เริ่มแล้วงานแฟร์สุดยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองที่รวบรวมสินค้าภูมิปัญญาไทยระดับพรีเมียมจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคมาไว้ภายในงาน “พลังคนไทย พลังชุมชนไทย” จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง คิง เพาเวอร์ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย โดยกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อแสดงพลังและศักยภาพของชุมชนไทยผู้ผลิตไทย และนักออกแบบไทย ผ่านงานแสดงสินค้าชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์พื้นถิ่น ภายใต้แนวคิด “เชื่อในพลังคนไทย” และเป็นเวทีเพื่อสนับสนุน ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการ และนำไปสู่การกระจายรายได้คืนกลับสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน ระหว่างนี้จนถึงวันที่ 2 มิถุนายนนี้ เวลา 10.30-20.30 น. ณ มหานคร สแควร์คิง เพาเวอร์ มหานคร
นายนิพนธ์ รักศรีอักษร รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า “ปีนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่เราได้ต่อยอดโครงการด้านชุมชนหรือ COMMUNITY POWER ผ่านการจัดงาน “พลังคนไทย พลังชุมชนไทย” ในรูปแบบงานแฟร์เป็นครั้งแรก เพื่อยกระดับสินค้าไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากล ซึ่งสินค้าที่มาออกร้านภายในงานกว่า 30 ร้านค้านั้น ทั้งหมดได้ผ่านการสนับสนุนจากคิง เพาเวอร์ เข้าไปช่วยดูแลเรื่องการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ รวมไปถึงการดีไซน์แพ็กเกจจิ้งให้ทันสมัยตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า จนสามารถมาวางขายในโซนจำหน่ายสินค้าไทยใน คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ได้ ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าจากภูมิปัญญาของคนไทยให้แก่นักท่องเที่ยวทุกมุมโลกที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ช่วยสร้างอาชีพและมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนต่างๆ ให้เติบโตอย่างเข้มแข็งโดยตลอด 29 ปีผ่านมา คิง เพาเวอร์ได้เข้าไปช่วยพัฒนาสินค้าชุมชนทั่วทุกภูมิภาค และอีกหนึ่งวัตถุประสงค์หลักของการจัดงานแฟร์ครั้งนี้ ก็เพื่อให้ชาวบ้านได้มีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้นและเป็นที่รู้จักในวงกว้างจนนำไปสู่การกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป”
นาวาตรีวรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “สินค้าชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละท้องถิ่น เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของการท่องเที่ยวที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ ทำให้เกิดการใช้จ่าย โดยเฉพาะการซื้อของฝากของที่ระลึก ซึ่งถือเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนโดยตรง ประกอบกับเทรนด์การท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทำให้ในปีที่ผ่านมาตัวเลขของไทยเที่ยวไทยกินของไทยมีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้การซื้อของฝากพื้นเมืองก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ ดังนั้น การที่มีภาคเอกชน อย่าง คิง เพาเวอร์ เข้ามาสนับสนุนชาวบ้านในเรื่องของการผลิตสินค้าภูมิปัญญาไทยให้ได้คุณภาพดี พร้อมช่วยติดอาวุธการตลาดถือเป็นการยกระดับสินค้าโอท็อปไทย ตลอดจนนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์โอท็อปให้ดียิ่งขึ้น”
งาน “พลังคนไทย พลังชุมชนไทย” แบ่งเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ โซนสินค้าชุมชน รวบรวมสินค้าของดีของเด็ดจากผู้ผลิตส่งตรงจากชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศไทย กว่า 30 ร้านค้า โดดเด่นเรื่องดีไซน์ และเต็มเปี่ยมด้วยไอเดียใหม่ๆ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าบาติก-คราม ผ้าไหมมัดหมี่ งานจักสานไม้ไผ่ งานเซรามิกงานปั้นจิ๋ว อาหารแปรรูป และอีกมากมายแต่ไฮไลท์ที่ห้ามพลาด อาทิ เครื่องทองรัตนโกสินทร์ สินค้าโอท็อป ระดับ 5 ดาวประจำจังหวัดกาญจนบุรี, ผ้าทอมือโบราณลายตีนจก จากร้านสุนทรีผ้าไทย สินค้าเด่นจากภูมิปัญญาของชาวสุโขทัย ที่นำมาแปรรูปให้มีความหลากหลายทั้งเสื้อผ้า ผ้าปูโต๊ะ ผ้ารองจาน และผ้าม่าน นอกจากนี้ ยังเปิดบูธพิเศษให้แก่คนพิการได้มีพื้นที่จำหน่ายพืชผักและผลไม้ที่ปลูกเอง โดยทาง คิง เพาเวอร์ ได้เข้าไปส่งเสริมอาชีพ ให้น้องๆ จากโรงเรียนปรียาโชติ จังหวัดนครสวรรค์ ที่เป็นโรคดาวน์ซินโดรมได้ปลูกผักเป็นและนำผลผลิตมาขาย เพื่อให้น้องๆ สามารถช่วยเหลือและเลี้ยงดูตัวเองได้
โซนอาหาร รวมเจ้าเด็ดเจ้าดังกว่า 17 ร้าน อาทิ โหวเส็ก ราชาบะหมี่ฮ่องกง ต้นตำรับจากเกาะฮ่องกง, ละมัยหอยทอดเยาวราช, เจ็กเม้งข้าวมันไก่สองสีรองเมือง, การิม โรตีมะตะบะถนนพระอาทิตย์ และขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช แต่ที่อร่อยเด็ดจนต้องยอมต่อคิวยาว ยกให้ร้านกั้งบ้านเพ ก๋วยเตี๋ยวกั้งในตำนานของจังหวัดระยอง ขึ้นชื่อในเรื่องน้ำซุปสูตรเด็ด พระเอกของร้าน คือ กั้งตั๊กแตน ตัวโตเนื้อแน่นๆ เมนูเด็ดห้ามพลาด คือ ก๋วยเตี๋ยวกั้งทะเลต้มยำน้ำข้นมันกุ้ง, สาวกหมูทอดรับรองติดใจ ร้านติดลมหมูทอดปลาร้าเจ้าดังย่านเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งเป็นหมูทอดสูตรชาววังเก่าแก่กว่า 30 ปี เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มปลาร้าบองรสเด็ด และร้านข้าวขาหมูจุฬา สามย่าน ที่ได้รับเชลล์ชวนชิมเป็นร้านแรก มีข้าวขาหมูสูตรต้นตำรับที่สืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่น ความพิเศษอยู่ที่การเลือกใช้ขาหมูที่นุ่ม อร่อย หนังบาง และน้ำพะโล้สูตรเฉพาะของทางร้านที่มีความเข้มข้นทานคู่กับผักกาดดองและน้ำส้ม เพิ่มความอร่อยอย่างลงตัว เป็นต้น
นอกจากผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมและอาหารสตรีทฟู้ดเลิศรสแล้ว อีกหนึ่งความพิเศษของงานนี้คือ เวทีการสาธิตการผลิตสินค้าชุมชนที่น่าสนใจจากชาวบ้านท้องถิ่น อาทิ การทำกระเป๋าสานแฮนด์เมด จากแบรนด์ VT Thaiที่สืบทอดงานหัตถกรรมท้องถิ่น เรียงร้อยงานสานทีละเส้นสู่กระเป๋าสุดเก๋สัญชาติไทยและการทำเทียนหอมจากดอกไม้สดจากแบรนด์ THANIYA ที่ชูไอเดียสร้างสรรค์จับเทียนหอมมาใส่ในเครื่องเบญจรงค์ เน้นสร้างความต่างด้วยการเขียนลวดลายด้วยมือทุกชิ้น
อีกทั้ง เพลิดเพลินไปกับการแสดงพิเศษสุดอลังการจากทีม เพชรจรัสแสง ผ่านดนตรีที่ผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยแบบจัดเต็ม อาทิ กลองสะบัดชัย ระบำเกี่ยวข้าว หมอลำ และโนรา พร้อมร่วมสืบทอดศิลปวัฒนธรรมทรงคุณค่า ผ่านการเชิดหุ่นละครเล็กสไตล์ร่วมสมัย จากอักษราหุ่นละครเล็ก เน้นท่วงท่าร่ายรำอันอ่อนช้อยละเมียดละไม เช่น รำกลองยาวหรรษา ฟ้อนร่ม และเซิ้งโปงลางบันเทิง โดยจะแสดงโชว์เฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ วันละ 2 รอบ (วันศุกร์ เวลา 17.30 น. และ 18.00 น.
ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 16.00 น.และ 18.00 น.) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.kingpowerthaipower.com หรือเฟซบุ๊ค King Power Thai Power พลังคนไทย
ข้อมูล https://www.naewna.com/lady/416657