ไข่เจียว
|
หากนิสัยไข่ยังเป็นแบบนี้  ก็ไม่ควรแสดงความคิดเห็นแบบนี้ครับ  เพราะ จะเป็นวจีกรรมติดตัวไปโดยไม่รู้ตัว  โบราณจึงว่า ... หมายความว่า บางครั้งบางเวลา หากเราพูดไปโดยไม่ไตร่ตรองให้ดีแล้ว อาจจะมีค่าเพียงสองไพเบี้ย (อัตราเงินสมัยโบราณ) แต่หากรู้จักนิ่งเสียบ้าง อาจจะมีคุณค่าเทียบเท่าทองคำน้ำหนักหนึ่งตำลึงทีเดียว (หนึ่งตำลึงเท่ากับสี่บาท) อันนี้เป็นภูมิปัญญาของคนไทยสมัยโบราณ ที่มีกลวิธีการสอนอย่างแยบยลอย่างยิ่ง สำหรับไข่เจียว การไม่พูดอะไรซี้ซั้ว กลับมาเป็นผู้ชมผู้ฟังที่ดี น่าจะได้บุญเหลือหลาย เพราะ อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุน จากวจีกรรม และได้กำไรจาการฟัง คือมีองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่ถูกต้องมากขึ้น ไปลบล้างความเชื่อเก่าๆที่ผิดๆออกไปซะที  นี่แหละ ขาดทุน คือ กำไร  ขอยืนยับอีกครั้ง ว่า "ขอถอนคำขอโทษ" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับพ่อมหาจำเริญ
|
|
|
|
|
|
ไข่เจียว
|
นี่คือหลักฐานที่แสดงว่า ไข่เจียวเริ่มกลายเป็นไข่เน่าแล้ว เพราะ มัวแต่จะสอนคนอื่น แต่ไม่กลับมาสอนตัวเอง  เลยต้อง  เพื่อเรียกสติ ไข่เริ่ม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนมุมมองกัน  ...อย่างเคร่งเครียด  ไข่เริ่มมั่นใจ  เพราะคิดว่าตัวเองพูดถูกมาตลอด  ไข่เริ่มมองไม่เห็นตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองเป้นไข่เน่าไปแล้ว  V V V ไข่เริ่มเถียงแบบข้างๆคูๆ ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิง สุดท้ายผลักภาระไปให้ผู้ฟังโดยกล่าวว่า ... เพื่อนไข่ไม่ได้โง่ เพื่อนๆ เค้าก็มีความรู้กันระดับหนึ่ง เค้ามีวิจารณญาณในการชมนะฮะ  ซึ่งถือว่า ...แย่สุดๆ    จนพี่มหาเริ่มรับไม่ได้แล้ว  จึงต้องออกมาร่ายยาวแบบนี้   ของดึงเรื่องข้างๆคูๆมาอีกครั้ง เพราะพบว่าข้อความไม่ขึ้น..  เรื่องๆเถียงข้างๆคูๆ พ่อมหาฯไปลากมาเลยฮะ ว่าประโยคไหน ไข่จะได้ชี้ให้ดูว่าไม่ใช่ข้างๆคูๆอย่างไรพ่อมหาฯก็พูดไปเรื่อยเพลินปาก  ที่ไข่มั่นใจมากว่าไม่มีเรื่องข้างๆคูๆแน่นอน เพราะไข่รู้จักตนเอง ว่าไม่ใช่คนชอบเอาชนะใคร ยอมรับในความพ่ายแพ้ได้เสมอ ดังนั้น พฤติกรรมข้างๆคูๆสำหรับไข่แล้ว ไม่มีแน่นอน ไข่เชื่อในความมีเหตุผลของตัวเอง เคารพในความคิดของผู้อื่น การเป็นผู้ชนะ ไม่ใช่ความสุขของไข่ ดังนั้น ข้างๆคูๆ ไม่มีในไข่เจียวแน่นอน เพื่อนของไข่ ไม่ได้โง่ มีวิจารณญาณกันทุกคน ประโยคนี้ของไข่ ไม่ใช่การผลักภาระความรับผิดชอบให้เพื่อน แต่มาจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างไข่กับเพื่อน อันไหนไข่รู้น้อย เพื่อนก็แย้งและแนะนำไข่ก็บ่อยๆ เราแลกเปลี่ยนสิ่งที่เราได้พบเจอ อ่านเจอ ฯลฯซึ่งกันและกัน ไข่จึงกล่าวได้เต็มปากว่าเพื่อนไข่ไม่โง่ที่จะไม่ทานผักเพราะ มาตีความหมายไปบ้าๆบอๆแบบที่พ่อมหาฯสรรหามาคิดหรอก และขอย้ำอีกครั้ง ว่าไข่ไม่เคยคิดจะสอนอะไรใคร ถ้าจะเทียบ ระหว่างพ่อมหาฯกับไข่ ใครที่ชอบเที่ยวไปสอนสั่งชาวบ้านมากกว่ากัน แต่ก็ช่างเถิด หากในมุมมองของพ่อมหาฯเห็นเหมือนว่าไข่ไปเที่ยวสั่งสอนใคร ขอให้จงดูไข่ใหม่อีกครั้ง ว่าเป็นการสอน หรือการคุยและเล่าถึง หรือแนะนำตามที่ได้เคยทำมา(ซึ่งต่างจากการสอนนะ) ไข่มักจะมีคำว่า "ไข่อ่านเจอมาว่า.." ไข่เคยทำ...บ้าง ไม่เคยสั่ง เธอต้องอย่างนั้น เธอต้องอย่างนี้เลย ไปหามา ว่าไข่เคยสั่งอะไรใครที่ไหน   ปรักปรำไข่แบบนี้ เข้าข่ายวจีกรรมหรือไม่ หากว่าไข่จะมั่นใจ ว่าไข่พูดถูกมาตลอด ก็เพราะมาจากการกล่าวถึงข้อมูลต่างๆของไข่ ก็มีที่มาที่ไป ไข่ไม่ได้ แต่งขึ้นเอง แม้ข้อมูลเหล่านั้น จะไม่เครียดผึงตึงเป๊ะแบบของพ่อมหาฯ แต่ก็เป็นข้อมูลที่ถามครูเกิ้ลได้ทุกเรื่อง ไข่ไม่ได้นั่งเทียนเขียน แต่หากจะมีข้อมูลที่มีเหตุผลน่าเชื่อถือกว่า ไข่ก็ยอมรับฟัง และพิจารณา ไม่ได้ต่อต้าน และก็ไม่ถึงกับเชื่อทันที ไข่ไม่ใช่คนที่ชอบทำตัวเป็นกระต่ายนี่ จะได้ยืนขาเดียวได้ และอีกความมั่นใจ ก็มาจากความรู้จักตนเอง ว่ารักเหตุผล และไม่ชอบเอาชนะบ้าๆบอๆ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยฮะ
|
|
|
|
|
|
ไข่เจียว
|
นี่คือหลักฐานที่แสดงว่า ไข่เจียวเริ่มกลายเป็นไข่เน่าแล้ว เพราะ มัวแต่จะสอนคนอื่น แต่ไม่กลับมาสอนตัวเอง  เลยต้อง  เพื่อเรียกสติ ไข่เริ่ม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แลกเปลี่ยนมุมมองกัน  ...อย่างเคร่งเครียด  ไข่เริ่มมั่นใจ  เพราะคิดว่าตัวเองพูดถูกมาตลอด  ไข่เริ่มมองไม่เห็นตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองเป้นไข่เน่าไปแล้ว  V V V ไข่เริ่มเถียงแบบข้างๆคูๆ ไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิง สุดท้ายผลักภาระไปให้ผู้ฟังโดยกล่าวว่า ... เพื่อนไข่ไม่ได้โง่ เพื่อนๆ เค้าก็มีความรู้กันระดับหนึ่ง เค้ามีวิจารณญาณในการชมนะฮะ ซึ่งถือว่า ...แย่สุดๆ   จนพี่มหาเริ่มรับไม่ได้แล้ว  จึงต้องออกมาร่ายยาวแบบนี้   ไข่ก็รับไม่ได้ฮะ แย่สุดๆ ที่พ่อมหาฯจะมองว่าคนอื่นคิดอะไรไม่เป็น    แค่เรื่องผัก กับน้ำมัน ถึงกับจะทำให้คนเลิกกินผักกินแต่น้ำมัน เด็กป.4 ก็อ่านเข้าใจ ว่าควรทานผัก และไม่ควรขาดไขมัน(ซึ่งในกระทู้นี้ เรากล่าวถึงว่าไขมันช่วยละลายวิตามินกลุ่มไม่ละลายน้ำ) และเด็กก็ป.4 ก็รู้ ว่าไขมันมากไปจะทำให้อ้วน ต้องทานแต่พอดี ในกรณีที่เรากำลังคุยอยู่นี้ คือเพื่อนของไข่ ที่ทานแต่ผัก อาหารของเค้า ไม่มีไขมันซะจริงๆ ผักสดจิ้มแจ่วที่ทำมาจากพริกตำๆปรุงน้ำปลาและมะนาว ไม่ใช่กรณีคนทั่วไปที่ทานผัก ที่มีอาหารอื่นที่มีไขมันควบคู่ด้วยเสมอ หรืออย่างไขมันสะสมตามพุง ไข่ขอยืนยันเต็มที่ เพราะอยู่ในวิชาชีวเคมี ว่าไม่สามารถนำกลับมาละลายวิตามินที่อยู่ในระบบย่อยอาหารได้ ไขมันพวกนั้น จะกลับออกมาจากพุงได้ ในรูปของพลัง งานเท่านั้น ผักจิ้มสมัยก่อน ของขึ้นโต๊ะท่านขุน เจ้านายทั้งหลาย (ตอนนี้ก็มี ลองไปถามอาจารย์คหกรรมสิ) ราดหัวกะทิจริงๆ หัวกะทิ ปัจจุบัน เริ่มมีนักวิขาการมาชี้ว่าเป็นของมีประโยชน์แล้วนะ ขอบอก
|
|
|
|
|
|
|
|
ไข่เจียว(ของผม)
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ไข่กวนของนิว
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อ้างอิง แล้วเพี้ยนมากๆเลยค่ะ ช้าด้วย
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ไข่เจ้ว
|
|
|
|
|
|
|
ไข่เจ้ว
|
|
|
|
|
|
|
ไข่เจ้ว
|
|
|
|
|
|
|
ไข่เจ้ว
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
อ้างอิง แล้วเพี้ยนมากๆเลยค่ะ ช้าด้วย  มาช้า ยังดีกว่าไม่มา  อ้างอิงแล้วเพี้ยนตรงไหน  แจกแจงมาโดยละเอียดเลยครับ  จะได้ชี้แจงแถลงไข ว่ากันทีละเรื่องเลย ดีมะ
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
พี่ใหญ่ ลงรายละเอียดเยอะเกินไป    บางที คำอธิบาย ก็บอกความคิดได้ไม่หมดสักหน่อย 
    ทุบมั่ง แกงส้มสายบัว  ขนาดลงรายละเอียดเยอะขนาดนี้ ป้าแช่มยังบอกว่า... คำอธิบาย ก็บอกความคิดได้ไม่หมดสักหน่อย แล้วถ้าชี้แจง ยกตัวอย่างประกอบ มีหลักฐานและข้อมูล ...น้อยกว่านี้ ก็จะยิ่งไม่เชื่อ ยิ่งไม่เข้าใจหนักกว่านี้อีกนะ อย่างป้าแช่ม เป็นต้น เป็นคนพูดอธิบายน้อย พูดสั้นๆ มักไม่ค่อยมีข้อมูลประกอบคำชี้แจง ทำให้ยิ่งไม่เข้าใจ ไม่น่าเชื่อตาม เพราะไม่มีคำอธิบายสมเหตุสมผลให้เข้าใจตามนั้น เช่น ป้าแช่ม บอกว่า...พี่ใหญ่ ลงรายละเอียดเยอะเกินไป แต่ป้าแช่ม ไม่ได้อธิบายเหตุผลประกอบว่า ...มีข้อเสียกว่าการลงรายละเอียดน้อยกว่า อย่างไร  มันยิ่งค้านกับความจริง ที่ว่า ...เวลาศาลตัดสิน ยิ่งมีรายละเอียดมากเท่าใด ศาลจะตัดสินได้ถูกต้องมากขึ้น ง่ายขึ้น เพราะ มีน้ำหนักพยานมากกว่า คำพูดลอยๆ ซึ่งใครจะคิด จะพูดอย่างไรก็ได้ แต่อาจจะไม่จริง ไม่ถูกต้อง นี่ แสดงว่า ป้าแช่มเป็นกรรมการตัดสินที่ไม่ได้เรื่อง  จึงไม่ฟังข้อมูลพยานซักค้านโต้ตอบ กลับหาว่า...ลงรายละเอียดมากเกินไป  คำอธิบายบอกความคิดไม่ได้หมด ป้าแช่มก็ไม่ถามเพิ่มในสิ่งที่บอกไม่หมด อย่างนี้ จะเรียกว่า ถูกต้องหรือครับ  หากไม่แน่ใจ ป้าแช่มก็สามารถซักถามเพิ่มมาตรงๆได้เลย ถามจนกว่าจะได้ข้อมูลครบ ถ้าป้าแช่มถามไปแล้ว คนนั้นไม่ยอมตอบกลับมา ก็แสดงว่า ไม่มีน้ำหนักจะตอบสนับสนุนตัวเอง ถ้าป้าแช่มถามไปแล้ว คนนั้นตอบกลับมา ก็ต้องพิจารณาดูว่า ข้อมูลฟังขึ้นหรือไม่  เชื่อถือได้มากน้อยเพียงไร  ไม่ใช่...จู่ๆจะมาทุบมั่ง  อย่างนี้ถือว่า กรรมการขี้โกง  ไม่ยุติธรรม  เข้าข้างอีกฝ่ายอย่างชัดเจน  ไข่เน่าถูกน็อคเอ๊าท์ ยอมรับผิดไปแล้ว กรรมการมาเข้าข้างออกหน้าออกตาให้เห็นซะขนาดนี้ ไข่เน่าเลยฮึดกลับมาสู้ต่ออีก  ...ฮืม หนักกว่าเดิม
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
ครายยยบอก ว่าป้าจะยอมพี่ใหญ่ ทู้หน้าบ้านยังหลากความเห็น เราบอกขวาดี อีกคนบอกซ้ายต่างหากที่ดี สุดท้าย ก็ยังอยู่ที่วิจารณญาน สติปัญญา ของผู้อ่าน กับจขกท เป็นบรรทัดสุดท้าย อยู่ดี 
ตอนเราแนะนำ เราต่างหวังดี และเราคิดว่าเราคิดดี หากแท้จริงแล้วไม่ดี ก็มีคนแนะเราต่อเอง หรือด่าเราในใจ ทีนี้ ก็เป็นอีกเรื่องนึงแล้ว เรื่องที่เราต้องรับผิดชอบ กับคำพูดของเรา ใครบอกว่าไม่รับผิดชอบ อ่ะเด่อ ...   นี่แหละ คือปัญหา เพราะ สุดท้าย ก็อ้างว่า ...ยังอยู่ที่วิจารณญาน สติปัญญา ของผู้อ่าน ซึ่งแตกต่างไปตามบัวสี่เหล่า ดังนั้น สัตว์โลกจึงเป็นไปตามกรรม คือ มีปัญญาเท่านี้ จึงได้รับผลเช่นนี้ หากเราเป็นคนดีจริง มีความรับผิดชอบต่อผู้อื่นและสังคม เราจึงควรมีการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ถึงระดับความเป็นไปได้ ความน่าเชื่อถือก่อนจะสื่อสารออกไป ซึ่งเป็นหลักการในการให้ข้อมูลแก่ผู้อื่นที่ถูกต้อง พอควร แม้แต่เจ๊ระเบียบรัตน์ ยังออกมา  ล้งเล้ง  คน แต่งเพลง ที่มีเนื้อหาไม่รับผิดชอบต่อสังคม แต่ ก็ยังมีคนพวกเดียวกันเข้าข้างว่า เพลงเพราะ เนื้อหาดี กินใจ ไม่เห็นเป็นไรเลย คนแต่งเพลงก็เลยยิ่งมั่นใจว่า ตัวเองคิดถูกมาตลอด ใน ทีวี รัฐบาลจึงต้องแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน โดยการออกกฏหมาย บังคับผังรายการทีวี ให้เหมาะแก่ผู้ชม หรืองดการโฆษณาเหล้าบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งมีส่วนช่วยให้ลดสื่อที่ให้ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมในระดับหนึ่ง การที่เราอ้างว่า เราต่างหวังดี เราคิดว่าเราคิดดี ....มันง่ายเกินไป มัน สมเหตุสมผลแล้วหรือครับ  เวลาไปขึ้นศาล เราพูดแบบนี้ ศาลก็ไม่รับฟังหรอกครับ หากแท้จริงแล้วไม่ดี ก็มีคนแนะเราต่อเองหรือด่าเราในใจ  ทีนี้ ก็เป็นอีกเรื่องนึงแล้ว เรื่องที่เราต้องรับผิดชอบ กับคำพูดของเรา สรุปว่า 1เมื่อมีคนแนะเราต่อเอง ...แล้วอย่างนี้ ป้าแช่มรับผิดชอบตรงไหน  ยังไงครับ  2 ถ้าป้าแช่มไม่เชื่อเพราะ มั่นใจ ว่า ตัวเองพูดถูกมาตลอด (สมมติว่า ไม่ถูกอย่างที่ป้าแช่มมั่นใจมาตลอด)...แล้วอย่างนี้ ป้าแช่มรับผิดชอบตรงไหน  ยังไงครับ  3 เมื่อมีคนด่าป้าแช่มในใจ ...แล้วอย่างนี้ ป้าแช่มรับผิดชอบตรงไหน  ยังไงครับ  ช่วยอธิบายให้ชัดๆ ตรงประเด็นไปเลยนะครับ
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
ถึงเป็นการคุยเล่น ก็ไม่ควร เพราะ จะกลายเป็นนิสัย ดังนั้น พุทธองค์ จึงไม่ให้พูดเพ้อเจ้อ เพราะ เป็นหนึ่งในวจีกรรม  โดยเฉพาะ ถ้าไม่รู้จริง ก็กลายเป็นพูดเรื่องเท็จ หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จึงเตือนสติ เกี่ยวกับ ความคิด การพูด ไว้ว่า " เธอจงระวัง ความคิดของเธอ เพราะความคิดของเธอจะกลายเป็นความประพฤติของเธอ เธอจงระวัง ความประพฤติของเธอ เพราะความประพฤติของเธอจะกลายเป็นความเคยชินของเธอ เธอจงระวัง ความเคยชินของเธอ เพราะความเคยชินของเธอจะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ เธอจงระวัง อุปนิสัยของเธอ เพราะอุปนิสัยของเธอจะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชีวิต" ไม่จริงอ่ะ เถียงๆๆๆๆๆ คำสอนนี้เหมาะแก่สุภาพสตรี ผู้อยู่เรือน และอายุเยาวเรศรุ่น เจริญศรี ... ต่างหาก พับเพียบกรองมาลัยด้วย 
กล่อมเกลาให้เธองาม แต่เยาว์วัย แต่ยุคสมัยปัจจุบัน พี่ใหญ่ต้องยืดหยุ่นบ้างจิ แช่มกับเจ้ว ไม่ได้เล่นเพ้อเจ้อ ตลอดเวลา สักหน่อย ยังมี รับผิดชอบ แยกแยะ ดี-ชั่ว หน้าที่ แบ่งปัน แล้วแซมด้วยสนุกสนาน จะผิดตรงไหน (ฉอดๆๆๆๆ)
ค้าวสองคนไม่ได้เตลิดสักหน่อย อ่านคำสอนของพี่ใหญ่ที่ยกมาให้อ่าน  หากไม่ยืดหยุ่น ประยุกต์ใช้ ความคิด อิสระ รอยยิ้ม คงมีได้ยากบนใบหน้าสตรีนั้น  บาปกรรม เถียงพระเถียงเจ้า  ป้าแช่มเถียงขนาดนี้ ก็ถือว่าสุดๆละ  หากจะคุยหยอกล้อกันในบอร์ด พี่ใหญ่ก็เข้าใจดีนะ จึงมักเข้าแจมด้วยบ่อยๆอยู่แล้ว  ไม่เคยบอกต้องเคร่งเครียด  เรียบร้อยตลอดเวลา อาจจะมี  บ้าง ถูก  บ้างก็ไม่ว่ากัน ก็ไม่เคยจริงจังอะไร แต่การพูดเรื่องวิชาการ ต้องสู้กันที่ข้อมูล เหตุผล หลักฐานทางวิชาการ จะมาคุยเล่นๆไม่ได้ เพราะดูไม่น่าเชื่อถือ จะยืดหยุ่นจนหลุดข้อเท็จจริงก็ไม่ถูกหลักวิชา แต่เราก็สนุกสนานได้ สนุกกับการหาข้อมูลมาถกเถียงกันให้ได้ความรู้ โดยไม่กลัวเสียหน้า อย่างนี้ การอภิปรายในประชุม เค้าทำกันเป็นเรื่องปกติ ถ้าเรามี EQ ดี เรารู้จักมองโลกในแง่ดี คิดบวก เราก็มีรอยยิ้มได้เสมอ  ส่วนเรื่องหลักธรรมซึ่งเป็นสัจธรรม ก็ต้องว่ากันตรงไปตรงมา จะยืดหยุ่นแบบเข้าข้างตัวเองยิ่งไม่ได้ใหญ่ เพราะเป็นการบิดเบือนพุทธศาสนา จะเข้าข่ายพวก มือถือสาก ปากถือศีล  ยิ่งลามปามไปถึงคำสอนของพุทธองค์ ซึ่งเป็นอกาลิโก คือไม่ขึ้นยุคสมัย ขนาดนี้ยังไม่เรียกว่า ...เตลิด ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว ถ้าเตลิด ขนาดนี้ อาจจะต้อง...ตัดหางปล่อยวัดซะละ    ยืดหยุ่นแบบนี้ไม่ไหว เรียกว่า ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง  ผิดตรงที่ ...ไม่รู้จักกาลเทศะ
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
2278 เถียงแทน คำพูด แนะนำ ถูกต้องตามหลักการทุกอย่างเจ้าค่ะ  หลักธรรม ที่พิสูจน์ได้แบบวิทยาศาสตร์ เป็นเหตุ เป็นผล แต่พี่ใหญ่ยังไม่ให้คือ เวลา เวลาในการศึกษา เพื่อเข้าใจ เหมือนยื่นหนังสือธรรม ให้หนึ่งเล่ม อีกเล่มเป็นคณิตศาสตร์ แช่มทำคณิตศาสตร์เสร็จก่อนแน่ๆ ธรรมะ แช่มอาจจะต้องอ่าน สักหลายรอบ บางทีอาจเข้าใจ แค่นั้น สักกี่คนจะเข้าถึง และนำมาใช้ได้ พี่ใหญ่ โกง    จริงๆแล้ว ทุกคนก็มีธรรม และนำมาใช้กันทุกวัน มากน้อยแตกต่างกันไป เช่น ป้าแช่ม เล่นเป็นเล่น จริงเป็นจริง แยกแยะออกได้ อย่างนี้ ก็ถือว่ามีธรรม คือการจักตน รู้จักประมาณ แต่พอพูดถึงเรื่อง การระวังความคิด ป้าแช่มกับเถียงพระเถียงเจ้า เพราะ รู้สึกว่า ไม่เหมาะกับยุค ไม่เหมาะกับบางคน อย่างเช่น ป้าแช่ม เรื่องนี้ไม่เข้าถึงธรรม คนเราก็มีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น และย่อมว่าความคิดของตนถูกต้อง คนเราไม่ยอมรับความจริง ก็ถือว่า หลงอยู่ ...หลงในความคิดผิดๆโดยไม่รู้ตัว คนที่เข้าไม่ถึงธรรม คือ คนที่หลงอยู่ หากเราเข้าใจว่า ธรรมเป็นสิ่งดี ทำแล้วดีแน่นอน คนที่ไม่นำมาใช้ คือ คนที่ทำไม่ได้ หรือไม่อยากทำ  ทำนองเดียวกับ คนที่บอกว่า กินอาหารดีแล้วไม่ป่วย(ง่าย) ผักเป็นอาหารที่ดีมีประโยชน์ ดังนั้น การกินผักย่อมไม่ป่วย(ง่าย)แต่เรากลับบอกว่า กินผักแล้วไม่สบาย อย่างนี้ คือคนที่กินแล้วไม่สบายจริงๆ หรือ คนที่ไม่ชอบกินผัก เพราะ ผักบางอย่างก็กินได้บ้าง  ป้าแช่มยังไม่ลองทำดูก่อน แต่ป้าแช่มมาอ้างซะละว่า เข้าไม่ถึงธรรม นำมาใช้ไม่ได้ อย่างนี้ ไม่เรียกว่า ขี้โกงหรือครับ
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
ยังอยู่กันหรือเปล่าเจ้าคะ งั้นไปเล่นก่อน เดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่ ดูว่าจะโดนดุ ไปสักเท่าไหร่    ปกติ เห็นป้าแช่มมีความคิดดี ไม่คิดว่า วันนี้จะติดเชื้อไข่เน่า จนจะต้องมาโดนดุด้วยอีกคน ....... โตๆกันแล้วนะ  อย่าให้ใครมาว่าได้ว่า...... แก่กะโหลกกะลาตัว แม่ หรือ แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นานนะ อายเค้าบ้างนะ  .... โดนดุแค่นี้น้อยไปปะ  เดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่พรุ่งนี้   ปล. รักนะเด็กโง่ 
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
ไง  อยากจะโดน  อีกคนชะมะ  หายไปนาน หายเครียดเรื่อง งานอะยัง  เอาธรรม เรื่อง คนสำราญ งานสำเร็จ ไปใช้สักข้อก็ดีน้อ
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
|
|
|
|
|
|
ผู้ชายคนหนึ่ง
|
|
|
|
|
|
|
ไข่เจียว
|
ตอนแรก ก็คิดว่า แฮปปี้เอ็นดิ้งละ  พอ ป้าแช่มมายุหน่อยเดียว เป็นเรื่องเลย ความมืดบอดเข้าครอบงำอีก ป้าแช่ม เถียงพระเถียงเจ้า  ไข่เน่ากลับฟื้นคืนชีพ  เถียงหูดับตับไหม้  เลยกำลังคิดว่า ...อาจจะตัดหางปล่อยวัดละ     จะเข้านอน แวะเข้ามาดูหน่อย แหม๋มมม)))) ยังไม่ครบ 3 วันเลย พ่อมหาฯก็ออกอาละวาดแล้ว  เริ่มที่ นึกว่าจะแฮปปี้เอนดิ้งก่อนแระกัน  ใช่ฮะ ไข่ก็นึกว่าจะแฮปปี้เอนดิ้งจึงกล่าวคำว่าขอโทษ เพื่อความสุขสบายใจด้วยกันทุกฝ่าย และที่พ่อมหาฯนำมากล่าวอ้างเรื่องน้องบู่ ก็มีส่วนถูก แม้ว่า ไข่ก็เห็นว่าเรื่องของไข่กับน้องบู่ นั้นต่างกันในเรื่องความเปราะบางของสังคม ราวกับฟ้ากับเหว แต่ก็เพราะอยากให้เรื่องจบ จึงไม่ว่าอย่างไร ว่าจะเลิกเล่นแล้ว แต่พ่อมหาฯก็ไม่จบ มาต่อความยาวอีก 12 คำตอบได้มั้ง มันก็ไม่ไหวนะฮะ ไข่ก็ขอจบแล้ว แต่พ่อมหามาต่อความแบบนี้ ไข่มองว่า เรื่องของไข่ จะโดนพ่อมหาฯลากไปเรื่อยตามชอบใจจนเกินไป จึงต้องออกมาปรามสักหน่อย ไม่เกี่ยวอะไรกับป้าแช่มเลย ป้าแช่มไม่ได้เถียงพระเถียงเจ้า พ่อมหาฯนี่พูดไม่คิดไม่ไตร่ตรองเลย   ป้าแช่มว่าพ่อมหาฯต่างหาก เพียงแต่ข้อที่นำมาอ้างอิงนั้น มีบทคำสอนของพระอยู่ด้วยเท่านั้น นี่พ่อมหาฯไม่เข้าใจจริงๆหรื่อแกล้งมึนไม่เข้าใจ จริงๆนะฮะ ไข่ว่าพ่อมหาฯพิกลๆมากๆเลย  ไข่ไม่ได้เถียงหูดับตับไหม้ แต่นี่คือการแก้ข้อกล่าวหาที่พ่อมหาฯใส่ความมาให้ไข่มาตลอดต่างหาก ไข่รู้ ว่าพ่อมหาฯไม่ได้ตั้งใจใส่ความ แค่พ่อมหาฯอ่านหนังสือแล้วจับใจความมาปะปนกันมั่วไปหมด (ที่ไข่แซวพ่อมหาฯว่าชอบจับหัวแพะมาชนหางแกะ) ไข่แก้ข้อกล่าวหาของพ่อมหาฯที่มีต่อไข่ได้ทุกข้อ ที่ไม่ทำก่อนหน้านี้ เพราะไข่ ไม่ชอบบรรยากาศอย่างนี้ ไข่จึงขอจบ ขอเป็นผู้ผิด ขอโทษซะ จะได้จบๆไป แต่เมื่อพ่อมหาฯไม่ยอมจบ ก็โอเค ไข่ก็เลยต้องออกมาแก้ข้อกล่าวหา(แม้ว่าจะไม่สบายใจ เพราะไข่ไม่ชอบบรรยากาศที่ต้องขาวต้องดำกับคนที่ไข่เรียกว่าเพื่อน) แต่ไข่ก็ต้องทำ เพื่อเรื่อง จะได้จบแบบสมบูรณ์ ถาวร ถ้าความมืดจะครอบงำใครสักคน ไข่มองว่า คนนั้นน่าจะเป็นพ่อมหาจำเริญมากกว่า อย่างกรณีของไข่ พ่อมหาฯจับหัวแพะ มาชนหางแกะจริงๆ (ไม่ยอมรับล่ะสิ  ) พ่อมหาฯ อ่านอะไร ก็เหมือนถ่ายเอกสาร เวลาทำข้อสอบจึงเป็นเหมือนถ่ายเอกสารตอบอาจารย์(เลยได้ คะแนนดี) แต่ชีวิตจริง อ่านคำตอบของเพื่อนมนุษย์ ไม่เหมือนอ่านแบบถ่ายเอกสารหรอกฮะ แต่คนอย่างพ่อมหาฯจำเริญ ไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้หรอก ..อ่านหนังสือเหมือนถ่ายเอกสร ไม่มีชีวิตชีวาเอาซะเลย  แถมยังเป็นสาเหตุของการจับหัวแพะมาชนหางแกะได้ง่ายๆ เพราะเครื่องถ่ายเอกสาร มักจัดลำดับย้อนหลัง หรืออาจสลับหน้าไปมาได้ง่ายนั่นเอง  ไข่กับป้าแช่ม ไม่มีหางให้ตัดหรอกฮะ และเดี๋ยวนี้ ทำเป็นไปเที่ยวตัดหางสุนัขที่ไหน สังคมก็ประนามแล้วนะฮะ ขอบอก  ที่ไข่ "ขอถอนคำขอโทษ" ต่อพ่อมหาฯ เพราะไข่เห็นแล้ว ว่าคำขอโทษที่ไข่ให้ไปนั้น พ่อมหาฯไม่เห็นค่าของคำขอโทษ นั้นเลย ไข่จึงต้องขอคืน และจะกลับมาลั้นลาต่อไป เพราะไข่เห็นชัดแล้วว่า หากคนทั้งโลกจะมาอ่านสิ่งที่ไข่เขียน แล้วถ้าต้องเกิดเป็นปรากฏการณ์ "ไข่ฟีเวอร์" ขึ้นมา ไข่เขียนอะไรๆใครๆก็เชื่อโม๊ดดดด)))) ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง โลกนี้ ต้องมีแต่ความสงบสุขมากขึ้นๆๆแน่นอน มีแต่สิ่งดีๆแน่นอน ดังนั้น .. เม้นท์ ต่อไป ไข่เจียว !!!!  ปล. ถามจริงๆนะ อ่านรู้เรื่องหรือเปล่า ไข่เห็นเหมือนว่า เวลาไข่เขียนเรื่อง กระเทียม พ่อมหาฯกลับอ่านเป็นเรื่อง หัวหอม ไปซะอย่างนั้น ตกลงเราเขียนภาษาเดียวกันหรือเปล่า  หรือจริงๆแล้ว พ่อมหาฯก็อ่านออกหรอกว่า กระเทียม (แต่ไม่รู้ล่ะ ก็มหาฯอยากอ่านว่า หัวหอม นี่ ไข่จาทามมายมหาฯล่ะ ฮือฮือ)))))  )
|
|
|
|
|
|
|
|
ไข่เจียว
|
|
|
|
|
|
|
ไข่เจียว
|
จะว่าไป กระทู้นี้ก็อยู่ปลายนาแล้ว ทั่นผู้ชมก็ไม่ถึงหนึ่งแสนคนสำหรับกระทู้นี้ และพ่อมหาฯก็ไม่จบ ก็มาเต็มรูปแบบกันก็แล้วกัน ฮะ  นี่คือการยืนยัน ว่าที่ไข่กลับมานั้น เป็นเพราะพ่อมหาฯไม่จบ คำขอโทษที่ให้ไป ไม่มีความหมาย ไข่จึงต้องกลับมา จัดเต็ม แก้ข้อกล่าวหาแพะๆแกะๆที่พ่อมหาฯก่อไว้ ให้ชัดเจนไป
|
|
|
|
|
|
|
นี่เป็นหลักฐานที่เห็นกันใกล้ๆ(ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล) ว่าพ่อมหาฯอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง  หรือรู้เรื่อง แต่ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจในความคิดของผู้อื่น   ป้าแช่มไม่ได้เถียงพระ แต่ป้าแช่มกำลังบอกว่า พ่อมหาฯ หยิบยกคำสอนมาใช้ผิดที่ผิดทางต่างหาก (ไม่ต่างกับสั่งยาให้คนไข้ผิดเลยนะเนี่ย  ) อีกอย่าง ในข้อนี้ มีเพียงป้าแช่มกับพ่อมหาฯคุยกันอยู่สองคน พระธรรมคำสอนที่พ่อมหาฯหยิบยกมา ถึงจะมาจากพระ ซึ่งท่านมีชีวิต แต่ณ.ที่นี้ ก็คืออุปกรณ์ คือเครื่องมือในการประกอบการคุยเท่านั้น ไม่ต่างกับเป็นเพียงกระดาษแผ่นหนึ่ง แล้วป้าแช่ม จะไปเถียงกับกระดาษทำไม ป้าแช่มก็เถียงกับพ่อมหาจำเริญนั่นแหละ แค่นี้ พ่อมหาฯยังคิดไม่ออก หรือยึดมั่นแต่ความคิดตนเอง เคยชินกับการคิดเองว่าคนนั้นต้องอย่างนั้นอย่างนี้มากไป จนผิดเพี้ยนตกเหวไปแล้ว เฮ้ออออ  เจ้าค่ะ ศิษย์พี่ใหญ่ต้องค่อยๆอ่าน แล้วห้ามตีความเข้าข้างตัวเอง แช่มไม่ได้เถียงคำสอน คำสอนนั้นถูกต้องแล้ว แต่แช่มเถียงพี่ใหญ่ต่างหาก อิอิ
|
|
|
|
|
|
|
|
ไข่เจ้ว
|
มาค่ะเจ้ว ลงรายละเอียดกัน อิอิ ยินดีฮะ เรามาช่วยกันเป็นกระจกเงา ให้พ่อมหาฯได้เห็นตนเองบ้าง ไม่งั้นก็เตลิดหลงไปเรื่อย นานๆไปจะกู่ไม่กลับ ฉุดไม่อยู่  ทุกสิ่งที่ทำ ก็เพราะว่า "รักนะ จุ๊บ จุ๊บ " นะพ่อมหาจำเริญ
|
|
|
|
|
|
|
|
แล้วรูปบนกับรูปล่าง เป็นต้นเดียวกันหรือไม่ฮะ หรือรูปล่าง เอามาให้ดู ต้นไม้ที่คล้ายกันที่ใบแหลมกว่าซึ่งไม่ใช่ต้นตำแยแมว  ต้นเดียวกันเจ้าค่ะ ให้เห็นดอก อีกรูปเห็นใบ ชัดๆ  ใบพิมพ์ในคุงเกิล ถึงรู้ว่า ต้นมีตัวผู้ ตัวเมีย
|
|
|
|
|
|
|