จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำหนังสือส่งถึงมหาเศรษฐีไทย 20 อันดับของประเทศ โดยขอให้นำศักยภาพที่มีอยู่ มาทำให้เกิดการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนคนไทยที่กำลังเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นนั้น
วันนี้ (2 พ.ค.) กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า ได้ส่งเอกสารโครงการต่างๆ ถึงนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นสาระสำคัญเป็น 4 ส่วนดังนี้
ส่วนที่ 1 การรับมือสถานการณ์โรคระบาดโควิด – 19 ที่ผ่านมา
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ยังคงดูและพนักงานกว่า 12,000 อัตราตามปกติ
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ไม่มีนโยบายลดจำนวนพนักงาน รวมถึงสนับสนุนการสร้างรายได้เสริมผ่านการขายของออนไลน์ผ่าน kingower.com รวมถึงการออกมาตรการ Work from Home โดยงดการเดินทางในทุกกรณี และเพิ่มความคุ้มครอง COVID – 19 ในประกันสุขภาพของพนักงาน
ดูแลทำความสะอาดของสำนักงานและพื้นที่ให้บริการอย่างต่อเนื่อง
ให้ความร่วมมือในการปิดพื้นที่ให้บริการตามมาตรการของรัฐบาล
บริจาคสมทบทุนทางการแพทย์
ดำเนินการผ่านทางมูลนิธิวิชัย ศรีวัฒนประภา ให้กับสถาบันบำราญนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสารธารณสุข โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ และโรงพยาบาลตำรวจ รวมแล้วกว่า 45 ล้านบาท
ส่วนที่ 2 โครงการเพื่อสังคมที่ได้ดําเนินการไปแล้ว
การดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ มีเจตนารมณ์ชัดเจนในการเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมพัฒนาและให้การช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด โดยมีโครงการเพื่อสังคมในทุก ๆ มิติ ที่ได้ดําเนินไปแล้วใช้งบประมาณ รวม 1,318.90 ล้านบาท (ส่วนใหญ่อยู่ในปี 60-62) ภายใต้กรอบดำเนินการ
โครงการเพื่อสังคมด้านเยาวชน
โครงการด้านสังคมและเศรษฐกิจชุมชน
โครงการเพื่อพัฒนาอาชีพ
โครงการเพื่อการสาธารณสุข
โครงการเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ส่วนที่ 3 โครงการเพื่อสังคมที่จะดําเนินการต่อเนื่องและโครงการใหม่
โครงการเพื่อสังคมที่จะดําเนินการต่อเนื่อง : งบประมาณ 749 ล้านบาท
เพื่อให้การช่วยเหลือสังคมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีส่วนในการช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศให้ เป็นไปตามความเหมาะสม ตามวาระเวลา จึงมีนโยบายที่จะดําเนินการโครงการเพื่อสังคมที่ทำไว้แล้วอย่างต่อเนื่อง สำหรับปี 2563 – 2565 เพื่อให้การช่วยเหลือสังคมและเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศไทย
โครงการเพื่อสังคมในด้านเยาวชน
ล้านลูกล้านพลังสร้างฝันเด็กไทยปีที่ 4-5 งบประมาณ 200 ล้านบาท
100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย สนามที่ 61 – 100 งบประมาณ 100 ล้านบาท
ทุนการศึกษา มหาวิทยาลัย เดอ มองฟอร์ต ประเทศอังกฤษ ปีการศึกษา 2563 – 2565 งบประมาณ 30 ล้านบาท
ทุนการศึกษา ภายใต้มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ปี 2563 – 2565 งบประมาณ 18 ล้านบาท
โครงการเพื่อพัฒนาอาชีพ
โครงการฟ็อกซ์ฮันท์ และ คิง เพาเวอร์ คัพ ปี 2563 – 2565 งบประมาณ 270 ล้านบาท
โครงการประกวดวงดนตรีดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปี 2563 – 2565 งบประมาณ 36 ล้านบาท
โครงการเพื่อการสาธารณสุข
โครงการส่งมอบตู้อบเด็ก ภายใต้ พลังคนไทย พลังใจให้ชีวิต ภายใต้ มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา ปี 2563 – 2565 งบประมาณ 15 ล้านบาท
สนับสนุนมูลนิธิก้าว เพื่อสนับสนุนกิจกรรมในด้านสาธารณสุข ปี 2563 – 2565 งบประมาณ 75 ล้านบาท
โครงการกระเป๋ายังชีพเพื่อบรรเทาทุกข์ งบประมาณ 5 ล้านบาท
โครงการเพื่อสังคมโครงการใหม่ : ในปีงบประมาณ 2563 – 2565 รวม 719.5 ล้านบาท
เพื่อสนับสนุนสังคมในด้านชุมชนและเศรษฐกิจชุมชน
Thai Power World Market
เพื่อยกระดับศักยภาพของสินค้าไทยเพิ่มช่องทางการจําหน่ายและ ช่องทางการประชาสัมพันธ์ให้กับชุมชนวิสาหกิจชุมชน รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถสร้างยอดขายได้ในระดับนานาชาติ งบประมาณ 70 ล้านบาท
โครงการสนับสนุนการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวประเทศไทย ผ่านสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้
จัดทำโลโก้ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยบนหน้าอกชุดแข่งขันใน ฤดูกาล 2020-2021 จํานวน 1 ฤดูกาล พร้อมทั้งโลโก้ประชาสัมพันธ์ประเทศไทยหรือข้อความบนป้ายโฆษณาดิจิตอลข้างใน King Power Stadium รวมทั้งสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ของสโมสรที่มีผู้ติดตามกว่า 13 ล้านคน ในฤดูกาล 2020-2021 จํานวน 1 ฤดูกาล เนื่องจากฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ผ่านทุกแพลตฟอร์ม ใน 212 ประเทศทั่วโลก 643 ล้านครัวเรือน และมีผู้ชมกว่า 4.7 พันล้านคน งบประมาณ 622 ล้านบาท
โครงการสนับสนุนทางการแพทย์
โครงการมอบรถพยาบาลเพื่อสนับสนุนกิจกรรมสาธาณสุขให้แก่โรงพยาบาลขนาดเล็กที่ห่างไกล ภายใต้ มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา งบประมาณ 7.5 ล้านบาท
โครงการบริจาคชุด PPE ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ มอบให้แก่โรงพยาบาลที่ขาดแคลน งบประมาณ 20 ล้านบาท
ส่วนที่ 4 ข้อเสนอแนะด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อรัฐบาลพิจารณาตามความเหมาะสม
1.มาตรฐานด้านการบริการ, สถานที่, และบุคลากรด้านท่องเที่ยว
2.การพัฒนาองค์ความรู้การท่องเที่ยวและการท่องเที่ยวแนวใหม่
3.จัดเตรียมประกันภัยโควิด-19 สําหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย
4.การพัฒนา Super Application สําหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศสําหรับนักท่องเที่ยว ชาวไทยและชาวต่างประเทศ
5.กองทุนเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว
6.การจัดคลัสเตอร์กลุ่มจังหวัดเพื่อการท่องเที่ยว
7.การพัฒนาระบบ E-VISA ON ARRIVAL การตรวจคนเข้าเมือง และการบริหารจัดการ SLOT การบิน
8.แก้ไขปัญหาเรื่องความไม่เพียงพอ ของมัคคุเทศก์ สําหรับนักท่องเที่ยวบางสัญชาติ
ข้อมูล https://www.thebangkokinsight.com/348170/