“ตาพญา” เทียบความพร้อม และการฟอร์มทีมของ 4 เอกชนยักษ์ใหญ่แล้ว เห็นว่าผู้เข้าประมูลทุกรายล้วนมีความสามารถ มีศักยภาพระดับโลกต่างฝ่ายต่างมีดีในตัวและยังได้พันธมิตรอันแข็งแกร่งมาร่วมทีมทั้งฐานะการเงิน ทั้งประสบการณ์ ทั้งความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ถึงตอนนี้ “ตาพญา” เห็นว่าทุกทีมเตรียมตัวมาดีกันพร้อมหน้าพร้อมตา คงได้ประชันข้อเสนอ TOR กันสนุกดุเดือด ไม่ว่าเอกชนรายเก่า-รายใหม่ก็ต้องต่อสู้กันอย่างเต็มที่ ถือว่าเป็นงานหนักของทุกคนทุกรายต้องทำการบ้านอย่างเต็มที่ เพราะคู่แข่งขันต่างฝ่ายต่างล้วนมีประสบการณ์ คงไม่ใช่งานประมูลที่จะคว้าสัมปทานไปครองง่ายๆ ทุกฝ่ายมีการวางแผนอย่างดี เพื่อเป้าหมายสู่ชัยชนะคว้างานประมูล “ขุมทรัพย์มหาศาล” ที่จะมีอายุสัมปทานยาวไปอีก 10 ปี ใครแพ้-ใครชนะ“ตาพญา” เปรียบเป็น“ม้าแข่ง”ก็คงต้องตัดสินกันด้วยปลายจมูก หรือหากเป็น”วิ่งแข่งขัน 100 เมตร” ก็ต้องตัดสินกันด้วยภาพถ่าย หากเป็นเกมกีฬา“ฟุตบอล” คงต้องต่อเวลาพิเศษและไปชี้ขาดกันด้วย “ดวลจุดโทษ” ใครเก่งกว่าก็คว้าชัยชนะ “ขุมทรัพย์มหาศาล” ไปครอง …000… จะว่าไปแล้ว บรรทัดนี้ “ตาพญา” เห็นใจ กลุ่มของ บมจ.การบินกรุงเทพ และ LOTTE Duty Freeอาจต้องเสียสมาธิไปบ้าง ในช่วงที่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถเจ้าของ บมจ.การบินกรุงเทพ หัวเรือใหญ่ค่ายนี้ ทั้งตัวเองและพวก ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษ และปรับทางแพ่งผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ 1.นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถกว่า 257 ล้านบาท 2.นางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถกว่า235 ล้านยาท และ 3.นางนฤมล ใจหนักแน่นกว่า 7 ล้านบาทกรณีสร้างราคาหลักทรัพย์ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ต้องโดน“ลงโทษ”ถูกสั่งชำระค่าปรับทางแพ่งรวมกว่า 499 ล้านบาท และถูกสั่งห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน เป็นคดีบกพร่อง“ธรรมาภิบาล” …000…ขณะเดียวกันพันธมิตรร่วมทีมอย่าง “บริษัท ล็อตเต้ กรุ๊ป” ก็มีภาพอดีตคดีอันอื้อฉาวเก่าๆตามหลอกหลอน เพราะเคยมีปัญหาเรื่องทุจริตคอรัปชั่นเป็นข่าวโด่งดังทั่วโลก “ชิน ดงบิน” ประธานบริษัท ล็อตเต้ กรุ๊ป ถูกคณะอัยการเกาหลีใต้ฟ้องคดีให้จำคุกเป็นเวลา 10 ปี ข้อหาทุจริต ยักยอกเงินในการบริหารกิจการ50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,662 ล้านบาทแถมใช้ตำแหน่งเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจให้แก่คนในครอบครัวอย่างผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายให้แก่กลุ่มบริษัท ลอตเต้ กรุ๊ป ถึง 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3,990 ล้านบาทเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั่วโลก แต่ “ตาพญา” ถือว่าก็ยังโชคดีเพราะเรื่องคดีความฉาวโฉ่เก่ารวมทั้งเรื่องภาพพจน์อื้อฉาว ไม่ถูกบรรจุเป็นคุณสมบัติ “ข้อห้าม” อยู่ในเงื่อนไขTORครั้งนี้ !!!!
อย่างไรก็ตาม ถ้าจะว่ากันตามเนื้อผ้าจริงๆ “หัวใจ” สำคัญของการประมูลครั้งนี้คงอยู่ที่การยื่นข้อเสนอตาม TOR ว่าเอกชนทั้ง 4 ราย ใครจะเสนอได้ไฉไลกว่ากัน “ตาพญา” ขอทบทวนลายละเอียด “สาระสำคัญ” ของ TOR อีกครั้งกับ “ข้อเสนอด้านเทคนิคและผลตอบแทนต่อรัฐ 100 คะแนน” ซึ่ง TOR ได้แบ่งสัดส่วนคะแนนออกเป็น 4 หัวข้อสำคัญคือ ข้อ 1.ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในเชิงธุรกิจที่ผ่านมา โครงสร้างองค์กรและแผนการพัฒนาบุคลากร งบการเงินที่ผ่านการรับรองหรือสอบทานจากผู้สอบบัญชีฉบับล่าสุด มีคะแนนจำนวน 15 คะแนน ข้อ 2.แผนการดำเนินงาน ประกอบไปด้วย แนวคิดหลักในการบริหารจัดการกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร การออกแบบตกแต่งสถานที่และระยะเวลาในการดำเนินงาน แผนการจัดร้านค้าและบริการ แผนการตลาด มี 40 คะแนน ข้อ 3.แผนธุรกิจ ประกอบด้วย ประมาณการรายได้ของผู้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานและประมาณการกำไรขาดทุน ประมาณการงบดุลและงบประมาณการลงทุน การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ และความสามารถในการระดมทุน การชำระหนี้ และ D/E ratio มี 25 คะแนน และ ข้อ 4.ค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum Guarantee) ที่เสนอให้ ทอท. มี 20 คะแนน …000… ประสา “ตาพญา”ดูเนื้อหาลายละเอียด TOR แล้ว ต้องยอมรับ ทอท.ได้กำหนดเงื่อนไขการประมูล “ดิวตี้ฟรี” อย่างรัดกุมพอสมควร ในสมการ 15 : 40 : 25 : 20 โดยยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และข้อเสนอ TRO ทุกข้อ ก็ต้องสอดคล้องกัน ทำได้จริง ไม่ใช่มโนสร้างภาพเพื่อให้ดูดีอย่างเดียว ป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนแข่งขันประมูลทีวีดิจิทัล ที่มุ่งเน้นแข่งขันด้าน “ตัวเงิน” จน “ล้มเหลว” ไม่เป็นท่า สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง !!!
บรรทัดนี้ “ตาพญา” เห็นใจคณะกรรมการฯ ทอท. ที่ต้องพิจารณาลงในลายละเอียดในข้อเสนอ TOR ของเอกชนทั้ง 4 ราย เพราะต่างฝ่ายต่างได้มีการทำการบ้านกันมาอย่างเต็มที่ ต่างฝ่ายต่างเตรียมตัวมาอย่างดี ทั้งแผนธุรกิจทั้งแผนการดำเนินการทั้งข้อเสนอผลตอบแทนเป็นตัวเงินต่อรัฐ แม้แต่ “คิงเพาเวอร์” ในฐานะ “แชมป์เก่า” ก็ต้องเจองานหนัก เพราะผู้เข้าประมูลดิวตี้ฟรีและพื้นที่พาณิชย์ ต่างก็มีศักยภาพระดับโลก คงไม่มีใครลอยลำมาแน่นอน “ตาพญา” อ่านดู TOR เห็นว่าได้ตั้งอยู่บนผลประโยชน์ชาติอย่างแท้จริง ไม่มีใครได้เปรียบ-เสียเปรียบ ไม่ว่ารายใหม่-รายเก่า ทุกฝ่ายต่างได้รับความเป็นธรรมบน “กฎ-กติกา” เดียวกัน ดังนั้น “ตาพญา” เชื่อว่าการยื่นข้อเสนอตามTOR ทั้งหมดจึงสำคัญที่สุด ขึ้นอยู่กับว่า“กุนซือ”ใครวางแผนมาได้ดีกว่ากัน จุดนี้ต่างหากที่เป็น “หัวใจสำคัญ” ชี้ขาดพาทีมไปสู่ชัยชนะการประมูล !! …000… เมื่อกระบวนการประมูล “ดิวตี้ฟรีสนามบิน” มาถึงตรงนี้แล้ว โดย ทอท.ได้ดำเนินการมาอย่างรอบคอบผ่านการพิจารณากำหนดเนื้อหาการประมูลอย่างถี่ถ้วน ทั้งการให้คะแนนด้านเทคนิคและเงินตอบแทนต่อรัฐ 4 ข้อ ทั้งเรื่องของข้อกฎหมายต่างๆ ทั้งเรื่องของระยะเวลาการดำเนินการ ทั้งเรื่องการรับฟังข้อท้วงติง และได้มีการชี้แจงครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว หวังว่าวันที่ 31 พ.ค.นี้ เมื่อทุกฝ่ายทราบผลการให้คะแนนออกมาแล้ว คงไม่หาเรื่องโทษโน้นโทษนี่เป็น “ขี้แพ้ชวนตี” “ตาพญา“ ขอให้ผู้เข้าแข่งขันทุกฝ่ายเคารพ “กฎ-กติกา” มีน้ำใจนักกีฬา “รู้แพ้-รู้ชนะ” อย่ามีใครเป็นตัวถ่วงความเจริญประเทศชาติ …000… บรรทัดสุดท้าย ประสา “ตาพญา” คนไทยชาตินิยม เห็นว่า หากเอกชน “สัญชาติไทย” ได้สัมปทานดิวตี้ฟรีครั้งนี้ไปครอง ไม่ใช่แค่เป็นการสร้างรายได้เข้ารัฐเท่านั้น แต่จะเป็นช่องทางใช้แรงงานไทยอย่างเต็มที่ เป็นช่องทางช่วยเปิดตลาดให้สินค้าไทยสู่สากล เป็นช่องทางตลาดขายสินค้าให้กับสินค้าชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์“OTOP” ที่ตั้งขายในร้านดิวตี้ฟรี และ “OTOP-ขึ้นเครื่อง” ในปัจจุบัน ได้ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนมหาศาล หรือหากเราจะคิดแบบลบๆสุดขั้ว แม้ว่าเอกชนสัญชาติไทยที่ได้รับการประมูลไปแล้วประสบภาวะขาดทุน เปรียบไปก็เหมือน “เรือล่มในหนอง เงินทองก็ไม่ไปไหน” ผลประโยชน์ก็ยังตกอยู่กับคนไทย-เมืองไทย ยังดีกว่าดิวตี้ฟรี “สัญชาติต่างชาติ” ที่นำเงินตราไหลออกไปนอกประเทศ และก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะสนับสนุนสินค้าชุมชนไทยและผลิตภัณฑ์ OTOP หรือไม่ และที่สำคัญพื้นที่ “ดิวตี้ฟรีสนามบิน”ถือว่าเป็นหน้าตาประเทศไทย เป็นภาพลักษณ์ประเทศไทยอย่างแท้จริง !!!!
ตาพญา
ลิ้งก์ http://www.banmuang.co.th/news/politic/152053