
ถ้าเอ่ยถึงกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ในเมืองไทย กลุ่มแรก ๆที่คนไทยนึกถึงคือ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” หรือซีพี แต่ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่าการทำบริษัทยุคใหม่มีโอกาสรวยเร็วกว่า ซีพี หรือ ทรู ถ้ามี 2 สิ่งนี้!!
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวใน
งานแถลงข่าวการจัดงาน Startup Thailand 2016 ว่าการทำธุรกิจในอดีตอย่างกลุ่มซีพีและทรูต้องเริ่มต้นเองทุกอย่างกว่าจะประสบความสำเร็จใช้เวลานานกว่า 20 ปี แต่ธุรกิจยุคนี้มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกมากมาย โดยเฉพาะระบบไอทีที่จะผลักดันให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่กี่ปีขอเพียงมี 2 สิ่งคือ
“สมอง” กับ “ฝีมือ” “
โครงการ Startup Thailand คือหนึ่งในปรากฏการณ์ใหม่ที่ผมมองเห็น เพราะนอกจากจะมีหน่วยงานสำคัญของภาครัฐและเอกชนมาร่วมกันถึง 11 หน่วยงานแล้ว ยังมีการออกพ.ร.บ.คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และจัดตั้งกองทุนดิจิทัล โดยมีวงเงินเริ่มต้น 3 แสนเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่ามากพอต่อการสนับสนุนผู้ประกอบการรายใหม่ นั่นหมายความว่าถ้าผู้ประกอบการยุคใหม่มีไอเดียและฝีมือ มีความมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจ โอกาสประสบความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกล ซึ่งง่ายกว่าการทำธุรกิจในอดีตมาก” เอ็มดี ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าว
เขายังกล่าวอีกว่า การทำธุรกิจยุคใหม่ควรใช้เครื่องมือดิจิทัลมาต่อยอดและเมื่อคิดจะทำธุรกิจอย่ามองแค่ประเทศไทยแต่ควรมองทั้งโลก การแข่งขันในยุคนี้ไม่ได้อยู่ที่ใครใหญ่กว่าใคร แต่ขึ้นอยู่กับมันสมองและฝีมืออย่างแท้จริง
ที่มา :
Thaiquote