หลังจาก Zenfone4 ได้เปิดตัว ตอนนี้ถึงคราวพี่รองอย่าง Zenfone5 บ้างละ

ข้อมูลสเป็คตัวเครื่อง
- แพลทฟอร์ม Android 4.3 (Jelly Bean)*
- สี Charcoal Black/Pearl White/Cherry Red/Twilight Purple/Champagne Gold
- ขนาด 148.2 x 72.8 x 10.34 mm (LxWxH)
- น้ำหนัก Phone: 145 g
- ซีพียู 2X2: Intel Atom™ Multi-Core Z2580/Z2560 Processor 2.0/1.6GHz with Intel Hyper-Threading Technology
- หน่วยความจำ 2 GB / 1 GB RAM
- สตอเรจ 5GB free lifetime ASUS WebStorage
- สล็อต หน่วยความจำ MicroSD card (up to 64 GB)
- โมเด็ม INTEL XMM6360
- เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ WLAN 802.11 b/g/n USB 2.0 Bluetooth V4.0+EDR +A2DP Dual Micro SIM card **
- มาตรฐานของเน็ตเวิร์ค UMTS/WCDMA HSPA+ UL:5.76 Mbps/DL:42 Mbps
- DC-HSPA+ UL:5.76 Mbps/DL:42 Mbps
- 3G : UMTS : 850/900/1900/2100
- 2G : EDGE/GPRS/GSM : 850/900/1800/1900,
- GPS GPS, GLONASS & AGPS
- การแสดงผล 5inches, HD 1280x720, IPS with Capacitive Multi touch panel
- Corning Gorilla Glass 3, Supports GloveTouch input
- แบตเตอรี่ 2110 mAh Lithium
- เวลา รอรับสาย /353 hours(3G)
- ระยะเวลาสนทนา /18.5 hours(3G)
- กล้อง Phone : Front 2 Mega-Pixel, F2.4 Aperture
- Rear 8 Mega-Pixel, Auto Focus, LED Flash, F2.0 Aperture, PixelMaster
- วีดีโอ Video Playback : MPEG4 up to 1080p Video Recording : MPEG4 up to 1080p @30fps, 720p @ 60fps
- ออดิโอ สล็อต 3.5mm
- ออดิโอ MP3/3GP/AAC
- ข้อความ SMS/MMS/IM/Email
- อีเมล์ Google Mail/Exchange/POP3/IMAP4/SMTP
- Sensor G-Sensor/E-Compass/Proximity/Light Sensor/Hall Sensor *3

รูปลักษณ์
สำหรับคนที่ได้ทำความรู้จัก Zenfone 4 ไปบ้างแล้วก็คงจะไม่ต้องอธิบายอะไรมากเพราะต่างกันแค่ความกว้างหน้าจอจาก 4 นิ้วเป็น 5 นิ้วนั่นเอง ซึ่งเป็นจอ IPS มุมมองรับกันดีกับความกว้างครับ รูปทรงหลังเต่ารับกับมือผู้ใช้ ใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนต ประกอบทนทานดีครับดูราคาแพงเกินตัว (ซึ่งทำได้ดีมาก ขอชม) แต่ก็มีลูกเล่นเรื่องสีสันที่เสริมเลื่อมให้ดูเหมือนฝาครอบโลหะ ต่างจาก Zenfone 4 ที่เป็นพลาสติกสีสดธรรมดา
อุปกรณ์เสริมที่ให้มาในกล่องก็มีหลักๆ ทั่วไปครับ สายชาร์จ อแดปเตอร์ หูฟังแบบอินเอียร์พร้อมจุกยางสำรอง ซึ่งใน Zenfone 4 จะไม่มีมาให้นอกจากแบตสำรอง 1 ก้อน แต่ Zenfone 5 ไม่มีแบตสำรองมาให้นะครับ อุปกรณ์เสริมที่จัดมาให้ก็เลยถือว่าทดแทนกันไปในบางส่วน
สำหรับแบตเตอรี่ใน Zenfone 5 เป็นแบบฝังในตัวเครื่อง ขนาดสมตัว 2110 mAh กินพลังงานเฉลี่ยตามปกติ แต่อยู่ได้นานกว่า Zenfone 4 ราว 30-40% ในการใช้งานแบบเดียวกันอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการชาร์จแบต
Zenfone 5 ยังไม่หนีผู้ใช้งาน 2 ซิมไปไหน เหมือนกับตัวน้องเล็กทุกประการแต่จะรองรับเฉพาะไมโครซิมเท่านั้น เรื่องความจุเมมโมรี่ก็เช่นกันคือจัดมาให้ 5GB และอัพเป็น 64GB ได้ทันทีที่ต้องการ
กล้องและการถ่ายภาพ
กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล คือคุณสมบัติเด่นเกินราคาที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของ Zenfone 5 ครับ เห็นอย่างนี้มีแฟลช LED มาพร้อมนะครับ และสิ่งที่หลายคนสนใจอยากจะพิสูจน์ในกล้องของ Zenfone 5 ก็คือเทคโนโลยี Pixel Master ที่ Asus บอกว่าจะเข้ามาจัดการปัญหาเรื่องภาพด้านความละเอียดและการปรับแต่งเฉพาะตัว
โหมดการถ่ายภาพเหมือนกันกับ Zenfone 4 ทุกประการ ทั้งฟิลเตอร์ เอฟเฟคท์แต่งภาพ การตั้งค่า White Balance ที่ผมชอบใจมากกว่ากล้อง DSLR ในจุดหนึ่งตรงที่เราจะเห็นภาพจากการปรับโหมดที่หน้าจอได้เลย ไม่ต้องถ่ายก่อนแล้วเรียกดูเหมือนกล้องถ่ายภาพ หรือค่า ISO ก็มีมาให้ตั้งค่าความละเอียดสูงสุดถึง 800
ซอฟท์แวร์
ด้านซอฟท์แวร์ก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจาก Zenfone 4 เช่นกันครับ คือยังมาพร้อมกับแอนดรอยด์ 4.3 เจลลี่บีน (พร้อมอัพเป็น 4.4 Kitkat) ครอบ Zen UI
ฟีเจอร์ที่อยากแนะนำ
มีฟีเจอร์บางตัวที่เรารอเก็บไว้แนะนำเมื่อถึงวันที่ Zenfone 5 มาถึงมือเรา ซึ่งพูดตรงๆ ก็มีมาให้ใช้ใน Zenfone 4 ด้วยนะครับ แต่อยากจะขอกล่าวถึงเป็นพิเศษเพื่อเสริมให้เห็นว่าพี่รองตัวนี้ยังมีความสามารถได้อีก คือฟีเจอร์ที่เอื้อประโยชน์เหมือนผู้ช่วยของเราก็คือการใช้งาน Notification ที่เพียงลากหน้าจอลงมาก็จะแสดงผลในงานที่คุณทำไปแล้วก่อนหน้านี้ รวมถึงการแจ้งเตือนเรื่องพยากรณ์อากาศ ข่าวสาร ตารางนัดหมาย ในมุมมองแบบ Zen UI ที่อ่านง่ายสบายตา ตั้งค่าภาษาไทยได้ ฟีเจอร์นี้ผู้ใหญ่น่าจะชื่นชอบกันครับ

ข้อดี
- ราคายังน่าดึงดูดใจในแบบซีรีส์ Zenfone กับสเป็คระดับ RAM 2GB กล้องถ่ายรูป 8 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช แบตเตอรี่พอฟัดพอเหวี่ยง 2110 mAh ถือว่าคุ้มสุดๆ แล้วในยุคนี้
- โหมดถ่ายภาพที่มีให้เลือกใช้มาก ถ่ายสนุก และได้ภาพถ่ายที่คมชัดสวยงามไม่น้อยหน้าตัวท็อปแบรนด์ไหนๆ
- ใช้งานได้ลื่นไหล ยังไม่เจอปัญหาอาการหน่วงหรือค้าง แม้จะใช้งานกราฟฟิคหนักทั้งดูคลิปและสลับไปเล่นเกม
ข้อเสีย
- หาซื้อยาก ขาดตลาดไว ทั้งจากความนิยมของผู้ใช้ และการทำตลาดที่ค่อนข้างจะช้าไปนิดสำหรับ Asus ประเทศไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก Asiashop