เราเอาเรื่องมาจากกระทู้ original ที่พันทิพย์ค่ะ >>
http://pantip.com/topic/30670095 วันนี้มีเรืองที่ทั้งน่าประทับใจและเรื่องที่ควรเก็บเป็นข้อคิดมาเล่าให้ฟังค่ะ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่ BA ที่
งาน Laura Mercier ที่น่ารัก ถ้าไม่ได้เธอสถานการณ์คงไม่คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น แทนที่จะได้ช็อปชิลๆ กลับเกือบจะเสียเงินหมื่นซะแล้ว ตอนแรกว่าจะไม่โพสลงพันทิพย์เพราะว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย และเป็นความสะเพร่าของเราเองล้วนๆ ไม่ใช่เรื่องมิจฉาชีพอะไรเล้ย แต่ว่าเรานึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ถามชื่อพี่ BA แล้วก็ยังไม่ได้ขอบคุณด้วย ก็เลย เอาวะ! ไหนๆก็สมัครพันทิพย์ไว้แล้วก็อยากให้เกิดประโยชน์

เรื่องของเรื่องคือ เราไปที่งาน Laura Mercier ที่ Paragon เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประมาณทุ่มกว่าๆ เจอของลดราคาแล้วเคลิ้ม เที่ยวเดินไปเรื่อยเทสคุณโน่นคุณนี่ แต่ที่งานคนเยอะมากกกกก BA คนเดียวมีลูกค้ารุมสามสี่คน เราก็เลยติดลนๆว่าเออ...คนเยอะนะ อย่าอยู่นาน ให้คนอื่นได้ช้อปบ้าง เบ็ดเสร็จจ่ายไปประมาณ6,000 กว่าบาท พะรุงพะรังทั้งของที่ซื้อ ทั้งของแถม (ซื้อห้าพันแถม แป้งฝุ่นโปร่งแสงในตำนาน อัยย่ะ!) แต่คุณรู้สึกว่าไม่นานของเรามันก็ชั่วโมงกว่าเนี่ยแหละ พอประมาณ 2 ทุ่มคุณแฟนเดินแหวกฝูงชนเข้ามาตามถึงที่เพราะรออยู่ในฟู้ดคอร์ดนานแล้ว (คนอะไรคอย๊าวยาว เอ๊ะ!หรือว่าชั้นอ้วน ก็เลยดูเด่นในฝูงชน?) เขาถามว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์ เราก็ยังไม่เอะใจนะ เพราะว่าก่อนหน้านี้ไปดูหนังมาก็เลยเปิดสั่นไว้ คุณแฟนก็ไม่เอะใจเหมือนกัน เขาก็เร่งๆบอกว่าเดี๋ยวจะมืด ที่บ้านเขาไม่มีคนเฝ้าบ้านเลย
พอนั่งรถไฟฟ้าออกมาได้สามสี่สถานีก็จะหยิบ
มือถือขึ้นมาโทรหา
แม่ว่ากำลังจะถึงบ้านแล้วนะ แต่ปรากฏว่าไม่มีค่ะ ไม่มี๊ไม่มี ควานหายังไงก็ไม่เจอโทรศัพท์ซะที
IPhone 5 ซะด้วย เราก็รู้เลย คิดในใจ "กุเอาอีกแล้ว...กุทำของหายอีกแล้ว..." คุณแฟนเลยได้ทีซ้ำเติม บอกแล้วว่าอย่าใช้มือถือแพง เวลาหายแล้วเป็นไงล่ะ เราก็แบบ...จะถูกจะแพงก็มือถือเหมือนกันปะ ก็สำคัญเหมือนกันป๊ะ? ตอนนั้นอารมณ์เสียค่ะ เกือบทะเลาะกัน มันอารามตกใจด้วย แถมมือถือของเราไม่ได้ลง Find My Phone ไว้ (บทเรียนข้อที่ 1 เราต้องเรียนรู้เทคโนโลยีไว้บ้างค่ะ) เรากะแฟนก็ไม่รู้จะทำไง ได้แต่ทำใจ เพราะไม่แน่ใจว่าลืมไว้ที่ไหน ไม่รู้จะกลับไปหาที่ไหนดี แฟนก็พยายามโทรให้เรื่อยๆแต่ไม่มีคนรับ แล้วก็โทรบอกคุณ
แม่เราว่าอาจจะกลับดึกนะ เพราะมือถือหาย (แน่นอนว่าโดนแม่ดุซ้ำอีกค่ะ เครียดซ้ำซ้อน) สุดท้ายเราก็เลยตัดสินใจนั่งรถไฟฟ้าวกกลับไปที่สยามค่ะ กะจะเข้าไปหาที่งานอีกที ถ้าไม่เจอก็จะแจ้งความที่สน.ปทุมวันเลย ดีกว่าไม่ทำอะไร
แต่โชคดีมากค่ะที่จู่ก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามือถือแฟนเรา บอกว่าเป็น BA ที่งาน Laura Mercier บอกว่าคุณลูกค้าลืมโทรศัพท์ไว้ตรงเคาน์เตอร์ที่แคชเชียร์นะคะ เราก็รีบเลยค่ะ รีบวิ่งกลับไปเอา โชคดีมากๆ อยากขอบคุณพี่ BA ที่น่ารักมากๆๆๆๆ แถมไม่รับสินน้ำใจอะไรทั้งนั้น ปากก็ขอบคุณ แต่ว่าก็ไม่ได้ถามชื่อไว้
สุดท้ายต้องขอขอบคุณพี่ BA ที่งาน Laura Mercier อีกครั้งนะคะสำหรับความมีน้ำใจครั้งนี้ด้วย อยากให้มี BA นิสัยดีอย่างนี้อีกเยอะๆ
และสำหรับสาวๆห้องแป้งเลย “อย่าช้อปจนเพลิน ลืมของทิ้งไว้ และต้องระมัดระวังของมีค่าต่างๆเวลาไปในที่ที่คนแน่นขนัดด้วยนะคะ”