Yes or No อยากรักก็รักเลย ( 3 ดาวครึ่ง )
................................หนังสือไม่อาจตัดสินได้จากหน้าปกฉันใด ภาพยนตร์สักเรื่องก็ไม่อาจตัดสินได้จากแค่ใบปิดหนังหรือแม้แต่ตัวอย่างหนังฉันนั้น ? ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็คงไม่ต่างจากผมหรอกทีแรก เพราะเห็นการโปรโมทหนังเรื่องนี้แล้วก็คงคิดว่า โอ๊ย มันก็แค่หนังรัก ทอมๆดี้ๆ เพียงแต่ที่แปลกกว่าหนังรอมคอมเรื่องอื่น ก็เพราะตัวเอกเป็นหญิง หญิง ใครที่เกลียดรักร่วมเพศ ก็คงเบือนหน้าหนี ส่วนพวกชายจริงหญิงแท้บางส่วนก็อาจจะรู้สึกประหลาดๆถ้าต้องไปดูหนังเรื่องนี้ คำถามก็คือ ความรักนี่มันมีแบ่งแยกเพศด้วยเหรอ ต้องเป็นชาย หญิง เท่านั้นเหรอถึงจะรักกันได้ ถ้าเพศเดียวกันรักกัน จำเป็นต้องเป็นทอมๆดี้ๆ เป็นเลสเหรอ ถ้าหากว่าเป็นชาย ชาย รักกัน ต้องกลายเป็นเกย์เสมอไปหรือเปล่า ? คุณเอาอะไรมาวัด ถือสิทธิอะไรมาแบ่งแยกความเป็นคน ทีเรื่องของตัวเองล่ะมาเรียกร้องความเสมอภาค แต่กลับไปยัดเยียดความไม่เป็นธรรมให้คนอื่น สมควรใหม ?
................................Yes or No อยากรักก็รักเลย เล่าเรื่องราวของผู้หญิง 2 คน คนนึงมาดทอม อีกคนนึงเป็นสาวหวาน จำใจต้องมาอยู่ร่วมห้องเป็นรูมเมทในมหาลัยแห่งหนึ่ง เพราะเหตุจำเป็นบางอย่าง เริ่มจากการที่ฝ่ายนึงไม่ชอบหน้าอีกฝ่ายนึง จนได้ใช้เวลาด้วยกัน ใกล้ชิดกัน ได้รู้จักสนิทสนมกันและกันมากขึ้น จากที่ไม่ได้คิดอะไร จากที่เป็นหญิงแท้ไม่ได้หลงใหลเพศเดียวกันแต่อย่างใด ก็เกิดความรู้สึกพิเศษขึ้นมาได้ แล้วทีนี้จะให้พวกเธอทำอย่างไรล่ะ ? ความรักมันต้องการเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หรือเปล่า หรือมีตรรกะอะไรที่ซับซ้อนมารองรับหรือไม่ ? ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของจิตใจ ถ้าเรารู้สึกว่า นี่คือคนที่ใช่ ไม่ว่าใครจะค้านอย่างไร ถ้าหากว่าคนๆนั้นมีความมั่นคงเพียงพอ เค้าก็รู้ว่าจะต้องทำยังไงที่จะทำให้ความรักของเค้ามันไปถึงจุดมุ่งหมาย ตัวละครสองสาวในหนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน แน่นอนว่าความรักแบบเพศเดียวกันเช่นนี้ มันคงไม่ง่ายแน่ๆ !!
................................แม้จะมีภาพลักษณ์เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้แบบวัยรุ่น แต่หนังเรื่องนี้ก็เล่าเรื่องอย่างรัดกุมมากๆ ค่อยๆพัฒนาความรู้สึกของตัวละครไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่มีช่วงใหนเลยที่เรารู้สึกว่า มันเร็วไป หรือช้าไปหรือเปล่า จังหวะมันใช่ไปหมด เรารู้สึกเลยว่าเค้าคลิกกัน ตกหลุมรักกัน และมีความรู้สึกดีๆให้กัน แต่การที่คนสองคนที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะชอบพอกับเพศเดียวกันได้ มันก็ต้องใช้เวลา ต้องปรับตัวปรับใจอะไรพอสมควร โชคดีที่หนังไม่ได้เล่นง่ายๆใส่มาแค่ว่าตัวเอกที่ดูเหมือนทอม นั้นเป็นทอมอยู่แล้ว และ นางเอกฝ่ายหญิงก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบ ดี้ ด้วย มันเลยทำให้หนังดูเป็นมนุษย์มากขึ้น เพราะงั้นหนังเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องราวความรักเบี่ยงเบน รักร่วมเพศแต่อย่างใด แต่มันคือหนังรักที่ว่าด้วยเรื่องราวของ " คนสองคน " ที่รู้สึกดีๆต่อกันอย่างบริสุทธิใจ ซึ่งหนังทำให้ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่าความรักเช่นนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ ~
................................ผมหลงรักหนังเรื่องนี้เอามากๆในแทบทุกส่วนของมัน โดยเฉพาะบทภาพยนตร์ที่แม้อาจจะมีหลุดๆบ้าง แต่ก็เขียนประโยคจี๊ดๆแบบที่ทำให้ผมซี๊ดปาก หรือแม้แต่บางทีหลุด " เยส " ออกมาเลย คือมันโดนสุดๆครับท่านผู้ชม !! แล้วตัวละครในหนังก็น่ารักมาก นักแสดงทุกคนแม้จะเป็นมือใหม่ ต้องขอชมเลยว่าทำหน้าที่ได้ดีมากจริงๆ ไม่ว่าจะน้องติ๊นา หรือน้องออม น่ารักบาดใจสุดๆ ที่ปลื้มมากๆก็น้องดิว อริสรา เธอแย่งซีนตลอด เธอสวยกระชากใจจริงๆ อยากจะโผเข้าไปปลอบใจชมัดยาดเลย อิอิ ( อิจฉากอล์ฟไม๊ค์ ) ดารารับเชิญจากคุณอิน บุโดกัน หรือคุณพี่เพ็ชร พี่อ๊อด ก็เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพร๊ซ์แบบสุดๆ !! ดนตรีประกอบได้อารมณ์มาก ที่สำคัญเพลงประกอบนี่ ฆ่ากันเลยดีกว่าใหมครับ ?? จังหวะอารมณ์ งานกำกับของผกก.ใหม่ คุณสรัสวดีนี่ มืออาชีพจริงๆครับ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นผกก.ไม่คุ้นชื่อได้ยินว่าเป็นทอมด้วย ถ่ายทอดอารมณ์ความรักระหว่างผู้หญิงได้นุ่มนวล ประทับใจ ดูแล้วกลับมาเคลิ้มอีกหลายเพลา ขอแนะนำเลยครับว่านี่คือหนังส่งท้ายปลายปีที่คุณๆ พลาดไม่ได้อย่างแท้จริง !!
ป.ล. ฟังเพลงเพราะๆจากหนังคลิกด้านล่างได้เลย
http://www.pandagroup.pantown.com/
