หลายคนคงเคยเจอปัญหาเวลาปวดท้องหนัก ท้องเบา แล้วต้องมายืนต่อแถวเป็นเวลานานกว่าจะได้ปลดทุกข์ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งยังขาดห้องสุขาเพื่อรองรับนักเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวจึงร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดโครงการ คิงเพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย สุขา สุขใจ โดยสร้างสุขาและส่งมอบให้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นแห่งแรก เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า อัตราการเติบโตของแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวชุมชนของคณะรัฐมนตรี จึงมีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ให้มีคุณภาพครบถ้วนตามนโยบาย สะดวก สะอาด ปลอดภัย ได้เอกลักษณ์และยั่งยืน ต้องทำให้ชุมชนน่าอยู่และน่าเที่ยว โดยหนึ่งในแผนงานพัฒนาด้านสาธารณูปโภค คือ ห้องน้ำ ห้องสุขา ที่ได้มาตรฐาน ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงผู้พิการ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการรองรับนักท่องเที่ยว และช่วยผลักดันคุณภาพและชื่อเสียงของไทยให้เป็นเมืองน่าเที่ยว และน่าอยู่ที่ยั่งยืนในใจนักท่องเที่ยว
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นดำเนินโครงการเพื่อสังคม ภายใต้แนวคิด KING POWER THAI POWER พลังคนไทย เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีมีประโยชน์ให้กับสังคมไทย ส่งเสริมและขับเคลื่อนประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จากนโยบายของ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายและก่อสร้างห้องสุขา รวมทั้งสิ้น 10 แห่ง รวมมูลค่า 10 ล้านบาท
โดยส่งมอบสุขาให้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เป็นแห่งแรก ซึ่งห้องสุขาที่ก่อสร้างมีรูปแบบสากล “Universal design” ที่สามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงผู้พิการ นอกจากนี้ ยังจัดจุดให้แม่สามารถเปลี่ยนผ้าอ้อมให้แก่เด็กด้วย ส่วนการก่อสร้างสุขาอีก 9 แห่ง อยู่ระหว่างการเลือกสถานที่ว่าไปสร้างที่ใดบ้าง
นายรณรงค์ เส็งเอี่ยม ผู้อำนวยการองค์กรสวนพฤกษศาสตร์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับมอบห้องสุขา ซึ่งปัจจุบันสิ่งอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะ “ห้องสุขา” ที่ทางสวนฯมีบริการอยู่ 8 จุด แต่ยังไม่เพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเฉลี่ยวันละหลายพันคน ยิ่งฤดูท่องเที่ยวระหว่างเดือนธันวาคมถึงมีนาคม จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 3 - 4 เท่า นอกจากนักท่องเที่ยว สวนฯแห่งนี้ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพืช จะมีนักเรียน นักศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เพราะฉะนั้นในแต่ละวันเดินทางมาศึกษาดูงานจำนวนมาก
“สวนพฤกษศาสตร์ฯเป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นสถานที่อนุรักษ์และรวบรวมพันธุ์ไม้ต่างๆ และพันธุ์ไม้หายาก โดยจัดปลูกให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ลักษณะเป็นที่ราบและที่สูงสลับกันเป็นชั้นๆ และมีจุดท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น อาคารเรือนกระจกที่จัดแสดงสภาพป่าและพันธุ์ไม้ป่าดงดิบ มีน้ำตกจำลองให้ความชุมชื่นกับต้นไม้ในโรงเรือน เรือนแสดงพันธุ์กล้วยไม้และเฟิร์น นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติหลากหลายเส้นทาง และไฮไลต์เส้นทางเหนือเรือนยอดไม้ (Canopy Walks) เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ระยะทาง 400 เมตร สูงเหนือกว่าพื้นดิน 20 เมตร ซึ่งสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามแบบพาโนรามา จุดนี้กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาดื่มด่ำกับธรรมชาติพร้อมถ่ายภาพวิวสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก”
ภายหลังเสร็จพิธีมอบสุขาสุขใจแล้ว รมว.ททท. กลุ่มผู้บริหารคิงเพาเวอร์ ดารา จิตอาสา ประชาชน ร่วมกันปลูกต้นดอนญ่าควีนสิริกิติ์พรรณไม้พระราชทาน และร่วมกันทาสีเก้าอี้ให้สวยงามอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้บริหารคิงเพาเวอร์ เดินทางลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนบ้านดอนบิน จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าการใช้ประโยชน์สนามฟุตบอลซึ่งส่งมอบเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดย นางพัชรา ชัยเลิศ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดอนบิน กล่าวว่า โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนขยายโอกาส เปิดสอน ป.1 ถึง ม.3 มีนักเรียน 297 คน ซึ่งเปิดสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ และส่งเสริมให้เด็กเล่นกีฬา โดยก่อนหน้าที่จะมีสนามฟุตบอลที่ได้มาตรฐานนั้น โรงเรียนมีสนามฟุตบอลที่ปูด้วยหญ้า พอถึงช่วงหน้าฝนเด็กๆ สนามเฉอะแฉะ เล่นไม่ได้ พอคิงเพาเวอร์มาพัฒนาให้เป็นสนามฟุตบอล เด็กและคนในชุมชนสามารถเข้ามาเล่นฟุตบอลได้ตลอดแม้แต่วันที่ฝนตก พอฝนหยุดก็เล่นได้
“นับแต่มีสนามฟุตบอล เด็กสนใจเล่นฟุตบอลเพิ่มมากขึ้น เคยถามเด็กๆ เด็กตอบว่าอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และเรามีครูพละ 2 ท่าน สอนเด็กเตะฟุตบอลตั้งแต่พื้นฐาน เพื่อสานฝันให้แก่เด็ก เด็กมีสุขภาพแข็งแรง รวมถึงช่วยให้เด็กห่างไกลยาเสพติด นอกจากนี้ ยังมีเด็กที่เรียนอยู่สถานศึกษาอื่น คนรอบชุมชน ติดต่อขอใช้สนามจำนวนมาก ทางโรงเรียนต้องจัดตารางเวลาการใช้สนาม” ผอ.โรงเรียนบ้านดอนปิน กล่าว
ข่าวจาก https://mgronline.com/qol/detail/9610000042350