ตะลอนเดินทางเพื่อไปตะลุยสายฝนปนหมอกกับ klx250

ขณะนั่งดูทีวีอยู่ ดีๆก็มีโฆษาณาหนึ่งของการท่องเที่ยวออกมา
บอกว่า กอดฟ้า กอดน้ำ กอดภูเขา กอดต้นไม้ แล้วให้ทุ่งหญ้ากอด กอดสะพาน กอดป่า กอดปลา กอดอะไรอีกมากมายผมเองก็จำได้ไม่หมด
มันทำให้หัวใจมันเต้นแรงนึกขึ้นมาทันที่ว่าเราจะไปกอดธรรมชาตินี้พวกนี้ได้อย่างไร ทั่งที่ตังค์ไม่พร้อม เพื่อนไม่พร้อม เวลาไม่พร้อม
แต่เราก็หามันให้พร้อมเพื่อจะออกไปกอดประเทศไทย

และแล้วทุกอย่างก็พร้อมเนื่องจากผมโดดเรียน เพื่อนโดดงานแล้วยืมเงินเพื่อนอีกคนที่ไม่สามารถมาด้วยได้ การเดินทางก็เลยเกิดทริปนี้รวมกันได้แค่สามคนก็นั่งรถไฟจากหลักสี่จะไปลงเชียงใหม่ รถออก 5ทุ่มขึ้นไปที่นั่งเต็มหมดแล้วคนแน่นมากซึ่งเป็นวันหยุดติดต่อช่วงเข้าพรรษา แต่ผมได้จองตั๋วไว้ก่อนล่วงหน้า 5วัน ก็เลยมีที่นั่ง
รถไฟจะไปเสียเวลาช่วงจังหวัดอุตรดิตถ์ไปยันเชียงใหม่เพราะเป็นช่วงขึ้นเขาและในภาพอุโมงค์ขุนตาลยาวประมาณ1300เมตร

และแล้วก็มาถึงเชียงใหม่ตอนบ่ายสอง
เมื่อไปถึงจะมีลุงเข้ามาถามว่าจะไปไหน (ลุงหลายคนมาก) ไปประตูท่าแพครับ ลุงเค้าคิด 60 บาท ในใจเอาซิตกคนละ20บาท
ไปถึงร้านpop
ไปเช่า klx วันละ800 เช่าไปสองวัน มัดจำไป5000 เอาหวะเท่าไรก็ต้องจ่ายมาถึงนี้แล้วนิ ตามแผนที่จะมุ่งหน้าไปปายที่ระยะทางประมาณ130กิโลเมตร โดยได้เอาเต็นท์ไปด้วยแต่ไม่ได้ใช้เลย โดนฝนตกทุกเย็น

มาถึงเพื่อนมันบ่นนิดหน่อยบอกไม่กลับแล้วด้วยรถไฟเพราะเสียเวลากับการเดินทางด้วยรถไฟประมาณ15ชั่วโมงแต่ค่ารถถูกดี269บาทก็เลยเปลี่ยนไปจองตั๋วรถทัวร์แทน (518บาท)แล้วไปกินข้าวเติมน้ำมันกว่าจะได้ออกก็4โมงเย็น

ออกมาได้หน่อยเดียวฝนตกอย่างหนักแต่ถ้าไม่ไปต่อก็ไม่ได้แล้วรอฝนหยุดคงไม่หยุดง่ายๆแน่ระหว่างทางโดนฝนตลอดช่วงก่อนถึงห้วยน้ำดังอยู่ดีเพื่อนคนหนึ่งก็ตามมาไม่ทันเรากับเพื่อนอีกสองคนเลยจอดรอถามว่าทำไมมาช้า แล้วเพื่อนจ็อบก็บอกว่าท้ายรถปัดเกือบเอาไม่อยู่เนื่องจากตอนนั้นมือไม้ของทุกคนชาจนไม่มีความรู้สึกไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากดเบรกหน้าลงไปเท้าไรเวลาเข้าโค้ง ตอนจอดรถต้องเอามือไปจับฝาเครื่องให้มืออุ่นมาบ้าง
แต่จากภาพเป็นภาพตอนมุ่งหน้าไปปางมะผ้าเนื่องจากตอนฝนตกไม่สามารถเอากล้องออกมาถ่ายได้

ถึงห้วยน้ำดังเจอเจ้าหน้าที่ใจดีไม่คิดเงินค่าเข้าอุทยานเนื่องจากหกโมงเย็นแล้วมั่งระหว่างทางเจอแก็งค์ขับมอไซด์วิบากเหมือนพวกเรา6-7คัน ก็โบกไม้โบกมือกันเป็นการทักทายในใจคิดว่าไม่ได้มีแต่เรา

ตอนนี้หนาวมากอุณหภูมิน่าจะประมาณ7-10 องศา เป็นครังที่สองแล้วจากที่เคยมาก้างเต๊นท์นอนที่ห้วยน้ำดังเมื่อสามปีก่อนตอนนั้นกลางคืนอุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียหนาวที่สุดในชีวิต

ขับมาถึงปายก็มึดพอดีก็เลยขับวนหาที่พักแล้วก็ได้ที่นี้ครับ วิมานคีรีรีสอร์ท ค่าห้อง 500 แต่ขออยู่3คนป้าเลยคิด6ร้อยที่นอนนิ้มมากหลับสบายมักๆ
หรือจะเป็นที่นอนมาบนรถไฟน้อยก็ไม่รู้

ไปทางไหนดีละ

โปรแกรมวันนี้ก็จะไปเที่ยวรอบตัวอำเภอปายแล้วจะมุ่งหน้าไปถ้ำลอดและปางอุ๋งและเพื่อไม่ให้
เสียเวลาเพื่อนก็เลยออกไปกอดต้นไม้ให้หายเหนื่อซะหน่อยจะได้รีบไปกันต่อ

ร้านcoffee in love ไม่รู้อร่อยป่าวไม่เคยกินเพราะไม่มีตังค์
ก็เลยเลือกกินกระทิงแดงดีกว่าเพราะอุปสักมีไว้พุ่งชนตามโฆษณา (แต่อุปสักผมมีไว้โดดข้าม)

รูปอะไรก็ไม่รู้ ภาพที่ได้ส่วนมากจึงไม่สวยเนื่องจากทริปนี้ผมไม่กล้าเอาเจ้า D80 ไปด้วยกลัวมันจะไปเปียกฝนและใช้งานไม่คล่องตัว
เลยเอากล้องcompactไปและมันปรับค่าอะไรไม่ได้มาก ก็ใช้มัน ออโต้ นี้ล่ะง่ายดี

แวะดูสะพานจากที่เคยแต่ผ่านสวยดี

เป็นเมืองเล็กๆแต่มีวัดเยอะอยู่เหมือนกัน

น่าเล่นแต่ไม่กล้า อายเด็กแถวนั้น

เก็บของเติมน้ำมันเต็มถังออกกันไปตอนเที่ยงพอดีแวะถ่ายรูปกัน

หมอกจางๆและควันคล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้ อยากจะถามดูว่าเธอเป็นอย่างหมอกหรือควัน ฮือฮือ

และก็มาถึงถ้ำลอด ใช้เลาประมาณ1 ชม.ในการเข้าชม ค่าเข้าชมอีกคนละ150 คุ้มครับกับธรรมชาติที่สร้างสรร ซึ่งภายในแบ่งเป็นห้องๆ
แต่เหม็นสุดๆ ในห้องสุดท้าย ขี้นกนางเอ่นเพียบ แต่ถ้าโชคดีจะได้เจองูอยู่ตัวหนึ่งมันอยู่ประจำแถวบริเวณนั้น(หรือโชคไม่ดี)
มีปลาในถ้ำด้วยเอาอาหารไปให้มันกินด้วยก็ได้นะครับ
ไกด์บอกที่นี้เปิดให้คนเข้าชมมาแล้วประมาณ 20กว่าปีแล้ว ป๊าดโถ่นี้เรามาช้าไปขนาดนั้นเชียวหรือ

น่าจะเป็นตรงกิ่วลม

ขับออกมาอีกประมาณ50โลก็จะถึงถ้ำปลาแวะซะหน่อย ปลาตัวใหญ่มากๆ แต่มีเราแค่สามคนเองที่เข้าไปดู

ไหนๆก็มาแล้วขอกอดปลาซะหน่อย

แล้วก็ออกมาจากดูปลากะว่าจะไปนอนที่นี้
ทางช่วงนี้ชันดีเหมือนกันและหมอกเยอะและถนนเปียกและช่วงลงเขาแค่แตะเบรกหลังแรงไปนิดท้ายคอยจะปัดต้องคอยตบเกียร์ต่ำ
โอ้ยๆกว่าจะผ่านกันไปได้ สรุปสุดท้ายไม่ได้นอน ก็เลยไปหาบังกาโลหรือห้องพักที่ แม่ฮ่องสอนดีกว่า
ขากลับมืดแล้วด้วย หมอกเยอะ ใส่แว่นก็มองไม่เห็นทาง ไม่ใส่แมลงก็เข้าตา

ป้ายชี้แม่ฮ่องสอน แต่ทำไมยังไม่ยอมถึงซักที ฉันเมื่อยแล้วนะ
เมื่อไปถึงขอพักยืดเส้นหน่อยแลัวกัน เหลือบไปเห็นสาวแคชเชียร์ที 7 ป๊าดขาวปานโอโม้น่ารักจริงๆ
วันนี้ได้ค่าห้อง450 หลับสบายเช่นกัน
เช้าตื่นตอนฟ้าสางแล้วก็รีบออกเลยแวะขึ้นไปบนพระธาตุกองมู

สนามบินแม่ฮ่องสอน เช้ามาดูเงียบๆดี ไม่มีหรอกครับเสียงรถตุ๊กๆวิ่งให้สนั่นสะท้านซอย

วันนี้จะมุ่งหน้ากลับเชียงใหม่กับระยะทางอีก200Km โดยผ่าน บ.หัวน้ำแม่สะกึด บ.ห้วยฮี บ.หนองขาว บ.ห้วยปูลิง บ.ห้วยปูเลย
บ.ห้วยไม้ดำและอีกหลายหมูบ้านเพื่อมุุุ่งหน้าไปบ้านวัดจันทร์ แม่แดด บ่อแก้ว สะคุณ หางดง เชียงใหม่

ช่วงระหว่างทาง บ.หัวน้ำแม่สะกึดยังเป็นทางดำขี่สบาย

มีตลาดคนเดินเหมือนกันก็เลยแวะซื้อผ้าพันคอมามาผื้นหนึ่ง 50 เองทอมือด้วย
เห็นไฟสวยๆก็เดินมาดูวัดซะอีกหน่อย เช้าก็เลยมาถ่ายรูปอีกที

อยากจะบอกว่าไปสัมผัสมาหมดทุกที่ที่ลงแล้วคร้า
สวยงามมากๆๆ ต่อด้วย อินทนนท์ อ่างข่าง ภูชี้ฟ้า สิค่ะ
นั่นแหล่ะสุดยอดเลย สำหรับนักเดินทาง

บรรยากาศหน้าฝนสวยจัง เมื่อปีที่แล้วไปดอยอินทนนท์มาตอนหน้าฝนสวยเหมือนที่นี่เลย
เอาไว้ปิดเทอมจะไปมั่ง ตอนนี้ขอเก็บตังก่อน อิิอิ
อย่าลืมเอารูปมาลงอีกนะคะ q*021 q*021

ผมก็ยังเสียดายอยู่เลยครับผ่านเชียงใหม่ก็หลายที่แต่ยังไม่เคยขึ้นดอนอินทนนท์ที่ว่าสูงที่สุดในประเทศไทยเลย
แต่ดอยอ่างข่างกับภูชี้ฟ้ามีโอกาศได้ไปมาแล้วครับแต่ไปช่วงหน้าหนาว
มันจะดูแห้งๆไม่ค่อยสดชื้นเท่าไรแต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบครับ

ช่วงนี้กำลังจะมุงหน้าไปบ้านวัดจันทร์ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 5032 ถ้าจำไม่ผิด
งานนี้รองเท้าเปียกตลอดไม่มีโอกาศได้แห้งเลย โชดดีสุดๆเช้านี้ฝนยังไม่ตก

ต้องเปิดดูแผนที่ซะหน่อยว่ามาได้ถึงไหนแล้ว
บางจุดทางแยกระหว่างทางมัน ดู 50 50เลยไม่รู้จะไปซ้ายหรือขวาดี
ถ้าพลาดไปละไปกินข้าวลิงในป่าแน่เรย

ความมันอยู่กันตรงที่ขี่ไม่ขึ้น

ทางไม่ยากแต่ฝีมือมีกันไม่ถึง

บางช่วงมีถนนลอบฟ้าครับแต่ก็ไม่มีเวลาถ่ายมาครับเนื่องจากเราเสียยเวลาช่วงทางแถวห้วยฮีไปเยอะ
และฝนตกก็ไม่กล้าเอากล้องขึ้นมถ่าย

ทางดีก็ขี่สบาย

แผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่

โรงเรียนในหุบเขา

นาขั้นบันไดใช้น้ำที่ไหลมาจากภูเขาด้านบน ไม่รู้ว่าฉีดยา ใส่ปุ๋ยบ้างหรือเปล่า แต่คงจะปลอดสารพิษแน่แน่

แวะพักเหนื่อยซะหน่อย

อีกมุม1 หรือเป็นอีกที่ 1 จำไม่ได้ ผ่านมาหลายนา ตอนนี้ยังงงงง

กว่าจะมาถึงบ้านวัดจันทร์ใช้เวลาไป4ชม.กับระยะทางประมาณ90km
ดีนะที่ระหว่างทางไนี้ไม่โดนฝนทำไมป่านนี่คงนอนอยู่ห้วยปูลิง

แวะเติมน้ำมันซะหน่อย ถ้าไม่เติมไปหมดกลางทางแน่ๆ
ดูสภาพรถกว่าจะหลุดกันมาได้

ใหนๆก็แวะเติมน้ำมันแล้วกินก๋วยเตี๋ยวอีกคนละชามเอาแรงหน่อยหลังจากที่ใช้พลังงานไปเยอะ
เพื่อนผมดิจ้องมองแต่แม่ค้า
แต่ผมแอบถ่ายมาซะเลย ฮาฮา

ยังไม่จบครับมีต่อหน้าสองอีกหน่อยครับ

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน