หน้า: 1

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: อาการหนาวใน เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร  (อ่าน 15 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 30 ต.ค. 18, 13:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
อาการหนาวใน เกิดจากอะไร รักษาอย่างไร
อาการหนาวใน เคยสังเกตไหมทั้งที่อากาศก็แสนจะร้อน แต่ทำไมเราถึงเป็นคนที่ขี้หนาวอยู่คนเดียวตลอดเวลา ซึ่งอาการนี้ไม่เป็นสิ่งที่คุณมองข้ามเป็นอันขาด เพราะเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกความผิดปกติของร่ายกายได้หลายโรด โดยเฉพาะผู้หญิง หรือคุณแม่หลังคลอด มักจะเกิดอาการนี้ได้มากกว่ากว่าเพศชายเลยทีเดียว

อาการเริ่มต้นของอาการหนาวในที่เราควรสังเกต
จะมีอาการหนาวสั่นสะท้านเข้ากระดูก มือเท้าเย็น ปากเขียว มือเขียว เหมือนเลือดไหลเวียนไม่ดี และเมื่อมีอาการหนาวในเป็นประจำจะทำให้เกิดอาการปวดหลังชาๆ ขัดข้อสะโพก มีจ้ำเขียวตามร่างกายได้ง่าย เป็นไข้ทับระดูทุกครั้งที่มีประจำเดือน มีอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว ซึ่งถ้าเรามีอาการนี้บ่อยจะเป็นบอกสาเหตุของโรคดังต่อไปนี้

1. รูปร่างผอมบางเกินไป
คนที่มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตรฐาน อาจส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถสร้างความอบอุ่นได้เพียงพอจนทำให้รู้สึกหนาวง่าย อีกอย่างเมื่อเราผอมเพราะไม่ค่อยได้กินอาหาร ก็ยิ่งลดประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญ จนความร้อนในกระบวนการเผาผลาญไม่เกิด ดังนั้นคนที่ตัวผอมบางจึงมักจะรู้สึกหนาวง่ายหรือหนาวตลอดเวลา

2. ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
อาการหนาวเป็นพักๆ รวมทั้งผมเริ่มร่วงและบาง ผิวแห้งมากขึ้น แถมยังรู้สึกอ่อนเพลียด้วย ลักษณะอาการเช่นนี้อาจเข้าข่ายภาวะขาดไทรอยด์ ซึ่งเป็นอาการที่ต่อมไทรอยด์ไม่หลั่งไทรอยด์ฮอร์โมนออกมาในปริมาณที่พอเพียง จนส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง ความร้อนในร่างกายจึงลดน้อยลงไปด้วย

3. ขาดธาตุเหล็ก
เพราะธาตุเหล็กเป็นองค์ประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง มีหน้าที่ช่วยขนส่งออกซิเจนเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง นำพาความร้อนและสารอาหารที่สำคัญเข้าสู่กระบวนการทำงานของเซลล์ทุกแขนงในร่างกาย ดังนั้นหากขาดธาตุเหล็กไป กระบวนการดังกล่าวก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้ความอบอุ่นในร่างกายลดน้อยลง

4. ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
อาการมือเย็นเท้าเย็นบ่อยๆ แต่ร่างกายโดยรวมไม่ได้ผิดปกติอะไร การวินิจฉัยจากแพทย์ อาจเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายทำงานไม่ปกติ ไม่สามารถไหลเวียนเลือดได้สะดวกไปทั่วทั้งร่างกาย หรืออาจจะมีภาวะของโรคหลอดเลือดอุดตันตามตำแหน่งต่างๆ ที่อาจขัดขวางการไหลเวียนของเลือดไปยังมือและเท้าได้

5. โรคเรย์นอยด์ (Raynaud Disease )
เป็นสาเหตุให้เส้นเลือดบริเวณมือตีบ ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ไม่ดี ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วมือ ร่วมกับอาการนิ้วมือนิ้วเท้าเย็นตามมาด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษา

6. พักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนหลับที่ไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้สารเคมีในสมองรวมไปถึงระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานผิดปกติได้ ซึ่งก็นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง รวมทั้งอาการหนาวง่ายก็เป็นผลพวงที่ตามมาด้วยเช่นกัน

7. ดื่มน้ำน้อยเกินไป
น้ำเป็นส่วนประกอบในร่างกายมากกว่า 60% และยังมีหน้าที่สำคัญที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้เป็นปกติ นักโภชนาการให้ข้อมูลว่าร่างกายที่ไม่ได้รับน้ำสะอาดเพียงพออาจเกิดได้ทั้งภาวะอุณหภูมิที่ร้อนจัดและเย็นจัด เนื่องจากภาวะขาดน้ำจะทำให้ระบบควบคุมอุณหภูมิของร่างกายปรวนแปร รวมไปถึงเมื่อขาดน้ำ ระบบเผาผลาญก็ทำงานไม่สะดวกด้วย

8. ขาดวิตามินบี 12
วิตามินบี 12 มีหน้าที่สำคัญพอๆ กับธาตุเหล็กตรงที่ช่วยลำเลียงออกซิเจนเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งหากร่างกายไม่ได้รับวิตามินบี 12 ที่พอเพียงอาจทำให้หลอดเลือดแดงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเมื่อการไหลเวียนของเลือดติดขัด ก็จะรู้สึกหนาวง่ายบวกกับมีอาการเหน็บชาบ่อยๆ ด้วย

9. โรคเบาหวาน
อาจทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการปลายประสาทอักเสบได้ ซึ่งอาการนี้จะส่งผลให้มือและเท้าของคุณไวต่อสิ่งเร้าและการสัมผัส จนอาจทำให้รู้สึกหนาวเย็น ณ บริเวณนี้ได้ อีกทั้งปลายประสาทยังจะส่งสารบางอย่างไปยังสมองในส่วนที่ควบคุมอุณหภูมิร่างกาย ให้รู้สึกถึงความหนาวเย็นได้

10. กล้ามเนื้ออ่อนแอเกินไป
แพทย์หญิง Margarita Rohr แห่ง NYU Langone Medical Center นิวยอร์ก บอกไว้ว่า กล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะช่วยคงอุณหภูมิร่างกายของเราให้สมดุล การมีมวลกล้ามเนื้อมาก หนาแน่นและแข็งแรง จะช่วยให้ระบบเผาผลาญให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไปในตัว และช่วยรักษาความอบอุ่นของร่างกายได้เป็นอย่างดี


แนวทางคือการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สุขภาพดีเสมอ
1. ระวัง ไม่ให้เสียสมดุลร่างกายมากเกินไป บ่อยซ้ำๆ เลี่ยงการดื่มทานอาหารเครื่องดื่มที่มีพลังเย็นมาก หรือร้อนมาก ในปริมาณมาก และควรดื่มน้ำให้ได้มากกว่า 8 แก้วต่อวัน

2. รักษาปรับสมดุลร่างกาย ได้โดยบำรุงร่างกายด้วยอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เลือกทานไขมันดีจากพืช วิตามินบี12 ก็จำเป็น และหากคุณมีภาวะเลือดจาง ต้องเน้นอาหารประเภทธาตุเหล็กสูง เลือกทานผลไม้ที่มีทั้งความชุ่มเย็นและความเผ็ดร้อน เช่นการทานสมุนไพรช่วย เช่น บัวบก พริกไทย

3. ควรรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ

4. หากเกิดอาการหนาวสั่นที่ผิดปกติ หรือเข้าข่ายอาการของโรคร้าย ควรเข้าพบแพทย์

ขอบคุณข้อมูลจาก: theasianparent , www.tnews.co.th

ทีมงาน: Greentechbiolab โรงงานผลิตเครื่องสำอางครบวงจร

"ความสำเร็จของคุณ คือ งานของเรา"

:: Greentech Biolab Co.,LTD. ::

http://www.gtlab.co.th/
E-mail: greentechbiolab@gmail.com
FB : greentechthailand
Line ID:@Greentechbiolab (มี @ ด้วยน่ะครับ)
Phone: 074-892-897 , 09-5440-6963
http://www.cherlivesecret.com/
FB : cherlivethailand


noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 12 พ.ย. 18, 20:25 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอบคุณค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 5 ธ.ค. 18, 22:51 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขอบคุณค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:
Tags:  

หน้า: 1

 
ตอบ
ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:   Go
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม