
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศราย
งานข่าวว่าในประเทศไทยยังมีการค้ามนุษย์และใช้แรงงานทาส โดยเฉพาะธุรกิจการประมง ส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคในต่างประเทศเกิดการรณรงค์ไม่ซื้อสินค้า(บอยคอต) อาหารทะเลไทยนั้น ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของซีพีเอฟให้ลดลง ทางซีพีเอฟจึงว่าจ้างบริษัทตรวจสอบเรือประมงและโรงงานอุตสาหกรรมปลาป่นที่ซีพีเอฟรับซื้อ พร้อมกับการเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทให้ผู้บริโภคและลูกค้ารับทราบ จึงคาดว่าในอนาคตอันใกล้ลูกค้าจะได้ทยอยกลับมาซื้อสินค้าอาหารทะเลเช่นเดิมแล้ว และซีพีเอฟพร้อมเดินหน้าต่อและจะไม่หลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าว
“ปัญหาค้ามนุษย์ดังกล่าวมาจากเรือประมงโดยเฉพาะ ส่งผลกระทบมาที่โรงงานอุตสาหกรรมปลาป่น ซึ่งถือเป็นวัตถุที่ซีพีเอฟใช้สำหรับเลี้ยงกุ้งเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ดังนั้น เมื่อมีรายงานต่างๆ ออกมา ซีพีเอฟจึงไม่อยากหลีกเลี่ยงปัญหาและได้ว่าจ้างบริษัทตรวจสอบจากต่างประเทศเข้ามาตรวจทั้งเรือประมง และอุตสาหกรรมปลาป่นของเรา เพื่อให้เกิดความมั่นใจขึ้น และไม่ให้กระทบกับรายได้ของซีพีเอฟ ซึ่งในปัจจุบันมีรายได้จากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนกว่า 60% ขณะที่มีรายได้ภายในประเทศ 30% รวมรายได้ทั้งหมด 4 แสนล้านบาทต่อปี และตั้งเป้าหมายอีก 5 ปีข้างหน้า ให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 10% หรือคิดเป็นมูลค่า 7 แสนล้านบาท” นายอดิเรกกล่าว
ที่มา http://m.matichon.co.th/readnews.php?newsid=1451992649