ที่มาfacebook @ทนายเพื่อนคุณ
-รุ่นพี่บังคับรุ่นน้องดำน้ำในบ่อน้ำเน่า ย่อมเจตนาเล็งเห็นผลว่าน้ำเน่ามีอันตราย ดังนั้นผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส คุกสูงสุด10ปี
อ่านข่าวเรื่องการรับน้องก็ ละเหี่ย!!ใจ กับพฤติกรรมรุ่นพี่บางคนที่ขาดซึ่งวุฒิภาวะ คุกคะนอง สนุกกับการเล่นแผลงๆบนความทุกข์ของรุ่นน้อง สำหรับกรณีรุ่นพี่บังคับให้รุ่นน้องดำน้ำในบ่อน้ำเน่า จนน้องจมน้ำและต้องนอน ICU ถ้าเป็นแบบนี้!!ก็บอกได้คำเดียวว่าคุกนะ!!
การกระทำและพฤติกรรมของรุ่นพี่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหลักๆดังนี้
1.โดนความผิดฐานบังคับข่มขืนใจผู้อื่น ในการบังคับให้ดำน้ำในบ่อน้ำเน่า และคงไม่มีใครอยากดำในน้ำเน่าหรอก แบบนี้ผิด ตามมาตรา 309 ป.อาญา เต็ม!เต็ม!! "ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
2.จากการที่รุ่นน้องจมน้ำและสำลักน้ำจนปอดติดเชื้อได้รับอันตรายสาหัสก็โดนอีกกระทง ซึ่งรุ่นพี่ย่อมเล็งเห็นผลว่าบ่อน้ำเน่าย่อมมีอันตรายไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคต่างๆรวมทั้งบ่อน้ำเน่าปุถุชนอย่างเราๆท่านๆคงไม่มีใครลงไปดำเล่นเพราะเต็มไปด้วยสิ่งอันตรายดังนั้นรุ่นพี่มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ตามมาตรา 297 ป.อาญา " ผู้ใดกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ ผู้ถูกกระทำร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือน ถึงสิบปี
อันตรายสาหัสนั้น คือ
(1) ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียฆานประสาท
(2) เสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถสืบพันธุ์
(3) เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด
(4) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
(5) แท้งลูก
(6) จิตพิการอย่างติดตัว
(7) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต
(8) ทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า ยี่สิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน"
เทียบเคียงฎีกา 21379/2556(ย่อมเล็งเห็นผล)
การที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ไล่ทำร้ายผู้ตายกับพวกในระยะกระชั้นชิดโดยถือไม้ถูพื้นชูออกนอกรถยนต์เพื่อข่มขู่ผู้ตายกับพวกไปตลอดทาง โดยมีเจตนาจะทำร้ายผู้ตายกับพวก และผลจากการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ตายต้องขับรถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูงเพื่อหลบหนีการถูกไล่ทำร้ายจนเกิดเหตุชนกับรถยนต์กระบะที่จอดอยู่ จำเลยที่ 1 และที่ 2 ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา จำเลยที่ 1 และที่ 2 ย่อมมีความผิดฐานทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายตาม ป.อ. มาตรา 290
บอกเลยว่า
งานนี้!!จะอ้างโน้น!!อ้างนี้!!ไม่ได้นะ ถ้าเล่นแผลงๆกับชีวิตคน ก็ต้องโดนข้อหาหนักทีเดียว!! รุ่นพี่คนไหนมีส่วนร่วมในการกระทำครั้งนี้บอกเลยต่อแถวพาเหรดโดนหนักกันถ้วนหน้าครับ
@เขียวข้าว