สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราอยากแชร์ประสบการณ์จากการที่ได้ไปทดลองขับ Volvo V4o ครั้งแรกเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมาให้ฟังกันค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะ เราเป็นพนักงานบริษัทแห่งนึงที่เริ่มทำงานเก็บเงินมาได้สักพักนึง และมีความคิดอยากเปลี่ยนรถ (รถคันแรกเป็นรถที่แม่ซื้อให้ตอนเป็นนักศึกษาค่ะ) ก่อนหน้านี้เราขับรถญี่ปุ่น ขนาด 1,800 CC เนื่องจากเราเป็นคนค่อนข้างทะมัดทะแมงเลยอยากขับรถเครื่องๆหนักๆเข้าไว้ เวลาเหยียบแรงๆรถจะได้ไม่ลอยปลิวตกถนนไป

จึงปรึกษาแม่ว่าจะซื้อรถรุ่นไหนดีที่หนักๆเครื่องแน่นๆ แบบจะซื้อทั้งทีเอาดีๆไปเลย ที่บ้านจึงแนะนำให้ลองศึกษาเป็น Volvo เพราะเขาขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ใจเราติดตรงเรื่องความที่ว่า Volvo เป็นรถที่คนมีอายุเขาขับกัน แต่ไหนก็ไหนๆแล้วลองไปขับสักครั้งจะเป็นไรไป เราศึกษาข้อมูลมาประมาณนึง วันรุ่งขึ้นจึงตัดสินใจเข้าไปทดลองขับเลยค่ะ ซึ่งสาขาที่เราไปจะเป็นโชว์รูม Wearnes Volvo ตรงหัวหมากค่ะ เนื่องจากเดินสะดวกใกล้บ้านดีค่ะ



“Volvo V40 T4 Dynamic Edition” เพราะน่าจะเหมาะกับสไลฟ์สไตส์ของเราสุดแล้ว รถเป็นคันไม่ใหญ่มากแต่ออกแนวสมาร์ทหน่อย รุ่นนี้ ตัว T ย่อมาจาก Turbo และเลข 4 คือเลเวลของแรงม้า รถมากับชุดแต่ง R-design หล่อๆเลย เครื่องยนต์เบนซิน 1,969 CC ถือว่าสเป็คตรงใจเราพอสมควรเลย

พนักงานขายเน้นว่ารถเล็กแต่เครื่องนี่แรงสุดๆไปเลย ในเรื่องของสีเขาจะมีทั้งหมด 3 สีให้เลือกด้วยกัน คือ
ขาว (Ice White)
เทา (Osmium Grey Metallic)
ดำ Onyx Black Metallic)



มาพูดในเรื่องการออกแบบ Design โดยรวมแล้วมันมีความลงตัว คือมีความสมาร์ท และดูเท่ห์ ด้วยชุดแต่งรอบคันและ Interior ด้านในที่ทันสมัยแต่คงความหรูไว้ สไตล์ของรถเหมาะมากสำหรับวัยทำงาน พนักงานขายแอบกระซิบว่า ทางแบรนด์ต้องกำลังทำแคมเปญกับกลุ่มเป้าหมายอายุ 40 ปี ขึ้น เพื่อล้อกับชื่อรุ่น V40 จากความเห็นส่วนตัว เมื่อดูความสามารถของรถแล้ว ไม่ต้องอายุ 40 ปีเป็นรุ่นเราก็ยังว๊าว กับความสามารถของรถรุ่นนี้เลย









เมื่อเข้าไปนั่งภายในตัวรถคันกะทัดรัดนี้ เอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้อึดอัดเลยนะคะ เมื่อเทียบกับคนตัวใหญ่เข้าไปนั่ง ในรถมีความกว้างพอสมควรเลยค่ะ ทายรถก็บรรทุกสัมภาระได้เยอะประมาณนึงเลยค่ะ





functions ในรถคือสมาร์ทเป็นอย่างมาก หน้าจอและเมนูสวย สีสันกระฉูดออกมาทำให้ยิ่งน่าใช้ มี Theme บนหน้าจอให้เปลี่ยนถึง 3 แบบ อยากเปลี่ยนสีไหนก็เลือกแบบตามใจชอบเราได้

ส่วนปุ่มต่างๆตรงกลางคอนโซลรถ เยอะไปไหนจำไม่หมดเลยค่ะ ส่วนตัวเกียร์จับง่ายพอดีมือ



หลังจากฟังอธิบายข้อมูลของรุ่นยาวเหยียดได้เวลาทดลองขับกันแล้วค่ะ สัมผัสแรงที่ได้ลองขับเลยนะคะ พวงมาลัยน้ำหนักเบา กำกับการหมุนพวงมาลัยง่ายมาก แต่เรื่องการเหยียบคันเร่งต้องค่อยๆเหยียบหน่อยไม่งั้นพุ่งเครื่องแรงเอาเรื่องอยู่เลยค่ะ มิน่าถึงเป็น Turbo ไงละ ไม่ต้องโมรถใหม่ก็เท่ห์แล้ว



ที่ว๊าวมากคือ Function Parking Assistance คือการคำนวณการจอดรถเอง โดยเราจะเปิดโหมดการแสกนหน้าที่ว่าง เพื่อให้รถคำนวณว่าพื้นเท่านี้จอดได้หรือไม่ จากนั้นเมื่อคำนวณได้แล้วเขาจะจอดด้วยตัวของเขาเอง เรามีหน้าเหยียบคันเร่งเบาๆ และกดปุ่มเปิดสัญญาณสำหรับ Function นี้ไว้ เปิดไฟเลี้ยวจะจอดซ้ายหรือขวาเท่านั้นเองค่ะ จากนั้นเขาจะเตือนให้เราหยุดรถ เข้าเกียร์ R และระบบจะไปของเขาเอง จะบอกว่าจอดได้สวยงามไม่ไก่กาเลย เรียบกับขอบถนนแบบตรงเป๊ะ



เขายังมีเทคโนโลยีน่าสนใจอีกหลายตัวไม่ว่าเป็น BLIS เป็นสัญญาณเตือนเมื่อมีรถหรือสิ่งต่างๆเข้ามาใกล้ๆ
หรือจะเป็นระบบกันเราไปชนกับคันหน้าด้วย Collision Warning และมีเตือนเมื่อเราขับหลุดออกจากเลนของตัวเองด้วย Lane Keeping Aid นอกจากนี้เมื่อหากเราเหมือนจะหลับใน ระบบจะมีการเตือนให้เราพักก่อนกับระบบDriver Alert ถือว่าเรื่องความปลอดภัยเขาคิดมาจริงๆเลยค่ะ



ถามว่าเงินเดือนเข้าเลข 3 ออกรถหรูขนาดนี้คิดหนักมั้ยบอกเลยค่ะ ว่าตอนนี้เริ่มเทใจและเอนเอียงไปทาง Volvo มากค่ะ เนื่องจากทางพนักงานขายเข้าเสนอโปรโมชั่นผ่อนรถคันนี้ที่ตกแล้วเพียงเดือนละ 500 บาท ต่อวัน ทำให้เราเข้าถึงรถหรูคันนี้ได้ง่ายมากขึ้น แถมมีระบบความปลอดภัยของรถ อีกทั้งเป็นรถที่สมาร์ทชานฉลาดสำหรับยุคนี้เลยค่ะ

ตอนนี้สำหรับเราขอศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดนึงค่ะ สำหรับการออกรถคันนี้ และหวังว่าการบอกเล่าประสบการณ์ครั้งนี้พอจะเป็นแนวทางในการตัดสินใจที่จะรถคู่ใจคันใหม่ของเพื่อนๆกันนะคะ