|
ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มคน กลุ่มหนึ่ง ที่รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งโลกบนบก โลกใต้น้ำ ซึ่งมีแนวความคิดที่ไม่ธรรมดามุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดความรู้ แชร์ประสบการณ์ความแปลกและน่าพิศวงที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมา ร่วมค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวบนโลกใบนี้ไปกับพวกเรากลุ่ม”โลกโสภา” และสามารถติดตามข่าวสารการท่องเที่ยวของกลุ่มโลกโสภาได้ที่ www.facebook.com/loksopha
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อินเดียถือเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาที่สุดของโลก และคงเป็นประเทศที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ด้วยที่เราเองก็รับเอาวัฒนธรรมหลายๆอย่างที่มีต้นกำเนิดมาจากที่อินเดีย โดยแทรกมากับศาสนาต่างๆ ทั้งพุทธ พราหมณ์ ฮินดู ดินแดนภารตะอาจจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางของใครหลายๆคน แต่ดินแดนแห่งนี้มีเรื่องราวซ่อนเอาไว้มากมาย คราวนี้โลกโสภาจะพาไปต้นกำเนิดวัฒนธรรมส่วนหนึ่งของเรา ไปด้วยกันกับเรานะครับ ที่แรกที่เรามาก็ต้องที่นี่ครับ GATE WAY OF INDIA ณ เมือง มุมไบ มหารัฐราชตะมรดกแห่งสุดท้ายที่อังกฤษสร้างไว้หลังจากที่ทหารหน่วยสุดท้ายจากไป www.facebook.com/loksopha
|
|
|
|
|
|
|
มุมไบหรือบอมเบ เป็นเมืองที่แออัดไปด้วยผู้คนถึง 20 ล้านคน แต่ท่ามกลางผู้คน ชุมชนแออัด รถไฟที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คนจนต้องขึ้นไปนั่งบนหลังคารถไฟ ความสับสนวุ่นวายอลหม่าน มุมไบยังคงมีอีกสถานะที่คนอินเดียทั้งผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู ชาวพุทธ และเชน ต่างรู้กันดีว่าดินแดนแห่งนี้เป็นดินแดนแห่งเทพเจ้า รูปสลักพระพุทธเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายwww.facebook.com/loksopha
|
|
|
|
|
|
|
ถ้ำช้าง Elephanta Caves ซึ่งอยู่ห่างจาก Gateway of India ไปเพียงแค่ 10 กิโลเมตรหนึ่งในศาสนสถานที่มีชื่อเสียงของศาสนาฮินดู เทวะสถานที่ได้รับการสร้างถวายเทพเจ้า ซึ่งได้รับการแกะสลักภูเขาเป็นรูปเทพเจ้านับเป็นบทพิสูจน์ถึงแรงพลังศรัทธาที่มีต่อเทพเจ้าของเจ้าฮินดู ถ้ำช้างถูกสร้างขึ้นเมื่อ 1500 ปีก่อนโดยกษัตริย์ราชวงศ์ไตรภูตะ ผู้ปกครองที่ราบสูงเดคคานตะวันตก ที่สร้างถวายต่อเทพเจ้าที่ช่วยให้ได้รับชัยชนะจากการรบ www.facebook.com/loksopha
|
|
|
|
|
|
|
ที่ถ้ำช้างแห่งนี้มีรูปแกะสลักที่มีชื่อเสียงมากมายและหนึ่งในนั้นคือภาพ พระตรีมูรติ ปางหนึ่งของพระนารายณ์ที่รวมเทพทั้งสามองค์คือ พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังwww.facebook.com/loksopha
|
|
|
|
|
|
|
สำหรับชาวพุทธศาสนิกชนแล้วห่างจากมุมไบไปทางเหนือราว 400 กิโลเมตรใกล้เมืองออรังคบาด ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves)ได้ชื่อว่าเป็นวัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก เรื่องราวการสร้างวัดถ้ำของพระสงฆ์ก็ได้เริ่มต้นขึ้นที่นี่ตั้งแต่พุทธศักราช 350 ท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อนบนที่ราบสูงเดกกัน พระภิกษุในสมัยนั้นได้ค้นพบสถานที่ที่เหมาะสำหรับทำเป็นกุฏิเพื่ออยู่อย่างสันโดษ ห่างไกลผู้คนและทำให้ประวัติศาสตร์หน้าต่อมาของ ศาสนาพุทธ ในอินเดียได้ปรากฏขึ้นในหมู่ถ้ำบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบสูงเดคคานนั่นเอง www.facebook.com/loksopha
|
|
|
|
|
|
|
ปีพุทธศักราช 2362 จอห์น สมิธ นายทหารชาวอังกฤษได้ตามล่าเสือเข้ามาถึงยอดเขาแห่งหนึ่งบริเวณหมู่บ้านอชันตา ใกล้เมืองออรังคบาด ขณะที่เขามองไปที่หน้าผาหินฝั่งตรงข้ามซึ่งปกคลุมไปด้วยต้นไม้หนาทึบ ก็ได้สังเกตเห็นสิ่งหนึ่งที่มีรูปร่างแปลกไปจากลักษณะหน้าผาหินธรรมชาติในบริเวณนั้น สิ่งนั้นดูคล้ายกับส่วนโค้งของสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์ทำขึ้น
ด้วยความแปลกใจ จอห์น สมิธ จึงปีนหน้าผาลงไปสำรวจ และเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าบริเวณนั้นมีวัดถ้ำเป็นจำนวนมากซ่อนตัวอยู่ในหน้าผาท่ามกลางป่ารกแห่งนั้นถ้ำเหล่านี้ถูกเจาะลึกเข้าไปในภูเขาเพื่อสร้างเป็นวัด มีวิหารขนาดใหญ่ภายในเต็มไปด้วยงานแกะสลักหิน เป็นเจดีย์ เป็นพระพุทธรูป เป็นเรื่องราวต่างๆ ในพุทธประวัติและชาดกเต็มไปหมด ส่วนสิ่งที่เขามองเห็นแต่ไกลนั้นก็คือส่วนโค้งของประตูถ้ำขนาดมหึมาแห่งหนึ่งที่โผล่พ้นยอดไม้ออกมานั่นเอง และที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือ ถ้ำเหล่านี้ซุกซ่อนตัวอยู่ที่นี่มานานถึงกว่า 1,500 ปีแล้วโดยไม่ถูกรุกล้ำนับจากวันที่ถูกทิ้งร้างwww.facebook.com/loksopha
|
|
|
|
|
|
|
ถ้ำเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่ของสงฆ์ เป็นวัด เป็นวิหาร โดยใช้วิธีเจาะภูเขาทั้งลูกเข้าไป บางถ้ำมีถึงสามชั้น มีทางเดินเชื่อมถึงกันตลอด ถ้ำที่ก่อสร้างในยุคแรกๆ เป็นวัดถ้ำของพุทธฝ่ายเถรวาท พระสงฆ์ในยุคนั้นได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยอย่างเรียบง่าย โดยเจาะหินเข้าไปเป็นห้องโถงเปิดโล่ง ใช้เป็นที่นั่งสนทนาธรรม ส่วนผนังทั้งสามด้านก็สกัดหิน เจาะเข้าไปเป็นห้องนอน ภายในมีเตียงหินห้องละสองหลัง www.facebook.com/loksopha
|
|
|
|
|
|
|
|
ถ้ำอชันตาถูกสร้างราวปี พุทธศักราช 350 ถึง 400 เสร็จสิ้นราวปีพุทธศักราช 1400 ภาพเขียนสีที่บ่งบองถึงความเพียรพยายามของผู้สร้างยิ่งเพิ่มความศรัทธาให้กับถ้ำอชันตามากยิ่งขึ้น
|
|
|
|
|
|
|
|
ไม่ไกลจากถ้ำอชันตามากนัก มีอีกหมู่ถ้ำหนึ่งที่มีความพิเศษกว่าถ้ำอื่นๆ ตรงที่ศาสนาแต่ละศาสนามีแหล่งกำเนิดและมูลเหตุในการเกิดไม่เหมือนกัน มีหลักคำสอนแตกต่างกัน ถึงแม้จะมีบางส่วนใกล้เคียงกันแต่แนวคิดมูลฐานไม่เหมือนกัน แต่เมื่อศาสนาทั้งสามมาอยู่ร่วมกันในภูเขาแห่งเดียวกัน โดยเจาะภูเขาจนกลายเป็นถ้ำหิน เพื่อใช้เป็นวัด โบสถ์ สังฆาราม วิหาร หอสวดมนต์มีจำนวนทั้งหมดถึง 34 ถ้ำอยู่ในภูเขาลูกเดียวกันทั้งสามศาสนาคือศาสนาพุทธ ศาสนาฮินดูและศาสนาเชน ที่ถ้ำเอลโลรา เมืองออรังคบาด สร้างขึ้นราวพุทธศักราช 900 ถึง 1200 หลังถ้ำอชันตากำลังจะสร้างเสร็จเสมือนเป็นรอยต่อแห่งประวัติศาสตร์
|
|
|
|
|
|
|
|
|
โดยเริ่มสร้างถ้ำจากศาสนาพุทธ ก่อน ทอดยาวไปทางทิศเหนือ ถ้ำของศาสนาพุทธนั้นสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ และเป็นที่พักอาศัยของพระภิกษุ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เมื่อศาสนาพุทธเริ่มเสื่อมความนิยมลง จึงเริ่มสร้างศาสนสถานของศาสนาฮินดูโดยการแกะสลักภูเขาทั้งลูกเป็นเขาไกรลาสตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ซึ่งคาดว่าน่าจะสร้างเพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของศาสนามากกว่าที่จะประกอบพิธีกรรม
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ถ้ำศาสนาเชน (พ.ศ.1350- 1450) มี 5 ถ้ำ ส่วนถ้ำของศาสนาเชนนั้นมีการแกะสลักหินที่งดงามไม่แพ้ถ้ำของศาสนาฮินดู แต่มีลักษณะที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือแสดงรูปแกะสลักของศาสดามหาวีระอย่างชัดเจน จึงน่าจะสร้างขึ้นเพื่อเผยแผ่ศาสนาเป็นหลัก หากไม่สังเกตให้ดีอาจจะมองว่าภาพศาสดามหาวีระกับพระพุทธเจ้านั้นมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก แต่มีข้อสังเกตคือศาสดามหาวีระมีลักษณะเปลือยกายไม่มีริ้วจีวร บางภาพถึงกับแสดงให้เห็นถึงอวัยวะเพศชายชัดเจน แต่ภาพพระพุทธเจ้าจะมีริ้วจีวรชัดเจน
|
|
|
|
|
|
|
|
เทศกาลคเณศจตุรถี เทศการหนึ่งที่สำคัญของชาวอินเดีย จะทำกันวันแรมสี่ค่ำเดือนเก้า และแรมสี่ค่ำเดือนสิบดามปฏิทินฮินดู(ประมาณวันที่ 22 กรกฎาคม ของทุกปี ถ้าจะไปแสวงบุญร่วมงานก็เตรียมตัวได้เลยครับ) ซึ่งถือว่าเป็นวันกำเนิดของพระพิฆเนศ เทพเจ้าแห่งความรู้ ศิลปวิทยา และความสำเร็จ เชื่อกันว่าจะเสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์และจะอำนวยพรให้กับผู้ที่นับถือศรัทธาในตัวพระองค์ท่าน
|
|
|
|
|
|
|
เทศกาลคเณศจตุรถี มีการจัดพิธีกรรมบูชาและการเฉลิมฉลอง ขึ้นทั้งประเทศอินเดียและทั่วโลก โดยเฉพาะที่มุมไบ ถือเป็นศูนย์กลางแหล่งบูชาพระพิฆเนศ โดยแต่ละหมู่บ้านจะมีการจัดสร้างเทวรูปพระพิฆเนศของตนเอง แล้วก็จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองของแต่ละหมู่บ้าน www.facebook.com/loksopha
|
|
|
|
|
|
|
จนถึงวันสุดท้ายของงานจะมีการแห่พระพิฆเนศไปตามสถานที่ต่างๆทั่วเมือง ผู้คนจะแต่ตัวสนุกสนานเต้นรำฉลองกันไปตามถนนหนทาง ในขณะบูชาผู้บูชาจะท่องพระนาม 108 ของพระองค์ไปด้วย และจะแห่องค์พระพิฆเนศไปสู่แม่น้ำหรือทะเลเพื่อส่งขึ้นสู่สวรรค์ ****ข้อห้ามในสำคัญในวันงานคือ ห้ามมองพระจันทร์อย่างเด็ดขาด หากผู้ใดพลาดพลั้งเผลอไปมองพระจันทร์ จะต้องกลายเป็นคนจัณฑาลไปทันที ผู้พบเห็นจะต้องด่าว่า หรือสาปแช่งผู้ที่มองพระจันทร์เพราะเชื่อว่าจะทำให้พ้นจากคำสาปนั้นได้
|
|
|
|
|
|
|
แรงศรัทธาของผู้คนต่อพระพิฆเนศนั้นยิ่งใหญ่ ถึงแม้นอาจจะมองไม่เห็นด้วยสายตาแต่ก็สัมผัสได้ด้วยจิตวิญญาณและความรู้สึก ถึงแม้นว่าศรัทธาจะแรงกล้าแค่ไหนแต่สิ่งสำคัญคือการขอพรจากพระเจ้าจะต้องเกิดจากการลงมือปฏิบัติด้วย เรื่องโดย : ธนกร ไวยานิกรณ์ ภาพโดย :โลกโสภา Loksopha www.facebook.com/loksopha
|
|
|
|
|
|
|
|
จำหน่าย กล้องสำรวจ,กล้องวัดมุม, กล้องวัดระดับ,มือหนึ่ง,มือสอง บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด
สนใจสอบถามได้ที่ Tel: 02-1816844 Line ID: @998-p1 Email: sales.p1instrument@gmail.com
ที่อยู่ 334/10 หมู่5 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10280 กล้องระดับอัตโนมัติ AUTO LEVEL
กล้องระดับอัตโนมัติ TOPCON AT-B3A - กำลังขยายภาพ 28 เท่า - มองเห็นภาพใกล้สุด 0.3 เมตร - ความละเอียดในการทำระดับระยะ 1 กม. +/- 2 มม. - โครงสร้างกันน้ำ, กันฝุ่น มาตรฐาน IP66 อุปกรณ์ประกอบ - กล่องกันสะเทือน - ชุดเครื่องมือปรับแก้ประจำกล้อง - ฝาครอบเลนส์ - มีขาตั้งกล้องอลูมิเนียม พร้อมลูกดิ่งและสาย 1 ชุด - ไม้สต๊าฟแบบชัก 4 เมตร
บริการพิเศษจากทางร้าน - รับประกัน 1 ปี ฟรีค่าแรงซ่อม - คาลิเบสกล้องฟรี 1 ปี หรือ 2 ครั้ง
เครดิต : http://www.p1instrument.com/ Tags : กล้องวัดมุม, ขายกล้องวัดมุม,ขายกล้องระดับ
|
|
|
|
|
|
|