
...กระเพาะเขยื้อน ร่างกายขยับ สะบักเขย่า
ทางอะไร โค้งได้โค้งเอา เมาซ้ายขวา
ครั้นไปถึง สุดพรั่นพรึง ตะลึงตา
ไอเย็นหนา เมืองสามหมอก บอกเล่ากัน...
“งึกๆ งักๆ” อวัยวะทุกส่วนในร่างกายสามัคคีกันโอนเอนไม่เป็นจังหวะ ราวกับกำลังแดนซ์
เพลงของบี้ เดอะสตาร์ ทั้งเอนหน้า เงิบหลัง เด้งขึ้นเด้งลง ไปตามความหฤโหดของเส้นทางคดเคี้ยวลาดชันอย่างไร้สัญญาณประนีประนอม ไม่ต่างกับสนามมอเตอร์ครอสที่มักจะได้ชมทางช่อง 7 สี ช่วงบ่ายของวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ไม่รู้เป็นอะไร พอวันหยุดทีไรเอาแข่งมอเตอร์ไซค์มาให้ดูทู้กกที) ซึ่งไม่น่าแปลกหากจะทำให้ใครปวดเศียรเวียนเฮด เพราะความเมาแห่งแรงเหวี่ยง
ก้อนเนื้อในหน้าอกข้างซ้ายสั่นระรัว เนื่องเพราะความตื่นเต้นที่กำลังเข้ายึดความรู้สึก เหตุด้วยตลอดการเดินทางยังมีจังหวะหวาดเสียวมาทักทายอย่างต่อเนื่อง ฉายคู่สายตาทอดผ่านยังวิวนอกกระจก เห็นเพียงความมืดและฝูงป่าไม้ที่ยืนทำตัวลึกลับอยู่ตรงหน้า อารมณ์ในขณะนั้นนึกถึงพี่ป๋อง กพล ขึ้นมาจับใจ และแอบ Think in My Heartว่า “เรามาทำอะไรที่นี่เนี่ย”
สิ่งที่ปฏิบัติได้ในตอนนั้นคงมีเพียงหาแหล่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ หันไปมองผู้โดยสารคนอื่นก็พากันนิทราอย่างเปี่ยมสุข จึงหมุนสายตาไปทางพี่คนขับ หวังจะได้เห็นความนิ่งสุขุม อันจะก่อความอุ่นใจให้กระผมบ้าง
“แป๊ะๆ” เสียงดังเป็นจังหวะจากกริยาการตบคอของบุรุษหลังพวงมาลัย นัยว่าจะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการตื่นตัว โอ้ว
แม่เจ้า! คนขับดันมาทำท่าจะง่วง คุณพี่จะรู้ไหมว่าทำให้จิตผมตกไปหลาย Level สุดท้ายไม่รู้จะทำเยี่ยงไร งั้นคงต้องตัดปัญหาด้วยวิธีรูดม่านหนังตาลงให้ปิดสนิท เพื่อทำเป็นไม่สนใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น “ได้ผลแฮะ” ผมค่อยๆ ผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
“ถึงแล้วคร้าบบ” ถ้อยคำของโชเฟอร์เขย่าความเคลิ้มหล่นดังตุ้บ! ก่อนจะขยี้ตาตื่นพลางชวนเท้าตัวเองลงมาสัมผัสธรณี แล้วก็พบแสงสว่างในยามเช้า พร้อมสิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเป็นภาพจางๆ เคลือบอยู่ด้วยไอหมอกแห่งความยะเยือก
ผู้คนที่ถูกห่อหุ้มร่างกายด้วยเสื้อตัวหนาหิ้วตะกร้ากันมา บ้างกำลังยืนจับจ่ายเลือกซื้อของ กลิ่นกรุ่นหอมฉุยจากอาหารมื้อเช้าก็ลอยมายั่วจมูก ซึ่งบรรยากาศนั้นเต็มไปด้วยความสงบ สบายๆ ปราศจากสถาณการณ์นามว่าโกลาหลอย่างสิ้นเชิง
ค่อยๆ เงยหน้าฝ่าควันความหนาว แหงนขึ้นไปมองทิวทัศน์รายรอบในมุมสูง ก็เห็นเป็นทิวเขาแนวยาวโอบล้อมเมืองที่ผมกำลังยืนหยัดอยู่ในตอนนี้ “สุดยอดเลยอ่ะ” เสียงอุทานโพล่งขึ้นมาในใจ จึงไม่น่าแปลกว่าเหตุใดจึงถูกขนานสมญาว่าเมืองแห่งสายหมอก นั่นคือจังหวัด “
แม่ฮ่องสอน” ที่นี้นี่เอง เงง เงง เงง....(เสียงแอ๊คโค่ อารมณ์ทีวีแชมป์เปี้ยน)
เอาล่ะ จับมือผมไว้แน่นๆ แล้วไปด้วยกัน เดี๋ยวจะพาสัมผัสความชิลล์ที่ไอแลนด์ แดนสามหมอผม้อยู่หรอกว่าคุณอยากไป ถ้างั้นชักช้าอยู่ใย มาเร็วไวมารีบไปกัน โย่ว! (ดันชวนมาแร็พกันซะงั้น)