รีวิวสรุป กล้องเกาหลี GNET G-ON ตัวใหม่ล่าสุด คุ้มค่า? กลางปี 2020! นี้

กล้องติดรถยนต์ในท้องตลาดปัจจุบันนี้มีมากมายให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ราคาถูกมาก จนไปถึงหมื่นสองหมื่น ตัวผมเองได้ทำการบ้านมาพอสมควร ว่าทำไมกล้องเกาหลีที่มีราคาสูงถึงขายดีมากในบ้านเรา

วันนี้มีโอกาศเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่แบรนด์ดัง GNET โมเดลรุ่น G-ON จึงจะมารีวิวสำหรับท่านใดที่กำลังมองหากล้องดีๆสักตัว และไม่อยากเสียเงินฟรี

เริ่มจากการแกะกล่องดูตัวสินค้าจริงกันเลยดีกว่าครับ ในชุดนี้มีกล้องให้มาทั้งหน้าและหลัง ครับ ตัววัสดุที่มีคุณภาพดี เกรดสูง ให้ความรู้สึกทนทาน และพรีเมี่ยมสุดๆ ตั้งแต่สัมผัสแรกจึงรู้ว่าทำไมถึงขายดีเหลือเกิน

ดีไซน์ของตัวกล้องก็จะเป็นตามรูปที่เห็นเลยครับ ขนาดเล็กๆติดตั้งกับรถรุ่นใหม่ๆ นี้ได้สบายครับ ไม่เกะกะสายตา ให้รบกวนใจแน่นอน

สำหรับสเปคและฟังก์ชั่นตัวกล้องทั้งหมด (Copy มานะครับ)

รายละเอียดสเปคตัวกล้อง
• กล้องหน้า Full HD 1920x1080P (มุมกว้าง 160)
• กล้องหลัง Full HD 1920x1080P (มุมกว้าง 150)
• กล้องหน้าบันทึกด้วย 60 FPS ลดอัตราการเบลอ
• HDR ระบบภาพกลางคืนเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด!
• H.265 เทคโนโลยีดาวน์โหลดไฟล์เร็วขึ้น 2 เท่า
• Gsyncloud ระบบดูออนไลน์ 24ชม. ฟรี! ทั่วโลก
• Parking Monitor เฝ้าระวังขณะจอด 24 ชม.
• Motion Detection ขณะจอดกล้องหน้าและหลัง
• LBP ระบบตัดไฟอัตโนมัติ เมื่อแบตเตอรี่รถใกล้ต่ำ
• Parking Timer เปิด/ปิดและตั้งเวลาขณะจอดได้
• G-Sensor ล็อคไฟล์เมื่อเกิดอุบัติเหตุ
• Wi-Fi ตั้งค่าและดูวิดิโอย้อนหลังผ่านมือถือสะดวก
• ADAS ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน,เข้าใกล้คันหน้า
• Format Free ระบบจัดการไฟล์ที่เสถียรไม่ต้องนั่งลบบ่อยๆ
• Impact Alarm แจ้งเตือนเมื่อมีแรงกระแทกเกิดขึ้นขณะจอด
• Memory Error Alarm แจ้งเตือนเมื่อเมมโมรี่การ์ดเสียหาย
• High Resistant ทนความร้อนสูงถึง 85 องศา

อุปกรณ์ต่างๆที่แถมมาให้กับตัวกล้องครับ ประกอบไปด้วย ตัวกล้องหน้า + ตัวกล้องหลัง + ชุดสาย Hardwire (สาย Power หลัก) + ชุดสายกล้องหลัง + ชุด GPS + แผ่นกาวสำรอง + คู่มือการใช้งาน

สำหรับการติดตั้งก็เดินเองได้อยู่อาจจเก็บสายไม่เรียบร้อย มองหาช่างมืออาชีพหน่อยก็ได้งานเก็บสายประมาณรูปนี้เลยครับ ตัวกล้องจะแนบไปกับกระจกเลย มุมมองจากคนขับ ไม่เกะกะสายตาเลยครับ ดีมากๆ

สำหรับท่านใดที่เจอปัญหากล้องหล่นบ่อย ตัวนี้ใช้การยึดแบบ 3M ครับ โดยแผ่นกาวที่ใช้ยึดติดแน่น ทนความร้อนสูงแน่นอน และดึงออกไม่ทิ้งคราบกาวครับ

มาดูเรื่องความคมชัดกันบ้างครับ รุ่นนี้สิ่งที่พิเศษและกล้องส่วนมากไม่มีคือเทคโนโลยี HDR+ ครับ ซึ่งต้องบอกว่าช่วยได้จริงๆครับ เทสมากับตัว ระบบนี้ไม่เหมือนกับ WDR แน่นอนครับ คนละเรื่องเลย เหมือนกับระบบที่ใช้ในกล้องรุ่นท็อปๆครับ

การเก็บรายละเอียดภาพกล้องหน้าและหลัง โดยรวมถือว่าทำได้ดีครับ ถือว่าพอใช้งานแล้วทั้งกลางวัน/กลางคืน

สิ่งที่ตัวนี้ได้มาคือกล้องหน้าบันทึกแบบ 60 fps ครับ มันทำให้การดูไฟล์ย้อนหลังมีความ smooth มากครับ ระบบนี้ช่วยทำให้เวลามีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเร็วๆ (มอไซค์/รถวิ่งเร็ว) จะทำให้ช่วยลดการเบลอภาพลงไปครับ ตัวอย่างตามภาพ

ความกว้างเลนส์ที่ได้คือ 160 องศาในกล้องหน้า และ 150 ในกล้องหลังครับ ซึ่งปกติของเกาหลีมาตรฐานที่มาจะอยู่ราวๆ 140 ครับ ตัวนี้ให้มาเป็นพิเศษ รถใหญ่ๆนี้เก็บรายละเอียดได้กว้างดีเลยครับ

จากภาพคือ ฟังก์ชั่นการเฝ้าระวังขณะจอดแบบตรวจจับการเคลื่อนไหวครับ ทั้งกล้องหน้าและหลัง นั้นหมายความว่าเวลาคุณจอดรถอยู่ มีการเฉียวชน หรือ ขีดข่วน เข็นรถ ขโมยของ อะไรก็ตามจะถูกบันทึกเก็บไว้ให้ครับ (แจ๋วสุดๆ)

นอกจากนี้รุ่นนี้เขายังรองรับระบบการดูออนไลน์ครับ นั้นหมายความว่าเราอยู่ที่ไหนก็ตามก็สามารถที่จะดูภาพของกล้องหน้าและหลัง ณ ปัจจุบันได้ครับ ดูตอนจอดก็ได้เช่นเดียวกัน ล้ำสุดๆ

รุ่นนี้เข้ายังมีเทคโนโลยี H.265 ให้มาด้วยที่เป็นตัวช่วยย่อขนาดไฟล์ให้เล็กลงสองเท่า นั้นหมายความว่าเราก็สามารถที่จะดาวน์โหลดไฟล์ออกมาได้เร็วขึ้น 2 เท่า แล้วยังจุไฟล์ได้นานขึ้น 2 เท่าอีกด้วยครับ

อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีในกล้องเกาหลีอย่าง GNET นั้นก็คือ ระบบ Format Free โดยเราใช้งานกล้องไม่จำเป็นต้องฟอร์แมตการ์ดตลอด สามารถปล่อยให้บันทึกวนทับเองได้ โดยไม่มีไฟล์ขยะมากวนใจ / Data Recovery กล้องบางรุ่นการบันทึกอาจจะมีการ Error ของไฟล์บางช่วงเป็นเรื่องปกติเมื่อใช้งานสักระยะหนึ่ง แต่ GNET จะมีระบบกู้คืนช่วงไฟล์ที่ไม่ต่อเนื่องให้อัตโนมัติครับ ดีงาม

สำหรับการใช้งานตัวกล้องก็สามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้เลยครับ ดูภาพสด ดูย้อนหลัง ตั้งค่าตัวกล้อง ซึ่งแอพก็ออกแบบมาหน้าตาดูเรียบง่าย ใช้งานสะดวก ไม่ซับซ้อนครับ อันนี้ดีครับ

การทนความร้อนของตัวนี้ได้ที่ 85 องศา กันเลยทีเดียวครับ ถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของการทนความร้อนในวงการกล้องติดรถ กันเลยทีเดียวครับ ซึ่งส่วนมากที่เราเห็นคือมมากสุดที่ 80 ครับ แดดอย่างบ้านเราเอาอยู่สบายมากๆ

สรุปข้อดีของ GNET G-ON
• ขนาดเล็กไม่เกะกะสายตา
• ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน
• เทคโนโลยีใหม่คุ้มค่า
• ทนความร้อนได้สูงมาก
• แอพพลิเคชั่นใช้งานสะดวก
• ระบบภาพดี เก็บรายละเอียดเยี่ยม

สรุปข้อเสียของ GNET G-ON
• ไร้จอแสดงผล
• ติดตั้งเองได้ยาก หรือถ้าซื้ออุปกรณ์สาย OBD ก็จะติดตั้งเองง่าย

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน