เรื่องทั่วๆ ไปเกี่ยวกับเครื่องดื่มค็อกเทลซึ่งเป็นที่นิยมกันในปัจจุบัน
แน่นอนว่าในปัจจุบันนั้นหากจะหาผู้ที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยก็คงจะเหลืออยู่น้อยแน่ๆ ทั้งนี้ก็อย่างที่เรารู้กันดีว่าในปัจจุบันนั้นหากไปงานปาร์ตี้หรืองานเฉลิมฉลองต่างๆ นั้นโดยส่วนใหญ่แล้วก็จะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นส่วนหนึ่งของงานนั้นๆ และถ้าหากให้พูดตรงๆ แล้วแน่นอนว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นบรั่นดี ไวน์ เบียร์ สปาย วอดก้า หรือ ค็อกเทล นั้นต่างก็จะทำให้เรามีสติในการควบคุมส่วนต่างๆ ของร่างกายน้อยลงไป ฉะนั้นเราควรที่จะดื่มในปริมาณที่พอดีและเดูกาลเทศะให้ดีด้วย และที่สำคัญคือจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองด้วย
และถ้าหากใครที่เริ่มเบื่อในรสชาติของแอลกอฮอล์ชนิดโปรดของคุณแล้วก็อาจจะหันไปดูแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ ดูด้วยได้ อย่างเช่น เครื่องดื่ม สูตรค็อกเทล ซึ่งถือว่าเป็นเหมือนจุดพักสำหรับคนที่เริ่มเบื่อในรสชาติเดิมๆ ของแอลกอฮอล์ที่ได้ดื่มอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้ก็เพราะว่าใน เครื่องดื่มค็อกเทล แต่ละแก้วนั้นจะประกอบไปด้วยเหล้าประเภทต่างๆ ที่นำมาใช้เป็นเหล้าหลักในการชง อย่างเช่น วอดก้า รัม หรือจิน เป็นต้น ซึ่งเราจะนำเหล้านี้ไปผสมกับส่วนประกอบอื่นๆ อย่างเช่น ไซรัปกลิ่นต่างๆ ชิ้นเนื้อผลไม้ มะนาว หรือกาแฟ เป็นต้น ตาม สูตรค็อกเทล ต่างๆ ที่เราเลือกที่จะหยิบนำมันมาชง
ทั้งนี้ถ้าหากใครที่ไม่ถนัดจะชงเองนั้นหรืออยากที่จะลิ้มลองดูซักครั้งก็อาจจะไปตามร้านผับบาร์ เพราะที่นั่นจะมีบาร์เทนเดอร์ในการชง เครื่องดื่มค็อกเทล ตามที่เราต้องการได้เลย ซึ่งใครก็ตามที่เพิ่งจะลองดื่มเป็นครั้งแรกๆ นั้นก็อาจจะถามหรือบอกบาร์เทนเดอร์ไปเลยก็ได้ว่าต้องการรสชาติแบบใด และในวันนี้สำหรับใครที่อยากจะรู้ข้อมูลทั่วๆ ไปเกี่ยวกับ เครื่องดื่มค็อดเทล นั้นเราก็ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องดื่มค็อกเทลในด้านต่างๆ มาฝากให้ทุกๆ
ให้ได้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างสวยงาม
1. ต้นกำเนิดของเครื่องดื่มค็อกเทล เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าต้นกำเนิดของ เครื่องดื่มค็อกเทล นั้นไม่ปรากฏชัด แต่ที่มันมีได้จนถึงทุกวันนี้นั้นมันน่าจะเริ่มมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการใช้เบียร์ หรือเหล้าน้ำผึ้ง เป็นหลักแล้วจึงนำมาผสมกับเหล้าที่ใส่เครื่องเทศ และมีพัฒนาการไปใช้ ไวน์ เหล้า เครื่องเทศ น้ำตาล น้ำผลไม้ผสมกัน ทั้งนี้ชาวฝรั่งเศสเรียกว่า coquetel (คอเกอเตล) ประมาณปี พ.ศ. 2318 ถึง พ.ศ. 2326 นั้นทหารฝรั่งเศสเดินทางเข้าไปช่วยสหรัฐอเมริกาทำสงครามกับประเทศอังกฤษและทหารฝรั่งเศสก็ได้มีการผสมเครื่องดื่มแบบนี้ดื่มกันขึ้นมา และในเวลาต่อมานั้นก็ได้รับความนิิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ทหารของสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้ว่าสงครามจะหยุดลงแล้วความชื่นชอบในเครื่องดื่มชนิดนี้ก็ยังคงอยู่และแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนในเรื่องของการเรียกขานชื่อคาดว่าเพี้ยนมาจากคำว่า coquetel (คอเกอเตล) ในภาษาฝรั่งเศสนั้นเอง
2. มารู้จักที่มาของคำว่า ค็อกเทล แน่นอนว่าหากพูดถึงเครื่องดื่มที่จะต้องมีการนำวัตถุดิบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วอดก้า บรั่นดี วิสกี้ หรือรัม นำไปผสมกับส่วนอื่นๆ นั้นเราก็จะเรียกมันว่า เครื่องดื่มค็อกเทล ซึ่งคำว่า ค็อกเทล นั้นมีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1776 แล้ว โดยในบาร์แห่งหนึ่งที่นิวยอร์ก นั้นมีสุภาพสตรีผู้หนึ่งได้ตกแต่งและประดับบาร์ของเธอด้วยหางขนไก่ สีสันสวยงามเต็มร้านไปหมดและเธอเองก็ยังมีความคิดแปลกที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการนำด้ามได้ใส่หางขนไก่ (COCKTAIL) ลงในเครื่องดื่มผสมทุกแก้วแทนไม้คนบาร์ทั่วไปทำให้มีคนรู้จักบาร์แห่งนี้เพิ่มมากขึ้น แถมยังเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า ค็อกเทล ด้วย
และที่เราได้กล่าวไปนั้นก็เป็นข้อมูลภาพรวมของ เครื่องดื่มค็อกเทล ที่เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งนี้ก็เพราะว่าเราสามารถที่จะรังสรรค์รสชาติของ ค็อกเทล ได้ตามอย่างที่ใจเราชอบโดยอิงตาม สูตรค็อกเทล ก็ได้อีกถ้วย ฉะนั้นถ้าหากใครก็ตามที่ต้องการจะดื่ม เครื่องดื่มค็อกเทล นั้นอย่างแรกเลยก็คือ ต้องการให้ ค็อกเทล นั้นมีเหล้าเป็นเหล้าชนิดไหน อย่าง วอดก้า รัม หรือบรั่นดี เป็นต้น นอกจากนี้เครื่องดื่มค็อกเทลนั้นก็ยังสามารถชงผสมได้ด้วยวิธีอื่นๆ อีกนะ ไม่ใช่แค่มีอะไรก็ใส่ในกระบอกเช็คเกอร์แล้วก็เขย่าๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น