หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: แปลงเพศเอื้ออาทร.....เพื่อใครกันแน่!!  (อ่าน 11289 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 9 มี.ค. 11, 16:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

โดย just say hi โครงการเพื่อชายรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพ เอ็มพลัส

ในโลกยุคสันนิวาสนี้อะไร อะไรก็เกิดขึ้นได้เพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ตั้งแต่ระดับความ ต้องการขั้นพื้นฐาน ความต้องการมั่นคงปลอดภัย ความต้องการความรัก การยอมรับ ไล่เรียงไปถึงความต้องการสำเร็จ ความสมบูรณ์ของชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยความเป็นคนที่อยู่บนพื้นฐานของความ อยาก ความต้องการเป็นที่ตั้งหลัก และฉันเองก็เป็นคนที่ยังวนเวียนอยู่กับการตอบสนองความอยากของฉันเองเฉกเช่น ผู้อื่นเช่นกัน

แต่ฉันเริ่มสังเกตตัวฉันเองอย่างหนึ่งเมื่ออายุอานามลามเข้าวัยกลาง คน ฉันเริ่มสำเหนียกความต้องการของฉันว่าสิ่งที่ฉันต้องการนั้นแท้จริงฉันต้อง การ หรือคนอื่น หรือสังคมต้องการ เพียงแต่มีฉันเป็นร่างทรงของความต้องการทางสังคมเหล่านั้น ฉันเริ่มตระหนักว่าความต้องการของฉันนั้นมันดีสำหรับฉันแต่มันเลวร้ายสำหรับ คนอื่นหรือไม่ อย่างไร ความต้องการฉันมันทำให้ฉันรอด แต่คนอื่นก็อาจจะล่มจมก็ได้ และยิ่งกว่านั้นถ้าความต้องการนั้นมันถูกโฆษณาชวนเชื่อสู่สาธารณะอย่างที่ มวลชนเหล่านั้นไม่รู้เท่าทันหรือมีข้อมูลไม่รอบด้านอะไรจะเกิดขึ้นกับสังคม โดยรวม ซึ่งไม่ว่าความต้องการนั้นจะสร้างสรรค์ ดีงาม และชั่วร้ายเพียงใด ย่อมต้องมีพื้นที่ให้กับคนที่เขาไม่ต้องการ หรือสูญเสียประโยชน์จากความต้องการของใครบางคน ให้เขามีโอกาสพูด สื่อสาร มากกว่านำเสนอเพียงมุมที่ผู้สื่อสารและสารหลักต้องการเท่านั้น

และถ้าคุณผู้อ่านได้ติดตามข่าวเล็กๆ แต่สร้างความฮือฮาพอสมควรทางสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ (เล็กน้อย) ในวงการแปลงเพศ และวงการของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่มุ่งไปยังกลุ่มชายที่ใคร่จะเป็น หญิง แล้วประกาศตนเป็นผู้หญิงข้ามเพศ เราคงได้ยินเรื่อง การแปลงเพศเอื้ออาทร หรือบางท่านก็ตั้งชื่อให้น่ารักว่า จิ๋ม เอื้ออาทร

ในเบื้องต้นฉันสนใจ คำว่า “เอื้ออาทร” มากกว่าคำว่า “จิ๋ม” (คงไม่ต้องบอกเหตุผลว่าทำไม) คำว่า “เอื้ออาทร” นี้เกิดขึ้นในยุครัฐบาลทักษิณ ภายใต้แนวคิดประชานิยมที่มุ่งทำงานกับคนยากคนจน หรือคนระดับล่างของสังคม โดยมีจุดประสงค์ทางการพัฒนา หรือคือให้คนเข้าถึงโอกาส (อันน้อยนิด) และเข้าถึงทรัพยากร (อันจำกัด) และมีจุดประสงค์ทางการเมือง คือสร้างฐานกำลังทรัพยากรบุคคลอันเป็นฐานเสียงแห่งสรรค์ รวมทั้งมีจุดประสงค์อื่นๆ แอบแฝงอีกมากกว่านั้นแต่มิขอเอ่ยถึง เกรงจะระคายเคืองเบื้องบาทของใครบางคน และพลอยให้ไม่อ่านบทความของฉันให้จบ (ซึ่งเป็นความต้องการของฉัน)

คำนี้มีนัยยะทั้งทางการเมือง และนัยยะทางชนชั้นทางสังคม ที่กำลังบอกถึงคุณภาพของผู้รับบริการว่าเป็นเช่นไร และสะท้อนถึงความสัมพันธ์ และการผูกพันของผู้ให้กับผู้รับอย่างที่ไม่เท่าเทียมและเสมอภาค หากแต่เป็นแนวคิดแบบสังคมสงเคราะห์ หรือประชาสงเคราะห์ และถ้าท่านติดตามเรื่องนี้แล้วก็ผูกโยงไปถึงธุรกิจการศัลยกรรมทางการแพทย์ ที่ว่าด้วยการแปลงเพศ ซึ่งมีบริษัทเอกชนในคราบโรงพยาบาลให้การสนับสนุน และทรงร่างผ่านม้าขี่ (ม้าขี่ เป็นภาษาเหนือ หมายถึงร่างทรง หรือคนทรงเจ้า) ที่มีชื่อว่า กลุ่มผู้หญิงข้ามเพศ และสร้างวาทกรรมของการพัฒนาสังคมและตัวตนทางเพศมากมาย เพื่อสร้างความชอบธรรมต่อการสื่อสารกับมวลชน

สิ่งที่กลุ่มดังกล่าวพยายามอธิบายตัวตนทางเพศของเขาว่า พวกเขาก็คือผู้หญิงแต่มีความผิดปรกติคือเกิดมามีร่างเป็นชายซึ่งต้องได้รับ การรักษาเพราะความผิดปรกตินั้นถูกบอกว่าเป็น โรคชนิดหนึ่ง และย้ำอยู่เสมอว่าเป็นหญิงตั้งแต่เกิด ซึ่งประเด็นนี้ก็ทำให้ฉันสับสนเข้าอย่างจังว่า เธอรู้ได้อย่างไร เพราะตอนคลอดหมอคงไม่สับสนเครื่องเพศขนาดเห็นจู๋ แล้วบอกว่าเป็นจิ๋ม แต่ฉันเชื่อว่าการเป็นชาย เป็นหญิง เป็นกะเทย เป็นเกย์ หรือเป็นเพศภาวะอื่นๆ มันมีส่วนของสังคมสร้างมันขึ้นมา พูดง่ายๆ คือเป็นกระบวนการสังคม ที่เรียกว่า สิ่งแวดล้อมทางสังคม สร้างและขัดเกลาขึ้นมา กอปรพันธุกรรม ซึ่งก็เป็นอิทธิพลที่มนุษย์ทุกคนประสบอยู่แล้ว และกลุ่มดังกล่าวนี้ก็ไม่ได้ประกาศตัวตนของการเป็นผู้หญิงข้ามเพศตั้งแต่ เด็ก ๆ ซึ่งก็มาประกาศตัวมาไม่กี่ปีมานี้แล้วจะบอกว่ารู้ตั้งแต่เด็กอย่างไร

หากแต่พวกเธอก็อยู่ในช่วงกระบวนทางสังคมต่อตัวตนทางเพศของเธอแล้ว กำหนดอัตลักษณ์ทางเพศดังกล่าวในช่วงหลังไม่ใช่หรือ และใช้โอกาสทางสังคมสร้างพื้นที่ให้ตัวเองในการอธิบายตัวตนทางเพศของตนเอง ใหม่กับสังคม ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการอธิบายอย่างอัตวิสัย หรือ ตอบสนองความอยากของตนเองอย่างมิไยดีต่อผลกระทบทางสังคมและชีวิตอื่น เพราะความเป็นจริงยังมีกะเทย ที่มีร่างเป็นชายแล้วแต่งตัวเป็นหญิง และบางนางก็ไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศแต่อย่างใด ซึ่งเธอเหล่านั้นก็ภูมิใจในความเป็นอัตลักษณ์ทางเพศแบบนั้น แต่วันดีคืนดีมีคนบอกว่าเธอเหล่านั้นผิดปรกติ เพราะไม่เหมือนพวกฉันที่รู้ว่าฉันผิดปรกติเพราะมีร่าง และมีอวัยวะเพศชายแต่ฉันเป็นผู้หญิง จึงจำเป็นต้องรักษาด้วยการแปลงให้เหมือนหญิงเลยแล้วความผิดปรกติก็จะมลายหาย ไปเป็นคนปรกติ และอย่างไรถ้ากะเทยอีกคนที่ก็บอกว่าตนเองก็เป็นหญิงแต่ไม่ได้ผ่าตัดแปลงเพศ เธอจะกลายเป็นวัตถุต้องสงสัยไปเลยหรือเปล่าว่าผิดปรกติ บางท่านก็บอกว่ามันเป็นขบวนการของจิตใต้สำนึกที่ลึกๆ คิดว่าตนเองเป็นหญิง ซึ่งฉันก็บอกว่ามันก็ไม่ผิดที่จะคิดอย่างนั้น แต่ต้องไม่ทำให้จิตใต้สำนึกมันวิปริต วิปลาสขนาดที่ทำให้ผู้อื่นเขาสับสน และสยองขวัญกับคำอธิบายภายใต้วาทกรรมแห่งโรค และความผิดปรกติ

(มีต่อ)

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 9 มี.ค. 11, 16:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

กล่าวคือถ้ากลุ่มดังกล่าวจะอธิบายหรือกำหนดอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง ตามความพึงใจของตนก็ทำไปแต่อย่าไปบอกว่า คนอื่นวิปริต ผิดปรกติ เพราะพวกเขาเป็นชายแล้วแต่งหญิง หรือพวกกะเทยที่ไม่แปลง ซึ่งถึงแม้นว่ากลุ่มดังกล่าวจะไม่บอกกล่าวตรงๆ ว่ากะเทยไม่แปลงผิดปรกติ แต่ด้วยนัยยะมันถูกอธิบายอย่างนั้น และในขณะเดียวคนทำงานด้านความหลากหลายทางเพศเองก็มีความประสงค์ที่จะสร้าง การรับรู้ทางสังคมเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศ ตัวตนทางเพศ รสนิยมทางเพศ ที่หลากหลายในสังคมนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดปรกติ หรือแปลกประหลาดอย่างไร ถ้าไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อน และพยายามทำให้เห็นความหลากหลายดังกล่าวว่ามีอยู่จริงและควรให้ความเคารพต่อ ความต่างนั้นๆ แต่การที่ผู้หญิงข้ามเพศเหล่านั้นกำลังส่งเสริมแนวคิดดังกล่าวมันกลายเป็น การผลิตซ้ำความคิดแบบคู่ตรงข้าม ที่ว่าด้วยหญิงกับชาย คือถ้าคุณไม่อยากเป็นชาย คุณก็กระโดดมาฝั่งผู้หญิงและสร้างรูปลักษณ์ใหม่ให้สอดคล้องกับผู้หญิง และความเป็นผู้หญิง


กล่าวคือถึงที่สุดก็ไม่พ้นจากกรอบหญิงชาย และรากฐานของกรอบดังกล่าวก็มีระบอบปิตาธิปไตย หรือชายเป็นใหญ่ในสังคมที่ควบคุมและแทรกซึมทุกระบบของสังคมจนเห็นเพศอื่น ด้อยกว่าเพศตน ซึ่งนี้ก็เหมือนกลับไปหาจุดฐานความคิดเก่าที่ไปไม่พ้นจากกรอบหญิงชาย และสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือกลุ่มนี้พยายามยกเหตุผลของการเป็นผู้หญิงข้ามเพศ ที่มาจากการอธิบาย ขององค์การอนามัยโลก ที่ว่าด้วยเรื่องบัญชีแยกโรค (ICD 10) ที่กล่าวว่า Transexualism นั้นยังเป็นโรค หรือผิดปรกติอยู่ และทางสมาคมจิตแพทย์อเมริกาเองก็ยังคงคำนี้ว่าเป็นโรคเช่นกัน นั้น ทางเครือข่ายคนทำงานด้านคนรักเพศเดียวทั้งระดับสากลและระดับประเทศก็มีเครือ ข่ายเพื่อนกะเทยไทยพยายามรณรงค์ที่จะถอดถอนคำนี้ออกจากบัญชีรายชื่อโรคนี้ ซึ่งคำอธิบายเหล่านั้นเป็นคำอธิบายทางการแพทย์ทรงอำนาจหากแต่อ่อนด้อยปัญญา ทางสังคมอยู่ เพราะการเป็นกะเทยนั้นมิได้เป็นโรค หรือจิตวิปริต หรือผิดปรกติ


หากเป็นเช่นนั้นคนเหล่านี้ก็ไม่สามารถดำรงตนในสังคมอย่างปรกติหรือมี คุณภาพเช่นที่เห็นกัน คำว่า ผู้หญิงข้ามเพศ นั้นเหตุมาตั้งแต่ทางเครือข่ายความหลากหลายทางเพศพยายามที่จะเข้าไปร่วม รณรงค์เรื่องการการใช้คำนำหน้านามของผู้หญิง ซึ่งมีการพูดกันว่าถ้ากะเทยจะมาใช้สิทธิ์ทางกฎหมายเรื่องนี้ร่วมกับกลุ่ม ผู้หญิงก็ต้องเปลี่ยนแปลงร่างกายให้เป็นหญิงทั้งกายและใจถึงจะใช้สิทธิ์นั้น ได้แต่กระนั้นก็ไม่มีอันที่สิ้นสุดต่อเรื่องกล่าวว่ากะเทยจะใช้คำนำหน้า นาง นางสาว ได้จนปัจจุบัน ในระดับสากลคำว่า male to female , Transfemale , Transwomen ก็มีการนำมาเป็นถ้อยคำในเชิงสัญญะ ของการขับเคลื่อนทางการเมืองเรื่องเพศ และกลุ่มดังกล่าวก็เลือกที่ใช้คำว่า ผู้หญิงข้ามเพศ (Transwomen) มาอธิบายตัวตน และเป็นประเด็นในการขับเคลื่อนทางกฎหมาย


นัยยะของการเปลี่ยนคำนำหน้านามดังได้กล่าวข้างต้น หากแต่ฉันเองไม่ติดใจต่อการเคลื่อนด้วยยุทธวิธีของกลุ่มนี้ แต่สิ่งนี้ที่กลุ่มต้องสำเหนียกและคำนึงถึงว่าการเคลื่อนนั้นต้องคำนึงถึง มวลชนโดยร่วมด้วย การเคลื่อนต้องไม่สร้างการละเมิดสิทธิ์ การกีดกัน การตีตราซ้ำซ้อน หรือทำให้คนอื่นกลายเป็นชายขอบแล้วตัวเองเสวยแท่นอยู่ศูนย์กลางแต่เพียง กลุ่มเดียว กล่าวง่ายๆ คือ กรุณาอย่าเหยียบหัวชาวบ้านขึ้นไป อย่าลืมว่าถึงแม้นเราพยายามจะเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับใดๆ ให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ วิถีเพศ และชีวิตของเรา แต่หากสังคมยังไม่เปลี่ยนทัศนคติที่ถูกต้องต่อความเป็นเพศของแต่ละบุคคลแล้ว นั้น การมีกฎหมายก็เปล่าประโยชน์ เพราะสังคมไม่ได้ดำรงอยู่ด้วยกฎหมายเท่านั้น


เพราะฉะนั้นกลุ่มผู้หญิงข้ามเพศควรที่จะแสวงหาโอกาสในการทำงานด้าน ทัศนคติ ความคิด ความเชื่อของสังคม แล้วจับมือร่วมกับมวลชน แสวงหาแนวร่วมผู้สนับสนุนมากกว่าสร้างผู้คัดค้านด้วยเหตุแห่งความไม่ประสี ประสาทางสังคม สร้างความรู้ที่สอดคล้องกับความจริง ศึกษาวิจัยในเรื่องนี้กับสังคม มากกว่าที่จะออกมาให้ข้อมูลเชิงทรรศนะที่ขาดวิ่น เปิดเสียง และคำพูดของผู้เห็นด้วย และเห็นต่างที่มิได้มุ่งแต่การทำโฆษณาชวนเชื่อ แสวงประสบการณ์ของผู้หญิงข้ามเพศ กะเทยทั้งที่ได้รับผลกระทบจากการแปลง และไม่แปลงต่างกันอย่างไรในการดำรงชีวิตประจำวัน


อะไรคือตัวตนที่แท้จริง และความเป็นตัวเองของผู้หญิงข้ามเพศ การออกมาสู่สาธารณะชนผ่านสื่อมวลชนอย่างหาสาระดีๆ ฟังมากกว่าภาพกะเทยแย่งกันพูดในทีวี จังหวะในการก้าวเดินควรมียุทธวิถีที่สร้างสรรค์กว่านี้ มากกว่าทำให้มันเป็นปัญหา หรือประเด็นทางสังคมแล้วเดินกลับบ้านส่วนใครจะเดือดร้อนก็ช่างหัวมัน นั้นเห็นที่กลุ่มดังกล่าวควรทำการบ้านมากกว่าทำโฆษณา เพราะคุณไม่พูดความจริงทั้งหมดหากคุณเลือกที่จะพูดบางส่วน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้ เรื่องนี้ เรื่อง แปลงเพศ เอื้ออาทร เพื่อใครกันแน่!!!

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ผู้หญิงโดยกำเนิด
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 09:50 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คุณนกยลดา น่าจะดูแบบอย่างตัวแม่อย่างพี่ม้าอรนภา หรือคุณเจินเจิน
บ้างนะคะ บุคคลที่กล่าวถึงหรือท่านอื่น ๆ ที่เราไม่ได้ยกมาพูดถึง
คุณน่าจะดูว่าเขาเหล่านั้นทำไมถึงดำรงตนอยู่อย่างมีเกียรติและ
ศักดิ์ศรีในสังคมอยู่ได้ นั่นเพราะเขารู้จักตัวเองดีและแสดงออกมา
ทางสังคมได้อย่างเหมาะสม เขาจึงมีที่ยืนอยู่ในสังคมมาได้โดยตลอด
คุณอยากมีพวกพ้องมากขึ้นเพราะต้องการอำนาจในการต่อรอง
ในการใช้คำว่านางสาวเลยสร้างกระแสขึ้นมา แต่ในเมืองไทย
มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยากนะคะ หากคุณต้องการสิ่งนั้นจริงๆ
ไปใช้ชีวิตอยู่ในที่ๆคุณจะมีสิทธิ์ใช้มันได้อย่างเสรีเถอะค่ะ
คนด้อยโอกาสในเมืองไทยยังมีอีกมากมายนักที่รอรับการช่วยเหลือ
จากภาครัฐและจากภาคเอกชนที่สนับสนุนคุณอยู่ เอาเงินพวกนั้น
ไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่นอนรอความตายอย่างคนไข้อนาถาจะดีกว่าไหมคะ
ถ้าคุณคิดจะร่วมมือกับผู้สนับสนุนคุณอยู่เบื้องหลังทำความดีอย่างที่
ยกตัวอย่างมานี้ เราว่าไม่แน่นะคะการทำความดีของคุณอาจจะส่งผล
ให้คนยอมรับคำว่าผู้หญิงข้ามเพศมากขึ้นก็ได้


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 09:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จบแล้วใช่ป่ะ? แสดงความคิดเห็นนะ เรื่องของการแปลงเพศ ถ้าไม่มีใครพูดถึง ก็มีกลุ่มคน (ไม่กี่คน) ทำกัน ขอเสริมเรื่อง ทอม ดี้ กระเทย เกย์ พวกนี้มีเยอะ และไม่ได้แปลงเพศก็เยอะ ที่แปลงเพศมีน้อย เพราะพวกที่คิดจะแปลงจริงๆ จัดเป็นประเภทที่เลยคำว่า ทอม ดี้ กระเทย เกย์ ไปอีกขั้น นั่นคือเป็นโรคจิตประเภทหนึ่ง คือไม่ยอมรับสภาพร่างกายตัวเอง อย่างไรก็ตามแพทย์ศัลยกรรมทางด้านนี้ก็ต้องตรวจเช็คคนที่มาทำเป็นอย่างดี คือถ้าแปลงซะขนาดนี้ก็จะมีเรื่องของจิตแพทย์เข้ามาทำงานร่วมด้วย เรื่องของการแปลงเพศเชื่อว่ามีหลายคนได้ยินกันมานานแล้ว ถ้ามีใครทำเราก็มักจะไม่ค่อยสนใจ เช่น ปอย จีเน็ท เราก็รู้สึกเฉยๆ แต่พอรัฐบาลหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นก็เลยเป็นเรื่องทุกที อย่างไรซะถึงรัฐบาลจะยกขึ้นมาเป็นประเด็น แต่ในความเป็นจริงก็ไม่สามารถสร้างกระแสนิยมได้ เหมือนกับกรณีการเปิดเผยเรื่องพวกกระเทย ทอม สมัยก่อนไม่ค่อยยอมรับ ปัจจุบันก็เฉยๆ แล้วจะทำให้กระเทย ทอม มีมากขึ้นรึเปล่า? งานวิจัยเรื่องแบบนี้ก็ไม่ค่อยมี หรือแม้แต่เรื่องรอยสัก เจาะหู เจาะจมูก มันเป็นแฟร์ชั่น แต่ถ้าเข้าไปทำวิจัยจะพบว่า มีคนสักราย เจาะแค่กี่คน เวลาที่ใครหยิบเอาเรื่องเพศที่สามมาพูดก็มักจะมีกระแสต้าน คือต้านไว้ก่อน ความเป็นจริงเป็นอย่างไร ไม่รู้ สรุปก็คือรัฐบาลก็หยิบมาเล่นก็เท่านั้น ถึงจะเป็นโครงการก็เท่านั้น แล้วมันก็วูบไปเอง เพราะมันไม่สามารถทำให้คนลุกขึ้นมาแปลงเพศกันว่าเล่น ไม่ได้ช่วยเรื่อง GBP ไม่ได้ช่วยเรื่องความยากจน ไม่ได้ช่วยเรื่องเศรษฐกิจ ก็รู้อยู่รัฐบาลปัจจุบันคิดอะไรปัญญาอ่อนอีกเยอะ เราคนไทยก็ได้แต่ทน q*004

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 10:13 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถึงขั้นกับต้องเอื้ออาทรเลยนะ .. มันก็ไม่ใช่โรคร้ายแรงเท่ากับมะเร็ง หรือโรคอื่นๆ เอาโรคที่มันรุนแรงกว่าโรคทางจิตที่ไม่พึงประสงค์ในเพศของตัวมาเป็นโครงการเอื้ออาทรยังจะมีประโยชน์กว่าอีกนะเราว่า ไม่ได้ว่าเพศที่สามไม่ดี เำพราะเราก็เพศที่สาม แต่..เราจะคิดทำในสิ่งมันมีประโยชน์ต่อตัวเราและประเทศชาติดีกว่ามั๊ย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ฟฟฟ
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 10:28 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ดีแต่เรื่องปัญญาอ่อนนี่แหละ สรรหามาคิดทำ หาช่องทำร้ายคนไทยด้วยกัน
เพื่อเงินเข้ากลุ่ม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
weya
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 11:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ถ้าวันนึงเกย์ ทอม อยากผ่าตัดบ้างละ คุณมีคําตอบให้พวกเขาไหม
หาอะไรที่มันสร้างสรรค์ดีกว่าไหม
ในประเทศนี้มีผู้รอความช่วยเหลืออีกมากมาย ผู้ยากไร้ คนแก่ เด็กด้อยโอกาส คนป่วยหนัก เอื้ออาทรกะคนพวกนี้สร้างสรรค์กว่าไหม
คุณต้องการสนอง ความต้องการของตัวเองมากกว่า ต่อไป คิดใมกกว่าเดิม ก่อนประชาสัมพันธ์

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 11:29 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

แปลงเพศเสร็จ ก็เรียกร้องคำนำหน้าจากนายเป็นนางสาวต่อแน่เลยชัวฟันทิ้ง เพราะเค้าจะถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพของเขาที่พึ่งจะได้

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
สวย
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 13:36 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จะทำไรก็ทำไป เรื่องที่มันจำเป็นกว่านี้ไงไม่ทำ
อย่างเช่น ประกันสังคม ทำฟันก็เบิกให้ได้เยอะกว่านี้หน่อยได้เปล่าทำหมดเป็นพันเป็นหมื่นเบิกคืนได้แค่ 600 แถมต้องเบิกทีล่ะ 300 อีก
แล้วก็เรื่องทุนการศึกษา(กยศ.)น่าจะไม่ให้มีดอกเบี้ยแค่เงินต้นก็ไม่มีจะใช้คืนอยู่แล้วถ้ามีก็คงไม่ยืม อีกเยอะแยะไม่เห็นจะมีใครมาสนใจ น่าเบื่อ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
คิคิ
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 13:55 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อีกหน่อยผู้ชายคงจะหาเมียลำบากขึ้น เพราะดูแค่บัตรประชาชนไม่พอแล้ว ต้องดูโครโมโซมเพศ q*013

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 14:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไร้สาระมากพวกที่คิดโครงการนี้ เอาเงินส่วนนี้ไปพัฒนาอย่างอื่นดีกว่าไหมคับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 15:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ของของเขาอย่าไปยุ่งกับเขาเลยจะดีกว่านะ ห่วงเรื่องของตัวเองก่อนเถอะใครจะตัด จะต่อ จะเสริม ก็เป็นสิทธิของเขา ถ้าไม่เดือดร้อนสังคมก็โอเคนะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ไอเดีย
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 15:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

งี่เง่าปัญญาอ่อน คนในสังคมไทย มีเรื่องมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือ เด็กยากไร้ คนชรา และปัญหาอีกจิปาถะ เอาเงินไปทำแบบนี้ หรือพัฒนาประเทศดีกว่าตั้งเยอะ ส่วนการแปลงเพศ เป็นเรื่องส่วนตัว ใครจะทำหรือไม่ทำ ก็สิทธิของเขา แต่ไม่ใช่ใช้เงินของคนไทยทั้งประเทศ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
เอ็มเจ
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 16:17 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เมื่อทางเลือกของคนสมัยนี้เยอะมากขึ้น สิ่งที่พัฒนาขึ้นคือสิทธิ เรียกร้องกันในเรื่องต่างๆ ถ้าต่างคนต่างยอมรับกันช่วยเหลือซึ่งกันและกันมากกว่านี้ ไม่ใช่คอยแต่ว่ากัน ตำหนิ
อย่างน้อยคุณนกเค้าก็ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่เค้าอยากทำ เพื่อคนอื่น ถ้าเค้าจะอยากดัง หรือไรก็แล้วแต่ ก็ยังดีกว่าพวกกระเทยที่คอยด่าคนอื่นๆไปวันๆเพื่อเงิน เห่าหอนเพราะได้ตังค์...เห็นแก่ตัว ถ้าคุณนกไม่ได้ทำให้ใครเดือนร้อนใครหรือผิดกฎหมาย ไม่ให้กำลังใจกันก็น่าจะอยู่เฉยๆ อย่าไปด่าเค้าเลย....พวกที่คอยด่าเค้าอ่ะ .. เคยทำอะไรเพื่อใครบ้างรึป่าว???? q*015

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 17:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

คนที่ออกมาเรียกร้องให้มีการแปลงเพศเอื้ออาทร ถามหน่อยจะบ้ากันไปถึงไหน เงิรภาษีเหลือกันเยอะถึงขนาดต้องเอามาทำกับคนกลุ่มเล็กๆที่เรียกว่าจิตบกพร่องกันแล้วหรือไง แค่หมอโรคจิตพวกนี้ก็น่าจะเข้าไปรับการบำบัดจะดีกว่า ฟังแล้วทุเรศ อยากบ้าก็หาเงินไปทำเอาเอง อย่ามาเอาภาษีของคนอื่นมาเกี๋ยวข้องลองมองดูตุวเองว่ามีจำนวนเพียงไม่กี่คน แต่ก็พยายามสร้างข่าวอยากดังทำให้เกิดการเบี่ยงเบนกันมากขึ้น ลูกใคร พ่อแม่ของคนเหล่านี้อยู่ที่ไหน มาเอาตัวไปอบรมให้บ้าน้อยกว่านี้จะได้ไหม อย่าปล่อยมาสร้างเรื่องอีกเลย หรือถ้าเอาไม่อยู่ก็เอายาพิษกรอกปากให้ตายไปดลยอย่าปล่อยมาทำสังคมย่ำแย่มากกว่านี้ เจอพวกนี้ที่ไหนจะหาเรื่องกระทืบ เมื่อก่อนไม่เป็นแต่ตอนนี้เป็นเพราะทนพฤติกรรมของพวกนี้ไม่ได้ อยากบ้าก็บ้าไปคนเดียวอย่ามาเงินภาษีคนอื่นไปเดือดร้อน เข้าใจไหม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
งงมาก
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 17:33 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ซวยอีกแล้วรัฐบาล
คุณเรื่องเฉาะเอื้ออาทร เป็นเรื่องของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งร่วมกับโรงพยาบาลเสริมความงามเอกชนทำกันขึ้นมา แล้วโปรโมท เพราะอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ไม่เกี่ยวกับภาครัฐซักกะติ๊ด แต่พอมีคำว่าเอื้ออาทร เลยซวยเลย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ปลามปาย
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 18:02 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
จะมาเถียงกันทำไม ใครอยากทำก็ปล่อยเค้าทำไปซิ ทำแล้วไม่เดือดร้อนใคร
ก็ปล่อยเค้าไปเถอะ ถ้าทำแล้วของเขาเน่าก็เรื่องของเค้าอีกนะแหละ ความสุข
ทางใจมันไม่สามารถตีค่าเป็นรูปธรรมได้หรอ คนเราไม่ได้เกิดมาสมบรูณ์แบบกันทุกคนเสียเมื่อไร

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
คนน่าทุเรศ
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 20:21 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สังคมพิกลพิการ คนมีโลกทรรศน์กว้างขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่มีความเห็นแก่ตัวมากขึ้นเป็นสัดส่วนผกผัน เมืองไทยมีสิ่งที่สังคมควรจะดูแล แต่ไม่มีหน้าไหนที่ยื่นมือเข้ามาอีกตั้งมากมาย คนแก่ แม่ พ่อ ที่รอให้ลูกหลานมาประคับประคอง คนดีที่ด้อยโอการในการประทังชีพอีกตั้งเยอะ คนที่ถูกสังคมทิ้งขว้างอีกตั้งมากมาย พวกคุณไม่มีความคิดเลยหรือ q*023

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 20:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
ตายแล้วเกิดใหม่ซิ โดยเฉพาะคนริเริ่มโครงการ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
55555555
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 22:27 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เค้าไม่ใช่ผู้ชาย เค้าคือผู้หญิงข้ามเพศ สารพัดจะหามาอ้าง คุณนกเค้าฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเถียงข้างๆ ดูเขาออกทีวีทีไรดูเขาไม่ยอมที่จะฟังอะไรเลย ประเทศไทยเขามีวัฒนธรรมอาจจะยอมรับได้หรือไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ อีหน่อยคงจะมีต่อเอื้ออาทรให้ทอม

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
vk
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 22:28 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ซวยล่ะทีนี้ เอาภาษีบ้านเมืองไปเฉาะ "ปิกาจู้" บ้านเมืองคงไม่ต้องมีอะไรพัฒนาแล้วมั่ง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #21 เมื่อ: 16 มี.ค. 11, 23:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เพราะคำว่า น.ส. คำเดียว อิอิอิ คิดจะเอาเรื่องแปลงเพศเป็นใบเบิกทางหรือบันใดอีกขั้นที่คิดว่าคนทั่งประเทศจะยอมรับ ลูกไม้ตื่นๆ q*020q*020q*020q*020q*020




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 มี.ค. 11, 01:28 น โดย yoyospicy » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
kay
เรทกระทู้
« ตอบ #22 เมื่อ: 17 มี.ค. 11, 01:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ดูรายการที่กระเทยนกออกมาพูดแล้วรำคาญมากเลย พูดอยู่ได้ว่าเค้าป่วยสิงที่จะรักษาคือการให้เค้าอยู่ในร่างที่ถูกต้อง

ความเห็นเราคือเห็นหลายๆคนเค้าไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับการเป็นสาวประเภทสอง แล้วพวกเค้าก็ไม่ได้รู้สึกว่าพวกเค้าป่วยซะหน่อย บ้างอาจจะไม่มีความสุขในการที่เป็นแบบนั้น หรือบ้างก็ไม่แคร์ แต่กระเทยนกเนี่ยพยายามจะยัดเยียดความป่วยให้พวกเค้า หรือไม่ก็ต้องการจะยัดเยียดหรือปลูกฝังให้เค้าคิดเหมือนตัวเอง ซึ่งต่อไปจะได้มีคนคิดเหมือนตัวเองมากขึ้น หรือเรียกง่ายๆว่าใช้พวกเค้าเป็นเครื่องมือดีๆนี่เอง

ส่วนการที่กระเทยนกเที่ยวออกมาพูดปาวๆ ว่าพวกเค้าป่วยต้องรักษาโดยการให้พวกเค้าได้ไปอยู่ในร่างที่ถูกต้องใช้นางสาวอย่างถูกต้อง งั้นดิฉันขอพูดบ้างนะคะว่า ถ้าคุณเกิดมาเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงแล้วคุณเรียกว่าคุณป่วย ดิฉันขอแนะนำให้คุณไปปรึกษาจิตแพทย์นะคะ ว่าทำอย่างไรที่จะรักษาจิตใจคุณให้กลับไปเป็นชายตามร่างกายที่คุณได้เกิดมา

ยังไงก็ตามไม่ว่าคุณจะเป็นใครเป็นหญิงหรือชายหรือเพศที่สามสี่ห้าอะไรก็แล้วแต่ คุณควรจะใช้วิถีชีวิตและการดำเนินชีวิตให้มีความสุข การทีคุณไม่มีความสุขในการเป็นกระเทย ดิฉันก็จะบอกให้คุณได้รู้เพื่อว่าคุณนึกไม่ออกจริงๆว่า ชีวิตคนเราไม่มีใครมีความสุขไปซะทุกเรื่องหรอก ผู้หญิงบางคนชิวิตเค้ามีปัญหาไม่มีความสุขมากกว่าคุณร้อยเท่า คุณน่ะเลิกบ้าได้แล้ว

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
สมหญิง ดาวร้าย
เรทกระทู้
« ตอบ #23 เมื่อ: 17 มี.ค. 11, 03:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

""คุณนกยลดา น่าจะดูแบบอย่างตัวแม่อย่างพี่ม้าอรนภา หรือคุณเจินเจิน
บ้างนะคะ
คิอ..ความจริงน้องก็ไม่ชอบความคิด ยัย นก อะไรนั่น ซักเท่าไรหรอก นะคะคุณพี่ แต่ จากที่รู้ จัก พี่ เจิน เจิน เป็นการส่วนตัวแล้ว ใครลอง ไปถามสิคะ ว่าแก เป็น อะไร --- แกจะตอบทันที ว่า พี่เป็นผู้หญิง (ถามพี่แกต่อ..ว่าพี่รู้สึกว่าพี่เป็นผู้หญิง ตั้งกะเมื่อไร she ก็จะตะคอกใส่ ทันที ว่า ชั้นเป็นผู้หญิง ชั้นไม่ใช่ กะเทย....เหอ ๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Guest
ีที่ไกลแต่เข้าใจ
เรทกระทู้
« ตอบ #24 เมื่อ: 17 มี.ค. 11, 06:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ปัญหาที่มีก็เพียงแต่ว่าความต้องการในสิ่งที่คนทัวไปไม่สามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง การยอมรับทางสังคมก็คือสิ่งที่เขาต้องการแต่เมื่อคนในสังคมยังไม่สามารถยอมรับได้อย่างสมบรุณแบบ มันก็ย่อมก่อให้เกิดความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมดา คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าสิ่งที่เขาต้องการจะเกิดขึ้นได้จริง ยังไงก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะค่ะ ในขณะที่ยังต้องรอว่าอะไรที่เขาเหล่านั้นต้องการ จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ก็ขอเพียงแค่ให้ใช้ความอดทนและความสาารถที่มีอยู่นั้นคงพอที่จะได้ใช้ไปในทางที่ดีและมีประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาตินะค่ะ จากคนที่เหมือนคุณ.

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม