|
ไล่อ่านความคิดเห็นเก่าก่อนของเพื่อนพ้องน้องพี่ในกระทู้นี้แล้วเพิ่งอ่านได้หน้าเดี่ยวแค่นี้ก็มีความสุข ความสุขที่ได้ผูกพันธ์ ..ในกระทู้นี้
เป็นประจำครับ ..หายไปบ้าง เมื่อมีเวลาก็แวะมา... คิดถึงครับ ดงบาทา
|
|
|
|
![]() |
|
คนผ่านมา
|
พระซุ้มกอแท้นั้นนับเป็นของล้ำค่าเมืองกำแพง และถึอเป็นพระพิมพ์อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ กาลต่อมาพระช้มกอจึงเป็นของที่ชาวกำแพงมอบให้แก่ญาติสนิทมิตรสหายเพื่อเป็นของที่ระลึก ดังปัจจุบันที่งานบุญต่าง ๆ ก็มักจะมอบพระซุ้มกอหรือพระพิมพ์อื่น ๆ เป็นของที่ระลึกสำหรับผู้ไปร่วมงาน ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ก็เพื่อที่จะบอกผุ้ที่สนใจศึกษาให้ทราบว่า พระเมืองกำแพงนั้นแพร่กระจายไปในทุกภาคส่วนของประเทศ ผู้ที่ให้ก็ให้ในเจตนาที่แตกต่างกันไป นั่นยังไม่นับรวมพระที่ทำขึ้นเพื่อผลทางพุทธพาณิชย์ที่เฟื่องฟูมาร่วม 20 กว่าปีมานี้ ก็ขอให้ผู้ที่มีพระซุ้มกอหรือพระอื่น ๆ ของเมืองกำแพงไว้ในครอบครอง ได้ตรวจพินิจพิจารณาศึกษาให้ถ่องแท้ว่าพระที่เรามีอยู่หรือครอบครองไว้นั้น เป็นพระที่สร้างขึ้นในยุคใดสมดังกับผุ้ที่ใฝ่แก่เรียนแก่ศึกษาอย่างแท้จริง ซึ่งเท่ากับเป็นการสร้างภูมิความรู้เกี่ยวกับศิลปะแห่งพระเครื่องเมืองกำแพงให้แก่ตนเองด้วย....สวัสดีครับ...
|
|
|
|
![]() |
|
ลุงจ๊อก
|
พระเครื่อง.. ผมถือว่าเป็นศาสตร และมีศิลปในการสร้าง.. คนเล่นพระเครื่อง..ในวงการเขาเรียกว่าเซียน.. พระเครื่องสกุลกำแพงเพชร..มีการสรี้งมาเนิ่นานแล้ว..ก่อนกรุงสุโขทัยจะมีอำนาจ..ศิลปการสสร้างเป็นยุคทราวดี..และเมื่อกรุงสุโขทัยเป็นเมืองหลวง และกำแพงเพชรได้ตกเป็นเมืองขึ้น..เป็นหัวเมืองหน้าด่านชั้นใน..และเป็นยุคเดียวกันกับ..การเจริญรุ่งเรืองในพุทธศาสนา..ได้เจริญสุดๆ..มีการสร้างสถานที่เพื่อแสดงให้ทราบร่องรอยถึงความเจริญในแนวคิดสืบต่อพระศาสนา.. ในกาลกรุงสุโขทัยเจริญสุดๆ..ได้มีการติดต่อกับลังกา..มีการนำศิลปลังกาเข้ามา..ผมพบพระเครื่องมีใบหน้าสกุลลังกา..มีพระเครื่องดินปั๊ม(พระพิมพ์)เหมือนกันกับที่อินเดีย และอินโดนีเซีย.. จังหวัดกำแพงเพชร..เป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำใหลผ่าน..สองริมฝั่งแม่น้ำ..จะมีสิ่งก่อสร้างเป็นวัดมากมาย..เส้นทางเดินทางทางบก..ผมพบพระเครื่องพิมเดียวกันกับพระเครื่องสกุลลำพูน.สมัยพระนางจามเทวี..เป็นศิลปะสมัยทราวดี ก่อนกรุงสุโขทัย.. แสดงให้ทราบถึงร่องรอยการคมนาคม และการอยู่อาศัย..ชุมชนคนแต่ก่อนนั้น.. เมืองสุโขทัย และเมืองกำแพงเพชร เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กันไม่ห่างไกล..ระยะทางไม่เกินร้อยกิโล..หลายคนไม่เคยทราบเลยครับ..คนโบราญเขาขุดดินเป็นถ้ำใต้ดิน.ใช้สำหรับเดินทาง และหลบหลีกศัตรู.. ขอมดำดิน..นั่นก็ใช่..แต่มันถูกแปลเป็นนิทานไปเสียแล้ว.. กลับมาที่ต้นตอของเรื่องที่เข้ามาคุยอีก.. ผมมอบพระแก่ผู้ใด..ก็ไม่ใช่หมายความเป็นอย่างอื่น..ผมต้องการให้พระใว้เป็นที่ระลึก..จะดี จะชั่ว..ย่อมขึ้นอยู่กับตัวผู้ได้รับ.. ผมสะสมพระเครื่องมาแต่อายุเท่าใด..ผมก็ไม่ทราบ..เพราะโตขึ้นมา..บนบ้านของมก็มีพระเครื่องให้ดูแล้ว.. ผมนึกอยากมอบให้กับผู้ใดก็ได้..และเมื่อผู้ได้รับมอบไปแล้ว..จะเอาไปบูชา หรือเอาไปปล่อยแก้ขัดสน..ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไป.. ยังมีอีกเยอะครับ..พระเครื่องสกุลกำแพงเพชร..ซึ่งหลายคนปราถนา..เพราะเป็นสิ่งของที่ถือกันว่าเป็นมห่มงคล..ก็ให้ค้นคว้ากันเอาเอง.. ไม่อยากจะกล่าวอะไรๆอีกต่อไป.. ในเจตนา..หากใครไม่ชอบ..หรือว่า..คิดว่าไม่เป็นมงคล..ก็ให้เอาพระเครื่อที่มอบ..ไปใว้ที่วัด วัดใดก็ได้.. ในสิ่งใดๆก็ตาม..แม้กระทั่งรูปภาพที่แสดงให้เห็นว่าเป็นองค์สมมุติขององค์สัมมาฯพระ(ระดับเจ้าอาวาส)ได้บอกใว้ว่า..มีเทวดารักษาอยู่..และหากผูใดที่ได้ครอบครองแล้ว..ไม่รู้คุณค่า..ก็ต้องให้คิดกันเอาเอง.. การที่จะติดอก ติดใจในอะไรๆที่เป็นเรื่องปลีกย่อย.มันไม่ทำให้คนเรามุ่งหาแต่ความเจริญอันใดไม่ได้.. มีพระอยู่กับตัว..แขวนพระอยู่กับอก..แต่ไม่ประพฤติธรรม..ก็ไม่มีความหมายอันใด.. ผมมอบพระเครื่องให้กับเพื่อน.เพื่อเป็นการสื่อให้ทราบอะไรหลายๆอย่าง..และหากความตั้งใจดี..ความมุ่งหมายที่ดี และมอบให้.จะกลับกลายเป็นอกุศลไปเสีย..ก็เป็นอกุศลแก่ตัวู้อื่นครับ..
|
|
|
|
![]() |
|
ลุงจ๊อก
|
ได้ลงใว้แล้ว ในความรู้สึก ในความจริงใจที่มอบของเป็นที่ละลึก.. ...แต่ผู้ดูแลบอร์ดคงเข้าใจไปว่า..ผมพูดไม่ไพเราะ หรือไปเบียดเบียนใครกระมัง..ก้อแล้วแต่ความคิด และความรู้สึกของเขาเหล่านั้น..ผมไม่สามารถจะบังคับให้ใครคล้อยตามได้.. ยืนยัน..การให้ของผม..เป็นการให้ด้วยใจสุจริต..ไม่มีจริตในการให้..การให้ของผม.มีนัยแฝงแค่นิ๊ดหน่อย..คนมีปัญญาไม่มากก้อต้องคิดค้นพบจนได้.. ผมไม่ใช่เป็นผู้ปั๊ม หรือผลิตออกมาเองหรอก..ล้วนแต่หามาภายหลังทั้งสิ้น..ผมหลงไหลในศิลปะการทำพระของคนเมืองนั้น..มันมีศาสตร และศิลป์อยู่ภายใน.. การสร้างพระพิมพ์ของคนกำแพงเพชร..มีความลึกซึ้ง คนที่ไม่ได้รับทราบมาก่อนจะไม่รู้คุณค่า แต่จะอยากรู้แค่ราคาการเช่าหากัน.. ยังมีอีกนะครับ..ศิลปะสมัยพญาลิไท..ยังมีอยู่กับผม..เช่น..พระพิมพ์ปางปฐมเทศนา..เหมือนกับต้นแบบที่อินเดีย ที่ ลังกา และอินโดฯ.. หากมีความรู้มาก ก็ขอเชิญอธิบาย บรรยายให้ผมทราบด้วย..แต่หากมีภูมิแค่ห่างๆ ก็ต้องขอเชิญมาศึกษากัน..แต่หากมองผมในแง่ลบ..ผมก็คงห้ามใจกันไม่ได้.. เว็บนี้..ผมก็ห่างๆไป..ไม่ต้องการให้เป็นพันธนาการแก่ใจของผม..
|
|
|
|
![]() |
|
|
ดีใจครับที่ลุงจ๊อกยังแวะมาเยี่ยมเยือน.. ผมก็วนเวียนอยู่แถวๆนี้ละครับ รู้สึกใจหาย ที่ลุงห่างหายไป แต่เพราะเชื่อมั่นเสมอว่าลุงไม่ได้หลีกหนีผมไปไหน..และอบอุ่นใจปลอดภัยและเป็นสุขเสมอเพราะมีพระที่ลุงมอบให้มาอยู่ติดตามตัวผมเป็นไปในทุกแห่งหน ผมจึงยิ้มและมีความสุขเสมอเมื่อแวะมาอ่านที่กระทู้นี้..อย่าได้กังวลเลยครับ ตอนนี้ฝนเริ่มตกแล้ว กล้ายางแพงมาก ไม่รู้จะมีเงินซื้อยางมาปลูกเพิ่มได้อีกหรือเปล่า รักและระลึกถึงเสมอครับ ดงบาทา
|
|
|
|
![]() |
|
ลุงจ๊อก
|
กำแพงเพชร เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อนกรุงสุโขทัย..เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยทราวดี..ผมค้นคว้าเอาตามประสาภูมิที่มีอยู่..กระทั่งสมัยพระนางจามเทวีก็ยังมีอิทธิพลแผ่ลงมา เพราะผมพบพระพิมพ์ที่เป็นพิมพ์เดียวกันกับพระสกุลลำพูลครับ.. ส่วนผสมในเนื้อพระ(เซียนเรียกมวลสาร)ก็แตกต่างกันในแต่ละยุค แต่ละสมัย.. เมืองนครชุม..เป็นเมืองเก่าที่เจริญมาก่อนเมืองทางตะวันออกของแม่น้ำ..ร่องรอยที่พบจากพระพิมพ์..เป็นสมัยทาราวดี (ยุคสุโขทัยตอนต้นก็ถือว่าเป็นทาวดีตอนปลาย) วัตถุมววลสารที่ใช้ในการพิมพ์พระจะระเอียด พิถีพิถันมาก มีการใช้ชาด(สีแดงผสมลงไปด้วย) คนในสมัยนั้น รู้จักการใช้สีผสมลงในดินเพื่อพิมพ์พระ..มีการคัดเนื้อดินด้วย.งเนื้อดินของพระในแต่ละกรุก็แตกต่างกันด้วย..มีการทำพระพิมพ์มานานก่อนกำแพงเพชรตกเป็นเมืองขึ้นของสุโขทัย..และกลายมาเป็นเมืองหน้าด่านชั้นในของกรุงสุโขทัย.. หลักฐาน..พระยาลิไทได้ไปนมัสการเจดีย์พระบรมธาตุนครชุม..เดินทางมาพร้อมบริวาล..เป็นตำนานนพพระเล่นเพลงในปัจจุบัน.. พระยาลิไท..เลื่อมใสในศาสนามาก เป็นนักสร้างพระ..เป็นช่างที่หล่อพระได้สวยงามมาก สวยที่สุดในโลก..พระพุทธสิหิง พระพุทธชินราช..และหลายๆองค์ ได้ถูกอัญเชิญลงมมาประดิษฐานที่วัดในกรุงเทพฯนี่แหล่.. กลับมาที่พระพิมพ์..พระยาลิไทได้สร้างพระพิมพ์ชึ่งลอกพิมเดิมมาจากพระพิมพ์ทางฝั่งตะวันตก(นครชุม) แต่เนื้อหา มวลสารก็ไม่ระเอียดเท่ากับพระทางฝั่งนครชุม..แต่มีการใช้ชาดมาผสมลงบไปด้วย(ให้เกิดสีแดง) พระกำแพงชุ้มกอกรุวังควง..เป็นพระที่สร้างขึ้นมาในยุคหลัง..ไม่ทันสมัยพระยาลิไท..แต่ก็มีส่วนผสมคล้ายๆกัน..และมีชาดผสมอยู่ด้วย..เซียนหน้าใหม่..ทิ้ง หาว่าเป็นพระทำขึ้นมาเอง(ปลอม) ก็เป็นที่น่าผิดหวัง..รู้ไม่ถึง..เสียของ.. พุทธคุณ...คนแขวนพระ ย่อมต้องมีสติ..ระลึกธรรมอยู่เป็นนิจ..ทำให้ละจากกิเลสได้..ไม่คิดก่อกิเลส..เพราะจะมีพระที่พกพาอยู่กับตนเป็นสิ่งเตือนตนให้รู้สึกตนอยู่เสมอ..บางคนบอก..พระอยู่ที่ใจ..นั่นก็ใช่..แต่..ผม..เพื่อการศึกษาอ่ะครับ..ผมไม่เคยขายพระได้ราคาอะไร..อย่างมากก็ขอค่าพระคืนเท่านั้น..และส่วนมาก..ผมไม่ได้อะไรเลย..แม้แต่บาทเดียว..ก็เป็นของมงคล..ให้เป็นศิริมงคล..ใจผู้รับจะได้สดชื่น..ไม่เกิดกิเลส..จะได้กระทำความไม่ดีได้ยาก.. ผมยังมีพระที่พระยาลิไทสร้างอยู่ในครอบครองอีกหลายองค์..ใครอยากจะศึกษา..ผมก็อยากจะหาเพื่อนคุยด้วย..แต่หากคิดว่า ผมมีอุบายที่เป็นลบ..ก็จะเป็นกิเลสแล้ว.. ผมเอง..พระอยู่ที่ใจเหมือนกัน..คนคล้องพระ..แต่ใจมีแต่กิเลส..มันก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อตน และสังคม..
|
|
|
|
![]() |
|
|
|
ยังเทียวไปเทียวมาบ้านหลังนี้ที่เคยอบอุ่นอยู่เสมอ..กลับมาเมื่อไร แม้บ้านนี้จะเงียบไป แต่ก็มีร่องรอยแห่งความอบอุ่นโชยกรุ่นให้รู้สึกได้เป็นสุขใจเสมอเมื่อยามแวะมาเยือน .... ....เกิดขึ้น ....ตั้งอยู่ ...ดับไป เป็นกฎที่พระพุทธองค์ตรัสไว้นานแล้ว แต่ก็ใช้ได้ตลอดกาลนาน... ดงบาทา ปล.แวะมาวันนีั้เอาผลการปลูกยางแบบทุลักทุเลมาฝากครับ
|
|
|
|
![]() |
|
|
ต้นยางที่ลงแรงลงทุนปลูกในพื้นที่ 10 ไร่ 800 ต้น ตายไปเกือบ 300 ต้น เป็นบทเรียนอย่างดีสำหรับการวางแผนปลูกใหม่ ตอนนี้ทำได้แค่ปลูกซ่อมแปลงเก่าก่อน กล้ายางแพงมากกกครับ ดงบาทา
ภาพต้นยางที่รอดจากภัยแล้งการดูแลรักษาไม่ดีพอครับ v v v
|
|
|
|
![]() |
|
|
สภาพต้นยางปลูกมาแล้วปีกว่า ครับ การดูแลรักษาค่อนข้างยากนะครับ เพราะในช่วง 3 ปีแรก
ดงบาทา
ดูอีกมุมหนึ่งครับ v v v
|
|
|
|
![]() |
|
|
อีกภาพครับ เป็นต้นยางที่โดนไฟป่าลามเลีย แม้จะทำแนวกันไฟแล้วก็ตาม ตายไปสิบกว่าต้นครับ... ดงบาทา v V V
|
|
|
|
![]() |
|
![]() |
|
ลุงจ๊อก
|
กลับมา..มาพบผลการดำเนินการ.. อั้ยที่ตาย ก๊อต้องซ่อม..ที่เหลือ..ก้อเจริญเติบโตไป.. ยินดีด้วยนะครับ..ความมั่นคงได้เริ่มขึ้นแล้วในขณะนี้..
|
|
|
|
![]() |
|
|
หวัดดีครับ..แฟนๆบอร์ด..ที่ผมมีเวลาเข้าบอร์การเมือง..ก็มีเวลา สอน joomla ไม่มาก..เลยลืมกระดานนักเขียนไป.. ผมเป็นโรคภูมิแพ้ครับ..อากาศเปลี่ยน..ฝุ่นละออง..จะมีอาการทันที แต่หายหลายปีแล้ว..ง่ายดายเหลือเกิน..แค่ทานน้ำผึ้แท้..โดยใช้กล้วยน้ำว้างอมๆ..จิ้มน้ำผึ้งรับประทาน สมัยก่อนโน้น..ผมอาเจียรเป็นเลือด..ขับถ่ายก็เป็นเลือด..หมอบอกกระเพาะเป็นแผล..ทรมานมากครับ..เวลารับประทานอาหาร, น้ำ..อาเจียรออกมาหมด..เวลาหายใจเข้า..ต้องค่อยๆหายใจ..จะนอน ไม่รู้ว่าจะนอนในท่าใดดี..ที่เขาบอกว่า เมื่อเวลาปวดฟัน..จะปวดแบบแทบเห็นสวรรค์ แต่ผมปวดมากกว่านั้นมากไม่รู้ว่าเท่าใดดีครับ..ทานยาเคลือบกระเพาะ ชื่ออลูด๊อป..และก็ทานน้ำผึ้งกับกล้วยน้ำว้า..หายสนิทมาจนทุกวันนี้.. ที่เล่ามาก็เพื่อให้คุณนัทฯและเพื่อนๆบอร์ดทดลองทานกันดูครับ..หากเป็นโรคภูมิแพ้..ทดลองดูนะครับ..เพื่อจะถูกกัน.. ระบบขับถ่ายก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุนะครับ..หากการขับถ่ายไม่เป็นไปตามระบบของมัน..ความอ่อนแอของร่างกายก็จะลดลง เพราะความสมบูรณ์ที่มีอยู่จะถูกนำไปต่อต้านอาการผิดปกติครับ..ที่เขาบอกกันว่าantybodyจะลดลงน่ะครับ ที่ผมพูดคุยกับแฟนๆ..ผมนำประสพการณ์ที่ตัวผมพบมาและนำมาเล่าครับ ไม่ได้จำใครมา..ผมชอบอ่านหนังสือ..เลยทดลองเอาเอง ตามที่โอกาสจะอำนวย ครูนิมิตร ภูมิถาวร..เป็นคนตำบลบ้านไร่ อำเภอศรีสำโรง สุโขทัย..ครูบ้านนอกครับ นำตีพิมพ์ที่ใหนบ้างผมไม่ทราบ..แต่ที่ผมอ่าน..ฟ้าเมืองไทยครับ..มีอาจิณต์.ไม่แน่ใจในนามสกุล เป็นบรรณาธิการ คนหวั่นโลกอยากให้เล่าเรื่องเก่าๆ..ก็ดีครับ..เรื่องเก่า..มักจะมีลากรส..เหมือนละครเหมือนลิเก..เรื่องที่เจ๊ง..เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ผมเคยผ่าน..ผมไม่ถึงกับเสียผู้ เสียคนดังคนอื่นๆ..เพราะผมเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ใว้ก่อน ผมทราบกระทั่งความรู้สึกของคนที่ฆ่าตัวตายครับ..ผมผ่านจุดนั้นมาแล้ว..ไม่เรื่องที่ทำอะไรก็เจ็ง..แต่เป็นเรื่องที่ถูกเพื่อนหักหลัง ใส่ไคร้..กลั่นแกล้ง..เกือบหมดอนาคต..จนวินาทีสุดท้าย..คนดีพระคุ้มครอง..ผู้บังคับบัญชาของผม..รู้จักนิสัยของผม..ดูแลผมเหมือนคนในครอบครัว.. หากผมไม่ใช่คนดี..ปานนี้..ผมยิงลูก ยิงเมีย..ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่บนโลกอันโสมมใบนี้แล้ว ที่เล่ามาก็แค่เรื่องเดียว..อีกเรื่อง..เชื่อ หรือไม่เชื่อก็ตาม..แต่อยากให้นำไปคิดเล่นๆ ยามว่างๆ.. ผมเคยป่วยหนัก..คือ ผมเป็นไข้หวัดใหญ่..ตอนนั้นฤดูหนาว..เป็นหนักไปหน่อย..ไม่ออกไปคุยกับเพื่อนๆยามเย็นๆ..เพื่อนก๊อเลยเอายามาให้ทาน..ในขณะที่ให้ทานยา..ผมก็กำลังสลึมสลือ..บอกเพื่อนว่าแพ้ยาแอสไพรินนะ..เพื่อนฟังไม่เข้าใจ..ดันเอายาบลูเฟ่น..(เป็นตัวแอสไพรินตัวใหม่)ก็เลยแพ้ยาร่วงลงไปอีก..ออกอีสุก อีใสอีกรอบ.. ภรรยาของก็เลยงงๆ..เอ..ก็ผมเคยออกอีสุก อีใสมาแล้ว..ทำไมจึงออกมาอีกได้..เขาก๊อเอายาเขียวที่มีขายในร้านขายยา..เอามาแช่น้ำชาวข้าว ทั้งกิน ทั้งทา..โถ..ผมก็แย่จะตายอยู่แล้ว..ดันเอายาที่ผสมยาเสตอร์ลอยมาให้ทาน..ป่วยสามเด้งเข้าไปเลยครับ..(ยาเสตอร์ลอย ห้ามใช้กับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ..และติดเชื้อไวรัส หญิงมีครรภ์) กระดูกทุกท่อน..มันปวดเหมือนจะหลุดออกจากกัน..ในลำคอก็เป็นตุ่มๆ กินอาหารไม่ได้ กินน้ำได้น้อยเหลือเกิน.. สามวันผ่านไป..ผมหมดแรง หมดกำลังใจที่จะทำให้เกิดความเข้มแข็งได้อีกต่อไป..ไม่ทานอาหารเลยครับ..ผมยอมแล้ว..ผมยอมแล้วครับ..หากจะต้องมาตายในวัยนี้ ก็จงตายเถิด.. ผมเอามือประสานที่หน้าอก..กำหนดจิต..กำหนดลมหายใจ..หายใจเข้า...ไปถึงไหน..รู้...หายใจออก..ออกมาหมดแล้ว..รู้..รู้สึกได้ที่ปลายจมูก..เราหายใจอยู่...เข้า หรือออก..รู้..เอาแค่นี้.. มารู้สึกตัวอีกที...ผมไม่ได้อยู่ที่บ้านแล้วครับ..ภาพนั้น..ยังติดตาจนทุกวันนี้ครับ.. แค่นี้ก่อนนะครับ...มีแขกมาบ้านครับ ขอบคุณครับ
|
|
|
|
![]() |
|
|