ช่วงนี้ประเด็นเรื่องสัมปทานดิวตี้ฟรีในสนามบินบ้านเรากำลังเป็นที่กล่าวถึงโดยเฉพาะจากสื่อที่ชื่อว่าฐานเศรษฐกิจ จะเห็นว่าสื่อนี้เหมือนเป็นไม้เบื่อไม้เมาของกลุ่มนายทุนใหญ่ๆ แต่ที่พอจะสังเกตเห็นได้ว่าหลังๆ นี่คิงเพาเวอร์จะโดนสื่อยี่ห้อนี้ขยี้ข่าวอยู่เป็นเนืองๆ และก็มีประเด็นเรื่องของคิงเพาเวอร์ผูกขาดเกิดขึ้น..............อีกครั้ง
และจะขอยกตัวอย่างเพิ่มเติมในการประมูลดิวตี้ฟรีที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดคือที่ดอนเมือง เมื่อช่วงประมาณเดือนกรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา
ในครั้งนั้นก็มีผู้เข้าร่วมประมูล 3 ราย คือ คิงเพาเวอร์ กลุ่มเซนทรัล และกลุ่มเดอะมอลล์กรุ๊ป และผู้ชนะคือคิงเพาเวอร์เพราะได้มีการนำเสนอราคาที่มากกว่า โดยเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเป็นเงินรวม 17,651,120 บาท และจากการเจรจาต่อรอง บริษัท คิงเพาเวอร์ฯ ยินดีเพิ่มค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้ ทอท.อีกเดือนละ 31,280 บาท รวมเป็นค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนปีแรก เฉลี่ยเดือนละ 17,682,400 บาท (ข้อมูลจาก https://www.prachachat.net/tourism/news-27467)
จากการประมูลที่เกิดขึ้นถึง 2 ครั้ง 2 คราจะเห็นได้ว่ามีผู้เข้าร่วมประมูลมากกว่า 1 ราย ด้วยเพราะเหตุนี้สัมปทานดิวตี้ฟรีจึงไม่ใช่สัมปทานผูกขาด อย่างที่สื่อหรือคนอื่นๆ เข้าใจกัน
นอกเหนือจากนี้ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สังคมเกิดความอ่อนไหวไปกับชุดความคิดที่ว่า “คิงเพาเวอร์ผูกขาด” เพราะได้มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคน โดยมีแกนนำคนสำคัญคือ “รวิฐา พงศ์นุชิต” อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะนายกสมาคมการค้าร้านค้าปลอดอากรไทย ที่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้หน่วยงานที่กำกับดูแล ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงคมนาคม กรมศุลกากร รวมถึงบริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท.โดยมีทุนดิวตี้ฟรีรายใหม่สัญชาติเกาหลีอย่าง “ล็อตเต้” เป็นต้นตอของความขัดแย้งทั้งหมด รวมทั้งยังมีกลุ่มทุนห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ของไทยเอง ไม่ว่าจะเป็นค่ายเซ็นทรัล เดอะมอลล์ ฯลฯ ที่มีเป้าหมายจับกุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นแนวร่วมภายใต้ “สมาคมค้าปลีกไทย”
ที่มาข้อมูล: https://www.prachachat.net/columns/news-131642
ซึ่งก็มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าคุณรวิฐามีผลประโยชน์กับการเข้ามาของดิวตี้ฟรีเกาหลีอย่างล็อตเต้หรือป่าว? เนื่องจากว่าโครงสร้างผู้ถือหุ้นล็อตเต้ก็เห็นว่ามีชื่อของคุณ รวิฐา พงศ์นุชิต อยู่ในโครงสร้างดังกล่าวด้วย งานนี้ก็ต้องอาศัยดุลยพินิจส่วนตัวกันแล้วแหละครับ
และจากประเด็นทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าประเด็นสัมปทานดิวตี้ฟรีมักจะได้รับการกวนน้ำให้ขุ่นอยู่เสมอบวกกับข้อมูลที่ดูง่ายต่อการบิดพลิ้ว (เพราะสัมปทานมันเกิดขึ้นนานมาแล้ว) มันจึงทำให้เกิดความอ่อนไหวในการรับรู้ของสังคม ตีความผิดเพี้ยนกันไปต่างๆ นาๆ และเพราะด้วยปัจจัยเหล่านี้แหละ สาเหตุที่ทำให้มีประเด็น “คิงเพาเวอร์ผูกขาด” ขึ้นมาตามหน้าสื่อต่างๆ และถูกพูดถึงในสังคมก็เป็นได้
https://pantip.com/topic/37570891