“สวัสดีครับ ผมชื่อ อภิวัฒน์ ไพรสน ชื่อเล่น ตั้ม อายุ 16 ปี ส่วนสูง 173 ซม. ครับ มาจาก โรงเรียนเทศบาลวัดพระจอมคีรีนาคพรต จ.นครสวรรค์”
“ผมเล่นตำแหน่งกองหน้าครับ จุดเด่นของผม ผมคิดว่าผมขยับหาที่ว่างได้ดีง่ายต่อการจ่ายบอลของเพื่อนครับ ผมจะพยายามสลัดหนีตัวประกบ แต่สิ่งที่ผมต้องพัฒนาตัวเองเพิ่มเติมคือ การเพิ่มกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแกร่ง และการจบสกอร์ที่เฉียบขาดกว่านี้ครับ”
กำลังใจ : หลังจากที่ผมได้รู้จักตัวตนของน้อง ที่มาที่ไป ในการเล่นฟุตบอลแล้ว ผมจึงสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับกำลังใจสำคัญที่ทำให้น้องมาถึงในจุดนี้ คืออะไร และวินาทีแรกที่เขาทราบว่าติด 1 ใน 10 ฟ็อกซ์ฮันท์ รุ่นที่ 3 เขาและครอบครัวรู้สึกยังไงบ้าง
“วินาทีแรกที่ผมรู้ว่าติด ตอนนั้นผมกำลังจะทานข้าวครับ พอรู้ว่าติดผมไม่หิวแล้ว ผมรีบโทรศัพท์ไปหาพ่อกับแม่ แล้วบอกท่านว่าผมติด 1 ใน 10 คนในโครงการ ฟ็อกซ์ฮันท์ รุ่นที่ 3 ครับ”
“พ่อกับแม่ของผม ท่านดีใจมากๆ และบอกผมว่า “ลูกทำได้แล้วนะ” เนื่องจากว่า ผมเคยติด ฟ็อกซ์ฮันท์ รุ่นที่ 2 และเข้ามาซ้อมแล้ว แต่ว่าไม่ติด 1 ใน 10 คนสุดท้ายครับ แต่ปีนี้ผมมีชื่อติดรอบสุดท้ายแล้ว ผมดีใจมากครับๆ พ่อกับแม่ก็ภูมิใจในตัวผม ถือว่าเป็นก้าวแรกของความฝันครับ ผมต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆ ท่านครับ โดยเฉพาะที่คิง เพาเวอร์ ที่จัดโครงการดีๆ แบบนี้ขึ้นมาครับ”
“พ่อกับแม่ผม ก็ให้กำลังใจครับ ไปอยู่ที่อังกฤษผมพกรูปถ่ายของคุณตาไปด้วยครับ เพราะว่าท่านคือแรงบันดาลใจของผม ผมอยากให้ท่านอยู่กับผมตลอดเวลา“
โอกาส : การที่จะเข้ามาเป็น 1 ใน 10 คนของโครงการฟ็อกซ์ฮันท์ น้องๆ ต้องมีอายุไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์ และเริ่มจากการเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน และโรงเรียนของน้องๆ ต้องเข้าแข่งขันในรายการ คิง เพาเวอร์ คัพ ที่จัดขึ้นในทุกๆ ปี เพื่อเฟ้นหานักเตะเยาวชนฝีเท้าดีไปฝึกทักษะลูกหนังที่เมืองผู้ดีแบบระยะยาว
“ผมมีโอกาสได้เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนเทศบาลวัดพระจอมคีรีนาคพรต และเข้ามาแข่งขันในโครงการคิง เพาเวอร์ คัพ 2017 และก็ถูกคัดเลือกให้มาเข้าร่วมโครงการฟ็อกซ์ฮันท์ รุ่นที่ 3 ครับ”
“ตอนนี้พวกผมก็มีเรียนปรับพื้นฐานกันไปเรียบร้อยแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของภาษา และการใช้ชีวิตที่อังกฤษ ผมพร้อมครับ ผมพร้อมจะไปเรียนรู้ทั้งในแง่ของการศึกษา และเรียนรู้วิชาฟุตบอลกับเลสเตอร์ ซิตี้ ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ”
สำหรับน้องเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับทุนการศึกษามูลค่า 15 ล้านบาทต่อคน เพื่อศึกษาและเรียนรู้ทักษะฟุตบอลแบบมืออาชีพ กับสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมเข้าศึกษาระดับไฮสคูลที่ Ratcliffe College ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนชั้นนำในเมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง
ความฝันอันสูงสุด : หลังจากนั้นผมได้ถามไปถึงอนาคตของ เจ้าตั้ม หากถึงเวลาสำเร็จการศึกษา 2 ปีครึ่ง กลับมายังประเทศไทยอยากเล่นฟุตบอลให้กับทีมไหน รวมไปถึงไอดอลในดวงใจของตั้มมีใครบ้าง
“ก่อนหน้านี้ผมอยู่กับสโมสรนครสวรรค์ เอฟซี ครับ หลังจากกลับมาจากอังกฤษ ความใฝ่ฝันของผม ผมอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพครับ หากมีโอกาสที่ดีผมก็อยากเล่นในสโมสรต่างประเทศ แต่ถ้าเป็นสโมสรในประเทศไทยผมอยากเล่นกับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ครับ เพราะผมดูและตามเชียร์บีจีมาตั้งแต่เด็กๆ ครับผม”
“นักเตะที่ผมชื่นชอบถ้าเป็นนักเตะเลสเตอร์ ซิตี้ ผมชื่นชอบ เจมี่ วาร์ดี้ ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์จากหนุ่มโรงงานกลายมาเป็นซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอังกฤษ และเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกด้วยครับ อีกคนผมชอบ เจสซี่ ลินการ์ด ผมชอบในความมุ่งมั่นของเขา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ซื้อซูเปอร์สตาร์ แต่ ลินการ์ด เป็นดาวรุ่งของทีมและสามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จครับ ผมชอบความทุ่มเทของนักเตะทั้งสองคนนี้ครับ”
“ส่วนนักเตะไทย แน่นอนครับ ผมชื่นชอบพี่มุ้ย ธีรศิลป์ แดงดา ครับ พี่เขาเป็นศูนย์หน้าที่อันตรายที่สุดของเมืองไทย และผลงานที่ประเทศญี่ปุ่นพี่เขาก็โชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้ครับ”
หลังจากพูดคุยกันมาได้สักพัก น้องได้บอกกับผมว่า เขามีกำลังใจจากครอบครัวแล้ว เขาได้รับโอกาสจากทางคิง เพาเวอร์แล้ว และความฝันของเขาคือการเล่นฟุตบอล มันก็เหมือนจะต้องจบแค่นี้ แต่ผมอยากรู้อีกว่า ความฝันอันสูงสุดของตั้มเนี่ยคืออะไร ช่วยบอกพี่ได้มั้ย
หลังจากนั้นน้องก็ตอบผมมาสั้นๆ ด้วยสายตาที่มีความมุ่งมั่น ของเด็กวัย 16 ปีคนนี้ว่า
“ความฝันสูงสุดของผม คือการกลับมารับใช้ทีมชาติไทยครับ ผมอยากเป็นเหมือนพี่มุ้ยครับ”
คำพูดคำนี้ของน้องมันเหมือนส่งพลังอะไรบางอย่างมาให้ผม และผมก็เชื่อว่าน้องต้องทำได้ จากทั้งหมดที่กล่าวมา กำลังใจ โอกาส และความฝัน
ข่าวจาก https://sport.trueid.net/detail/zR1K44ekMnj