EA จับมือ “ไปรษณีย์ไทย” ร่วมโครงการความช่วยเหลือในนาม "กลุ่มช่วยกัน" ดึงจุดแข็งเครือข่ายไปรษณีย์ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศและมีประสิทธิภาพสูง มาเสริมทัพเดินหน้าส่งมอบเครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ และอุปกรณ์การแพทย์สู่โรงพยาบาลและสถานพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรการแพทย์และประชาชนที่มาติดต่อ และเพิ่มความเชื่อมั่นในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมชวนประชาชนโหลดแอปฯ "หมอชนะ" เป็นเครื่องมือสำคัญติดตัว ช่วยลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดรอบใหม่ ย้ำให้คงความเข้มงวดของมาตรการสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งโรงไฟฟ้าโซลาร์ และลม น้ำมันไบโอดีเซล โดยได้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงด้วยการลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ยานยนต์ไฟฟ้า และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งผู้ริเริ่มก่อตั้ง “กลุ่มช่วยกัน” เปิดเผยว่า EA และบริษัทในเครือ รวมทั้งกลุ่มช่วยกันมีโครงการส่งมอบอุปกรณ์การแพทย์นับหมื่นรายการให้แก่โรงพยาบาล และสถานพยาบาลทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประกอบด้วย เครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ เครื่องกรองอากาศ เครื่องผลิตโอโซน หน้ากากแรงดันบวก น้ำยาฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น โดยมุ่งหวังที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดรอบใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ และเพื่อสุขอนามัยและความปลอดภัยของบุคลากรการแพทย์และประชาชน
นายอมรกล่าวว่า ได้รับเกียรติจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่เล็งเห็นความตั้งใจจริงในการดำเนินโครงการของ EA และกลุ่มช่วยกัน และได้เข้ามาร่วมสนับสนุนโครงการโดยการนำอุปกรณ์การแพทย์ที่ EA และกลุ่มช่วยกันจัดเตรียมไว้ ไปส่งมอบให้โรงพยาบาลและสถานพยาบาลทั่วประเทศโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย การนำจุดแข็งของไปรษณีย์ไทยที่มีเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศและดำเนินการจัดส่งอย่างมีประสิทธิภาพสูงมาเสริมทัพ ทำให้ EA และกลุ่มช่วยกันสามารถเดินหน้าส่งมอบเครื่องกำจัดเชื้อโรคในอากาศ และอุปกรณ์การแพทย์ได้อย่างมั่นใจได้ว่าจะถึงมือผู้รับได้อย่างรวดเร็ว และปลอดภัย จึงถือเป็นการผสานความร่วมมืออย่างดียิ่งเพื่อประโยชน์ของสังคมไทย จึงขอขอบคุณไปรษณีย์ไทย และนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่ได้เป็นผู้แทนมาเข้าร่วมโครงการของกลุ่มช่วยกันในครั้งนี้
พร้อมนี้ กลุ่มช่วยกันขอเชิญชวนให้ประชาชนดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการเปิดเมือง ทำให้ผู้ใช้ได้ทราบความเสี่ยงของตนเองจากกิจกรรมและบุคคลที่ตนเองได้ใกล้ชิดในช่วงเวลา 14 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีจุดเด่นจากการนำ Bluetooth มาทำงานร่วมกับ GPS ทำให้สามารถติดตามได้ว่าผู้ใช้ได้เคยใกล้ชิดผู้ป่วยหรือได้เดินทางไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยงและใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในระยะรัศมี 5 เมตร จึงทำให้สามารถคัดแยกผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อในวงที่แคบลงได้ จึงจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ช่วยลดโอกาสการเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่ ประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ไว้บนโทรศัพท์มือถือและแสดง QR Code ในโทรศัพท์มือถือที่ใช้พกพาประจำตัวเปรียบเสมือน eHealth Passport ใช้แสดงหรือตรวจสอบก่อนเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ อีกทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับไทยชนะได้ โดยยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัย
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9630000062550
