เมื่อทราบว่าติดเชื้อเอชไอวีแล้วควรทำอย่างไร ?ปัจจุบัน มีหลายคนที่เพิ่งรู้ว่าตนเองมีผลเลือดบวก หรือติดเชื้อเอชไอวี แล้วไม่ทราบว่าตนเองควรทำอย่างไรต่อไป ก่อนอื่นผู้ติดเชื้อเอชไอวีต้องมีความรู้ความเข้าใจว่า ผู้ติดเชื้อสามารถมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวเหมือนคนปกติทั่วไป หากได้เข้าสู่กระบวนการดูแลรักษาที่ถูกต้อง และการทานยาต้านไวรัสอย่างเคร่งครัดของตัวผู้ติดเชื้อเอง ก็จะทำให้ไม่ป่วยเป็นโรคเอดส์ ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ควรไปพบแพทย์ที่รักษาตามนัดเสมอ และที่สำคัญไม่ควรรับเชื้อเพิ่มมาใหม่ด้วย
ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ควรปฎิบัติตนดังต่อไปนี้ คุณสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนหรือเก็บตัวอยู่เพียงลำพัง เพราะเชื้อเอชไอวี ไม่สามารถติดต่อไปได้โดยง่าย การพูดคุยหรือสัมผัสกันตามธรรมดา ไม่ทำให้เชื้อแพร่ไปสู่ผู้อื่น หากมีความวิตกกังวล หรือทุกข์ใจ ไม่ควรเก็บความทุกข์ไว้คนเดียว ควรหาที่ปรึกษาหรือคนที่เข้าใจและพร้อมรับฟังให้ความช่วยเหลือ อาจจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ คนในครอบครัวหรือแฟน หากยังไม่กล้าเปิดใจกับคนใกล้ตัว ควรสอบถามจากหน่วยงานที่เกี่ยวกับเอชไอวีและเอดส์โดยตรง หรือโทรคุยที่สายด่วนปรึกษาเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เบอร์ 1663
ควรระมัดระวังไม่ให้สารคัดหลั่งต่างๆ ของคุณกระเด็นหรือเปรอะเปื้อนผู้อื่น เช่น น้ำอสุจิ น้ำเหลือง น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ ปัสสาวะ อุจจาระ เป็นต้น เพราะสารเหล่านี้อาจมีโอกาสที่จะมีเชื้อเอชไอวีปะปนอยู่ หากสารคัดหลั่งกระเด็นออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจให้รีบเช็ดทำความสะอาดทันที หรือหากโดนเสื้อผ้าก็ควรนำไปซักให้สะอาดก่อนนำมาใช้ใหม่
สามารถใช้ห้องน้ำร่วมกับผู้อื่นได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องระวังตามข้อที่ได้กล่าวไปข้างต้น และรักษาความสะอาดให้ถูกสุขอนามัยเท่านั้นก็เพียงพอ เพราะเชื้อเอชไอวีไม่สามารถมีชีวิตอยู่ภายนอกร่างกายได้นานนัก และจำนวนเชื้อก็ไม่มากพอที่จะแพร่ไปยังผู้อื่น นอกจากมีช่องทางเข้าของเชื้อที่มากพอ แต่ก็ควรให้ความใส่ใจและระมัดระวังไว้ก่อน
ควรแยกของใช้ส่วนตัวออกจากบุคคลอื่นในครอบครัว เช่น แปรงสีฟัน หวีผม ที่โกนหนวด กรรไกรตัดเล็บ ผ้าเช็ดตัว ชุดชั้นใน เป็นต้น ไม่ควรใช้ของเหล่านี้ร่วมกับคนอื่น ส่วนภาชนะจานชาม ช้อนส้อม หรือแก้วน้ำ สามารถใช้ร่วมกันได้เพียงแต่ควรล้างให้สะอาดทุกครั้งหลังจากใช้งานเสร็จ
หากมีเพศสัมพันธ์กับใครควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง หรือแจ้งให้อีกฝ่ายทราบถึงสถานะของคุณเสมอ เพื่อที่จะได้ระวังหรือให้อีกฝ่ายทานยาป้องกันเพิ่มเติม ที่เรียกว่า เพร็พ จะเป็นการช่วยลดอัตราความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวีได้
งดบริจาคเลือด น้ำอสุจิและอวัยวะต่างๆ ในร่างกายทั้งหมด
หากผู้ติดเชื้อเป็นเพศหญิง ควรคุมกำเนิดเพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสในการตั้งครรภ์ เพราะเด็กทารกอาจมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีจากแม่ได้ถึง 30%
ไม่ควรอยู่ในสถานที่ที่มีผู้ป่วยชุม หรือเข้าใกล้ผู้ป่วยโรคอื่นๆ บ่อยครั้งเพราะผู้ติดเชื้อเอชไอวีมักจะมีภูมิต้านทานโรคที่ต่ำกว่าบุคคลทั่วไป อาจเกิดการติดเชื้อจากโรคฉวยโอกาสได้ง่าย
หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว กระต่าย ฯลฯ เพราะอาจติดเชื้ออื่นๆ จากสัตว์เลี้ยงเหล่านี้
ลด ละ เลิก สารเสพติดทุกประเภท ลองปรึกษากับแพทย์ที่รักษาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจนเลิกได้ขาด เพราะกว่า 80% ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีมาจากผู้ที่ใช้สารเสพติดประเภทฉีดที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
สุดท้ายควรไปพบแพทย์ประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจเช็คร่างกายและจำนวนไวรัส ติดตามผลการรักษา และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
https://lovefoundation.or.th/th/เมื่อทราบว่าติดเชื้อเอ/