โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าการปล่อยก๊าซจากการทำงานที่บ้านมีสัดส่วนสำคัญภายใต้ประเภทที่ 3
เพื่อชดเชยการปล่อยมลพิษเหล่านี้ CCD จึงได้ลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน (VCU-1946) และโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติ (VCU-1477) ที่ลงทะเบียนกับเวอร์รา (Verra) CCD เข้าใจดีว่าการชดเชยแบบนี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว แต่เป็นขั้นตอนระยะสั้นที่มีประสิทธิภาพเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษทั่วโลก บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะค้นหาวิธีการใหม่ ๆ ในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อดำเนินการเหล่านี้อย่างรวดเร็ว
การประเมินการปล่อยมลพิษและการเปิดเผยรายงานการชดเชยได้จัดทำขึ้นตามระเบียบวิธีของมาตรฐานการจัดทำบัญชีและการรายงานก๊าซเรือนกระจกสำหรับองค์กร (GHG Protocol Corporate Accounting and Reporting Standard) และโปรแกรมก๊าซเรือนกระจกของอินเดีย ข้อมูลการปล่อยมลพิษได้รับการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบบุคคลที่สาม คือบริษัททียูวีอินเดีย (TUV India Pvt. Ltd) (อ่านรายงานของทียูวีได้ที่ https://drive.google.com/file/d/10C2oC1t6q2Q1Go9L5hhKgpRq2_DVShfS/view?usp=sharing)
นิติน ตันวาร์ (Nitin Tanwar) ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายระบบนิเวศของบริษัทฯ ให้ความเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวครั้งนี้จากลอนดอน โดยเน้นว่า "การจัดทำบัญชีคาร์บอนเป็นก้าวแรกสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) นโยบายการทำงานที่บ้านซึ่งเกิดจากการแพร่ระบาดของโควิดได้เปลี่ยนสัดส่วนของการปล่อยก๊าซประเภทที่ 3 ของเราไปอย่างมาก ในฐานะผู้ให้บริการ net zero ทั่วโลก เราเข้าใจความซับซ้อนของการจัดการข้อมูลคาร์บอน และให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความถูกต้องสมบูรณ์ของข้อมูล ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะตรวจสอบการปล่อยมลพิษของเราผ่านผู้ตรวจสอบบุคคลที่สาม แม้ว่าจะไม่มีข้อบังคับให้ดำเนินการเช่นนั้นก็ตาม"
อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ https://drive.google.com/file/d/1PyAvpPcSUn-OW3RBZbUAE4DLb_eJa1YF/view
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่ https://www.thaipr.net/manufacturing/3295750