หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: ไฉไลในยุโรป กัดก้อนเกลือกินก็ฟินได้  (อ่าน 556 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 31 ม.ค. 15, 02:53 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 

สวัสดีค่ะ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราจะขอแชร์ประสบการณ์เที่ยวยุโรป ครั้งหนึ่งในชีวิตที่สุดฟินไม่มีวันลืม อยากให้คนที่มีความฝันจะเที่ยวยุโรปว่ามันไม่แพงอย่างที่คิด ถ้ารเาเที่ยวอย่างพอเพียง มุ่งเก็บประสบการณ์ เน้นความชิวไม่เน้นช้อป หากคุณสบโอกาสและเวลา อย่ารอช้าค่ะ ขอบอก![/color]

เพราะว่าทริปนี้กินเวลาร่วมเดือน กับงบ 1,500 ยูโร (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) ที่จริงจะถูกกว่านี้ด้วยค่ะถ้าไม่ไปสวิตเซอร์แลนด์และไม่โดนปรับตอนขึ้นรถไฟผิด แผนของการเดินทางของเราไม่ตายตัว สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนแปลงกันเล็กน้อย แต่ก็ยังฟินสุดๆ อยู่ดี

เราได้เคยโพสท์ภาพสวยๆ และเเชร์เรื่องราวประสบการณ์จากการเดินทางครั้งนี้ไปบ้างแล้ว ติดตามกันได้ที่ https://www.facebook.com/talesfromthebusyfeet นะคะ

คราวนี้เราจะมารำลึกถึงซัมเมอร์ในยุโรป เดือนสิงหาคม 2014 ที่ผ่านมาค่ะ บอกได้แค่ว่า แต่ละเมืองที่ได้ไปนั้น สุดยอดและน่าประทับใจจริงๆ ในเวลาเกือบเดือนนี้ ลุยไปไม่ต่ำกว่า 12 เมืองค่ะ มาเริ่มกันเลย

จุดหมายแรกที่แลนดิ้ง ดิ่งพสุธา (ไม่ได้โดดร่มลงมาค่ะ เว่อร์ไปงั้น) เป็นประเทศที่กินค่าใช้จ่ายไปแทบจะ 1 ใน 3 ของทั้งทริป สวิตเซอร์แลนด์แดนนาฬิกา ในเมื่อแพงแล้ว ทำไมถึงมาที่นี่ ก็ต้องตอบค่ะว่าสมัยยังสาวเคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่นี่ 1 ปี แน่นอนล่ะค่ะว่ารักเหมือนเป็นบ้านที่สอง ได้โอกาสเที่ยวยุโรปแล้ว ก็ต้องขอกลับมาเยี่ยมสักหน่อย เราบินทรานสิทสองหน ใช้เวลาเดินทางเกือบวันไปลงที่จุดหมายแรก ซูริคค่ะ เมื่องเศรษฐีมีตัง เราจำเป็นต้องค้างคืนแรกที่นี่ ค่าที่พักสูงถึง 100 CHF ก็ต้องจ่าย เพราะ Swiss Pass ที่จะซื้อต้องซื้อในวันรุ่งขึ้นเพราะเราจะซื้อแบบ 4 วัน สนนราคา 300++ CHF ค่ะ !!! นี่แหละค่ะที่ต้องเรียกว่าแพงหูฉี่ เรานอนโรงแรมเย็นวันแรกที่ไปถึงในเมืองซูริค เป็นอารมณ์บ้านคนแล้วแบ่งห้องให้พักค่ะ หาจาก Booking.com สุดที่รัก

รูปที่พักคืนแรก และวิวเมืองซูริค จากมหาวิทยาลัยซูริคค่ะ




noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 31 ม.ค. 15, 03:31 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

มาต่อกันที่วันที่สอง เมืองที่สองนะคะ พักผ่อนจากการเดินทางอันยาวนาน กรุงเทพฯ-มุมไบ-ปารีส รอ 6 ชั่วโมงเพือบินไม่ถึงชั่วโมงไปซูริคจนหายเพลียแล้วเราก็เช็คเอาท์ มุ่งตรงไป Zurichhauptbahnhof หรือสถานีรถไฟซุริค เพื่อโดนฟันค่า Swiss Pass น้ำตาร่วงแล้ว คราวนี้เราก็จะไปไหนก็ได้ค่ะ Swiss Pass ขึ้นได้หมด รถบัสรถไฟ และเรือ แต่ถ้าเป็นรถไฟหรือกระเช้าขึ้นเขาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เราต้องจ่ายอีกครึ่งราคาค่ะ (กรอบเเท้) ในสถานีรถไฟมีตลาดเช้าพอดี เลยซื้อเค้กราสเบอร์รี่ไปกินบนรถไฟ อยู่สวิสอย่าหวังจะเข้าร้านอาหารค่ะ ได้เข้าแมคโดนัลด์ก็หรูแล้ว (นี่คือทริปประหยัด ท่องไว้ๆ)

วันนี้เราจองห้องพักไว้ที่ Luzern เมืองท่องเที่ยวสุดป๊อบอีกเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีทะเลสาบสวยอยู่ใจกลาง และมีภูเขาหลายลูกให้ขึ้นไปชมวิว เช่น Pilatus ที่อยู่เป็นแบ็คกราวด์ของสะพานไม้ลูเซิร์น Titlis, Rigi และ Engelberg เป็นต้น นับว่าเป็นอีกเมืองที่ไม่ควรพลาดค่ะ อย่างที่บอกว่าเป็นทริปกัดก้อนเกลือกิน เราก็จองโรงแรมแบ็คแพ็คเกอร์นอนรวมไว้ค่ะ คืนละประมาณ 30 CHF ชื่อ Lion Lodge อยู่ทางที่ออกจากอนุสรณ์สถานสิงโตร้องไห้ Lowendenkmal ค่ะ

เราลากกระเป๋าทุลักทุเลไปเช็คอินที่โรงแรมแล้ว ที่หมายต่อไปคือไปเยี่ยมครอบครัวอุปถัมป์ในคันโตน Kanton หรือรัฐที่ชื่อว่า Solothurn เป็นคันโตนเล็กๆ มีแม่น้ำ Aare อาเร่ (ไม่ใช่อาราเล่นะคะ) ไหลผ่าน แม่น้ำสายนี้ยังไหลผ่านเมืองหลวงของประเทศ กรุงเบิร์นด้วยค่ะ

เมือง Solothurn นี้เป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก มีเมืองเก่าสไตล์ Baroque (ศิลปะสไตล์หรูหราฟู่ฟา แต่ไม่ทิ้งความน่ารัก) อันสวยงามน่าเอ็นดูมากทีเดียว ด้วยเวลาจำกัดทำให้เราได้วิ่งจากสถานีรถไฟไปถ่ายรูปแป๊บเดียว เพราะบ้านที่เราไปเยี่ยมต้องนั่งรถไฟออกไปอีกค่ะ เพราะอยู่นอกเมือง (ชนบทนั้นแล)


รูป Kapelbrucke สะพานไม้เก่าแก่ที่เคยถูกไฟไหม้ครั้งหนึ่ง กับอนุสาวรีย์สิงโตที่ยังคงร่ำไห้

สองรูปล่างคือเมืองเก่า Solothurn มีวิหารในเขตเมืองเก่าชื่อ St. Ursen สวยงามมากทีเดียวค่ะ






noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 31 ม.ค. 15, 03:54 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

วันที่ 3 ในแดนช็อคโกแลต (ตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนโชคดีได้ตั๋วรถไฟฟรีทั้งปี คราวนี้กลับมาแบบ Tourist มันเหมือนต้องใช้กรรม เหอๆ) เราลากกระเป๋ามาเช็คอิน ณ เมืองท่องเที่ยวอันแสนงาม ที่เมื่อสิบปีก่อนเราไม่มีโอกาสได้เที่ยวเป็นเรื่องเป็นราวเพราะไปวันฟ้าหม่นหมอกลง Interlaken ค่ะ ด้วยความตั้งใจแต่แรกว่าจะกลับมาเที่ยวทะเลสาบ Brienz ซึ่งเป็นสีฟ้าอมเขียวมรกตงดงามมากให้ได้ เราจึงจองโรงแรม Hostel ชื่อ Lake Lodge ริมทะเลสาบ Brienz เลยค่ะ ลงรถไฟที่ Interlaken Ost แล้วต่อรถบัสหรือเรือได้ค่ะ เราจะพักที่นี่สองคืน

โรงแรมเป็นบ้านไม้สวิสแบบออริจิ บรรยากาศอบอุ่น เรานอนห้องรวม 10 คน พอขึ้นไปถึงกับอึ้ง มันไม่ได้มี 10 เตียงค่ะ มันเป็นเตียงพาดยาว 2 ชั้น แล้วคนที่นอนก็จะนอนบนที่นอนเรียงติดๆ กันเลยค่ะ แล้วคืนแรกเจอผู้ชายล้วน มีสาวเกาหลีเป็นแนวร่วมคนเดียว ห้องก็ค่อนข้างเล็ก แหม่ อบอุ่นดีแท้ หุๆ แต่นั่นแหละค่ะ ยังไงเราก็ชอบโรงแรมนี้อยู่ดี เพราะวิวแบบนี้เราต้องให้ร้อยเต็ม มาดูกันเลยค่ะว่าเพราะอะไร เอาเป็นว่าอยู่แล้วไม่อยากจะไปไหนต่อเลย

เคล็ดลับการเลือกโรงแรม ที่เราเดินทางไปถึงแล้วจะหาเจอด้วยตัวเอง คือหลังจองใน booking แล้ว เราก็เข้าเว็บของโรงแรม เปิดอากู๋แมป ดู contact โรงแรมไว้ให้เรียบร้อยค่ะ โรงแรมนี้ตอนแรกเกือบหาไม่เจอเพราะบ้านไม้ดูเหมือนๆกันไปหมด

ตื่นเช้าวันรุ่งขึ้นมาเห็นวิวนี้แล้ว ต้องอุทานว่า นี่มันสวรรค์หรือไร มองออกไปเห็นทั้งทะเลสาบและปราสาท ส่วนเจ้าน้องเหมียวเพื่อนยากนี่ก็น่ารักเกิ๊น อยากใส่เป๋าเอากลับไปด้วย






noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 31 ม.ค. 15, 04:32 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

วันที่ 4 ก่อนวันสุดท้าย แอบใจหาย
เป็นวันชิวๆ เพียงลำพังของเราใน Interlaken ไม่ได้แพลนเลยค่ะว่าจะไปตรงไหน เช้ามาก็ชิวดูวิวงามๆ ดังที่กล่าวไป แล้วก็เช็ครอบรถ สิ่งแรกที่จะทำแน่ๆ คือไปล่องเรือในทะเลสาบ Brienz นั่งบัสกลับไปขึ้นตั้งแต่ต้นทาง ที่ท่ารเอตรงสถานี Interlaken Ost เรือที่นั่งเป็นเรือพลังหัวรถจักรไอน้ำสุดคลาสสิค เรือสวย อากาศดี วิวงามหลาย บอกได้แค่ว่าราวขึ้นสวรรค์ค่ะ
เมื่อไปถึงท่าเรือปลายทาง ตอนแรกเรากะจะจับรถไฟไป Grindelwald เพื่อขึ้นกระเช้าไปดูยอดเขาชเรคฮอร์น แต่เราก็ไปสะดุดตาเข้ากับรถไฟหัวรถจักรขึ้นเขา อายุกว่า 100 ปีสู่ Rothorn Kulm เพื่อชมวิวทะเลสาบ Brienz ให้เต็มตา ว่าแล้วก็จัดไป ค่าขึ้น 40 CHF (ราคาครึ่งหนึ่งจากที่ใช้ Swiss Passแล้วนะคะ น้ำตาร่วงอีก) แต่ก็คิดว่า เอาวะ ไหนๆ ก็มาแล้วทั้งที

รูปวิวจากตอนล่องเรือ บอกได้แค่ว่า แทบละลายค่ะพี่น้อง






noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 31 ม.ค. 15, 04:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ยังคงอยู่วันที่ 3 ความตื่นตาตื่นใจยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เรารอขึ้นรถไฟโบราณสู่ยอดเขา Rothorn ด้วยความตื่นเต้น พอได้ลองแล้ว อยากบอกว่าคนแพ้ยานพาหนะที่วิ่งช้าๆ เจ้ารถไฟขบวนนี้ไม่เหมาะกับคุณเท่าไหร่ค่ะ นึกภาพรถไฟไทยวิ่งไต่รางขึ้นเขานะคะ คือใช้เวลาชั่วโมงกว่าค่ะ แต่จะบอกว่าไม่รู้สึกว่าเสียเวลานะ เพราะวิวสวยมว้ากกกกๆๆๆๆๆ จนไม่อยากจะกะพริบตา มีแต่คนชะเง้อกล้องออกไปถ่ายรูป

เอาตัวอย่างเบาะๆ มาให้ชม มีเพื่อนร่วมทางสี่ขาสุดหล่อนั่งไปด้วยค่ะ Bernese Mountain Dog หมาสวิสพันธุ์โปรดเลย (เจ้าของน้องก็หล่อแต่ไม่กล้าถ่ายมา พ่อแม่เค้าอยู่) พาสุนัขขึ้นได้ฟรีนะคะ (ไม่รู้ว่าแมว กระต่าย หรือสัตว์เลี้ยงอื่นฟรีมั้ย) ที่แน่ๆ รู้สึกอยากเป็นหมาขึ้นมาเลยค่ะตอนนั้น จะได้นั่งฟรี เหอๆ

ส่วนวิวก็ คลาสสิคค่ะ ภูเขา ทะเลสาบ วัว สวิสแท้ๆ เลยเชียว เห็นแล้วมันฟินมากกค่ะ






noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 31 ม.ค. 15, 05:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เมื่อถึงจุดหมาย ก็พบว่าวิวนั้นสวยสะพรึงมากจริงๆ ด้วยความที่ว่างและมาคนเดียว เคยเห็นในรีวิวเที่ยวสวิส เค้าดื่มช็อคโกแลตร้อน Ovomaltine กัน แล้วเราก็ยังไม่ได้จกช็อคโกแลตเลยตั้งแต่มาถึงสวิส ก็เอามั่ง เดินเข้าร้านอาหาร สั่งช็อคร้อน กับซุปที่ถูกที่สุด ปรากฏว่า นางมาเป็นซุปเปล่าใสๆ เลยค่า ยังดีว่าเมตตาให้ขนมปังมาแทะด้วย นี่แหละค่ะ ถึงได้บอกอย่าคิดเข้าร้านอาหารที่นี่ (น้ำตาไหลพราก) ท่องไว้ค่ะ เราสวยและรวยมาก! อย่างน้อยช็อคโกแลตร้อนก็อร่อยกลมกล่อม โรยผงช็อคโกแลตลงไปบนนมสดร้อนๆ ฟองนุ่มๆ จิบตอนอากาศเย็นๆ บนเขา แต่ไม่หนาวนะคะ ยังอยู่ในหน้าร้อนเราใส่แค่เสื้อกันหนาวแบบใส่ที่เมืองไทยนี่แหละค่ะขึ้นไปตัวเดียว แต่คนอื่นอาจรู้สึกหนาวกว่านั้น ก็ใส่เป็นแจ๊กเก็ตขึ้นไปก้ดีค่ะเพื่อความชัวร์


ดอก Edelweiss หรือ Elderflower เป็นดอกไม้ประจำชาติของสวิสนะคะ เมื่อ 10 ปีก่อนที่มาอยู่ เรากลับไม่เคยได้เห็นเลยค่ะ มาเห็นครั้งนี้นี่แหละ คุณเม่ของสองหนุ่มหล่อเจ้าของน้องหมาชี้ให้ดูค่ะ
น้องหมายืนเท่มาก ประดุจ Lion King






noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 31 ม.ค. 15, 05:38 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

Day 4 Bern -Zurich - Munich
วันสุดท้ายแล้ว ไม่อยากไปเลย (แทบร้องไห้) แต่พี่ก็ต้องไป ไม่ไหว แพงเหลือเกิน คิดถึงบัตร GA บัตรขึ้นรถไฟอาญาสิทธิ์เมื่อ 10 ปีก่อน (มันคือ Swiss Pass ทั้งปี เอาง่ายๆ) วันนี้เป็นวันเดินทางค่ะ

ตอนเช้า เช็คเอาท์จากโรงแรมด้วยความเสียดาย อาลัยน้องแมวขนฟูขี้ประจบ เนื่องจากเราต้องไปเปลี่ยนรถที่ Bern เพื่อขึ้นรถไฟกลับซูริค เราพอมีเวลาพอสมควรที่จะแวะแชะภาพเมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองมรดกโลก แลนด์มาร์สวยงามด้วยผังเมืองรูปตัว U ล้อมแม่น้ำอาเร่ ชื่อเมือง Bern มาจากคำว่า Baeren หมี ในภาษาเยอรมัน ผู้ที่ก่อตั้งเมืองตั้งชื่อเมืองโดยจากสัตว์ชนิดแรกที่ล่าได้ ซึ่งก็คือน้องหมีนั่นเอง ที่นี่จะมีบ่อหมีด้วยค่ะ สถานที่เด่นๆ นอกจากนี้ก็จะมีอาคารรัฐสภา วิหาร Munster และหอนาฬิกาดาราศาสตร์สวยงามขนาดใหญ่ คนที่ชอบเมื่องเก่าคงหลงรักในความขลังของเมืองนี้ไม่น้อย เป็นอีกหนึ่งเมืองโปรดที่มาบ่อยมากค่ะ เพราะอยู่ห่างจาก Solothurn แค่ 30 นาที

เราจะเดินทางจากแดนช็อคโกแลตสู่แดเบียร์ เยอรมนี ด้วยรถบัส Meinfernbus สีเขียว ค่าโดยสารไม่ถึง 20 ยูโร ทริปประหยัดนี้ เราว่าซื้อ Eurail Pass ไม่คุ้มค่ะ จองเว็บรถบัสถูกสะใจกว่าเยอะเลย รถบัสของเยอรมันนี้เราสามารถจองผ่านเว็บ ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต แล้วเค้าจะส่งตั๋วมาให้ หน้าที่ส่งมาจะมี QR Code อยู่ เราไม่ต้องปริ๊นท์ก็ได้ แคปหน้าจอมือถือหรือไอแป๊ดไว้ได้เลยค่ะ แล้วก็ยื่นให้คนขับเป็นการเช็คอิน การเดินทางใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะและตื่นเต้นมากตอนที่เค้าเอารถบัสลงเรือเฟอร์รี่ข้ามทะเลสาบ

ชมรูปเมือง Bern กันสักหน่อยค่ะ ต่อไปเราจะเข้าสู่เยอรมนีกันแล้วนะคะ





noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:   เมืองน่าเที่ยว  ทริปประหยัด  ท่องยุโรป 

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม