กรณี กสทช.ปลดล็อคให้คนไทยทั่วประเทศได้ดูฟุตบอลโลกผ่านฟรีทีวีเต็มที่ 64 นัด ตามนโยบายคืนความสุขให้คนไทยของ คสช. จนคอบอลทั่วประเทศกว่า 12 ล้านคนได้เฮ โดยใช้เงินกองทุน กทปส.จ่ายให้อาร์เอส 427 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้อาร์เอส ต้องคืนกล่องรับชมบอลโลกไปแล้ว 300,000 กล่องให้กับแฟนบอลใน 3 แนวทางคือ
1. คืนเต็มราคาในราคากล่องละ 1590 บาท
2. ถ้าไม่คืนกล่อง แต่ยกเลิกดูช่อง World Cup จะได้เงินคืน 299 บาท
3. ลูกค้าที่เติมเงินกล่อง sun box ถ้ายกเลิกจะได้คืนเงิน 299 บาท
....ดูข้อเท็จจริงแล้ว อาร์เอส ต้องคืนเงินลูกค้า 477 ล้านบาท ถ้าลูกค้าคืนหมด เงินที่ได้ชดเชยจาก กสทช. 427 ล้านคงไม่พอ งานนี้อาร์เอส อาจเจ๊ง 2 เด้งครับพี่น้อง เพราะเจ๊งแรกกว่า 50 ล้าน จากส่วนต่างเงินที่ได้รับจาก กสทช. ไม่พอ เงินชดเชย 427 ล้าน เงินที่อาร์เอสคืนค่ากล่อง 477 ล้าน เท่ากับติดลบ 50 ล้าน ส่วนเจ๊งที่สอง ถ้าลูกคืนกล่อง (3แสนกล่อง) กับคืนตามแพคเกจบอลโลกทั้งหมด เจ๊งบานทะโร่แน่ๆ
....งานนี้เฮียฮ้อเป็นนักธุรกิจที่ฉลาด ถ้าคิดทำธุรกิจจริงๆ คงไม่โง่พอ ที่จะรับการชดเชยจาก กสทช. ในวงเงินดังกล่าว แล้วทำใหบริษัทเจ๊ง เว้นเสียแต่มีระดับบิ๊กขอความร่วมมือให้คืนความสุขให้คนไทย! ...แต่เชื่อไหมว่า ยังมีเอ็นจีโอตัวพ่อกับเอ็นจีโอตัวแม่ แฝงตัวใน กสทช.ได้ออกมาสร้างภาพเป็น "วีรบุรุษและวีระสตรี" คัดค้านการใช้เงินกองทุน กทปส. จ่ายชดเชยอาร์เอส โดยแนะให้นำเงินไปสร้างโรงพยาบาลหรือห้องสมุดแทน ซึ่งแค่คิดก็ผิดแล้ว เพราะกองทุน กทปส.จะช่วยเหลือเฉพาะด้านการสื่อสารเท่านั้น
...เรื่องวุ่นๆ เหล่านี้ คงไม่เกิดขึ้น ถ้าบอร์ดชุดของ "สุภิญญา กลางณรงค์" ไม่มีมติยื่นเรื่องการจ่ายเงินชดเชยของ กสทช.ให้อาร์เอส ไปให้ศาลปกครองพิจารณา จนศาลมีคำสั่งเรื่องเอกชนเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ทำให้ กสทช. ต้องมาปลดล็อค..มีใครรู้ความจริงเบื้องหลังฉากนี้หรือไม่..จึงอยากให้เอ็นจีโอใน กสทช.หยุดสร้างความวุ่นวายได้แล้ว!