สวัสดีครับ ผมมีประสบการณ์ความผิดพลาดในการดำเนินชีวิตมาเล่าให้เป็นอุทาหรสำหรับทุกท่าน หากใครคิดว่าเป็นประโยชน์ก็นำกลับไปเป็นเเง่คิดเตือนใจตัวเองได้ครับ
ผมเพิ่งสมัครสมาชิกมาเพื่อมาเล่าเรื่องหลังจากได้เสิร์ชหา ในอืนเตอร์เน็ตเกี่ยวกับการที่มีปัญหาในครอบครัว เผื่อจะมีคนที่ประสบเหตุการณ์คล้ายๆกันอยากรู้ว่าเขามีทางออกอย่างไร
ปัญหาทั้งหมดของผมเกิดจากตัวผมเองล้วนๆ. เริ่มแรกเลย. ผมแต่งงานกับแฟน(ไหว้ผีผูกแขน)แล้วซื้อบ้านอยู่ด้วยกันแถบชานเมืองกรุงเทพแต่งกันมาได้สามปี. แฟนก็ท้อง พอแฟนท้องได้ห้าเดือน ก็ออกจากงานมาอยู่บ้านเฉยๆ เนื่องจากงานที่ทำดเป็นพนักงานที่ต้องยืน ต้องเดินตลอด พอน้ำหนักเพิ่มขาก็ไม่ไหว. หลังจากมาอยุ่บ้านทางแม่ยาย ก็อาสามาดูแลลูกสาว(ช่วยโน่นนั่นนี่เล็กๆน้อยที่บ้าน คือมาอาศัยอยู่ด้วยกันเลย. เพราะแกไม่มีภาระงานการอะไรแกเป็นโสดหม้าย เพราะพ่อแฟนผมเลิกกันไปหลายปีแล้ว. ครอบครัวแฟนผมเขามีกันสามคน. แม่เขา. แฟนผม. น้องสาวแฟนผม.
ในช่วงที่แม่แฟนมาอยุ่บ้านตั้งแต่แฟนท้องได้5เดือน จนเข้าเดือนที่8 ผมก็ทำตัวดี เลิกงาน กลับบ้านตรงเวลาไม่ไปสังสรรค์ที่ไหน เพราะอยากกลับมาดูแลเมีย ไม่อยากให้เมียน้อยใจคนท้องก็จะชอบน้อยใจ. เวลาผมอยากกินเหล้าก็จะชวนเพื่อนๆมาตั้งวงที่บ้านกินกันอาทิตย์ละวันสองวันพอได้หายอยาก เป็นอย่างนี้เรื่อยๆ. วันนึง ระหว่างกินเหล้าแม่ยายและแฟนผม ก็มานั่งเล่นนั่งคุยด้วย. เพื่อนๆ ผมก็พวกสายทะลึ่ง คุยกันก็ชอบแซวว่า เมียท้อง ได้ต่อแขนต่อขาให้ลูกบ้างป่าว. จัดหนักป่าว ด้วยความที่เมีนผมเป็นคนเฮฮาไม่ซีเรียส ก็ไม่ถือสาอะไรก็พูดขำๆออกมาว่า. โอ้ย ตั้งแต่ท้องได้สามเดือน. ก็ไม่ให้เข้าใกล้แล้ว เป็นห่วงลูก. เพื่อนก็พูดสวน นั่นคุณว่าวมือเปื่อยเลยดิ. ผมก็อาย ไม่พูดอะไรแอบชำเรืองมองทางแม่ยายเพราะกลัวเขาจะดุมั้ย ว่าเรากับเพื่อนพูดทะลึ่งกัน แต่ก็สังเกตุเห็น แกอมยิ้ม แล้วมองมาที่ผม แต่ผมก็ไม่ได้เอะใจคิดอะไรกินเหล้าจนดึกห้าทุ่ม เมียก็ขึ้นไปนอน. เหลือผมกับเพื่อนกับแม่ยายกินต่อจนตีหนึ่งเพื่อนก็กลับ. ผมกับแม่ยานก็ช่วยกันเก็บโต๊ะเก็บจานไปล้างในครัว.
ระหว่างล้างจานอยู่แม่ยายก็พูดขึ้นมาว่า น้องทรายท้องแก่แล้วเดือนหน้าจะคลอด ก็งดๆ หน่อยนะเผื่อจะแท้งจะอะไรอันตราย. ผมก็เลยตอบกลับว่า ไม่มีหรอกแม่. ผมไม่ได้มีอะไรกันมาจะห้าหกเดือนแล้ว. แม่ยายก็บอกดีแล้ว. ทำเองไปก่อนไว้หลังคลอดค่อยคิด. ผมก้ตอบครับๆ ด้วยความที่ผมกับแม่ยายไม่ค่อยสนิทกัน
( ผมอายุ 32 แม่ยาย44. แฟนผมอายุ 21 ) แม่ยายเสริมต่อ มีทางไหนระบายได้ก็ไปหาทำก่อน จะไปเที่ยวรึไปไหนก็ได้. แต่อย่าให้น้องทรายรู้ แม่ไม่ว่าอะไรหรอก ผมได้ฟังก็นิ่งเงียบล้างจานต่อ. ด้วยความที่เวลานั้นดึกแล้วตีสองกว่า. บ้านเงียบเพราะเมียก็หลับแล้ว. ในบ้านตอนนี้ก็มีผมกับแม่ยายสองคน. ด้วยฤทธิ์เหล้าที่ทำให้ผมมีอาการตึงๆค่อนไปทางเมา. มีความอยากในใจเป็นทุน เลยคิดเกินเลย. กับแม่ยาย. หลังจากผมล้างจานเสร็จ แม่ยายกำลังหันหลังเช็ดโตะ๊จัดของ. ผมเลยเดินอ้อมไปด้านหลังแม่ยายแล้วกลั้นใจกอดจากด้านหลัง. แม่ยายตกใจดิ้นแล้วพูดว่าจะทำอะไร. เมามากรึไง. กอดแม่ทำไม. ผมเลยพุดไปตรงๆ ผมขอแม่ได้มั้ย. ผมรุ้ว่ามันไม่ดีไม่ควรแต่ตอนนี้ผมก็เห็นแค่แม่ที่จะไว้ใจได้ไม่พูดบอกใคร แม่ก็ต่อว่าเชิงดุ ต่างๆนา ขณะที่ผมกอด. แต่เสียงไม่ดังสงสัยจะกลัวลูกสาวได้ยิน. ผมก็อ้อนก็จู่โจมจนสุดท้ายแกยอมอ่อนแรงเเล้วบอกผมว่า. ได้แม่ยอม. แต่ต้องปิดเรื่องให้เงียบรุ้กันแค่สองคน แม่นอมครั้งนี้ครั้งเดียว. และก็จบด้วยการที่มีอะไรกันหนึ่งครั้ง แล้วแยกย้ายกันไปนอน. หลังจากวันนั้นมา ผมกับแม่ยายไม่พุดเรื่องนี้และไม่มีอะไรกันอีก. จนวันที่เมียคลอด นอน รพ ผมกับแม่ยายกลับบ้านมาเตรียมเสื้อผ้าไปนอนเฝ้าที่ รพ. ก็มีเหตุให้ต้องทีอะไรกันอีก แต่คราวนี้เหมือนมันมีอะไรจุงใจให้คิดตรงกันโดยที่ไม่พูดเยอะ มันดำเนินไปเอง โดยเราไม่รุ่สึกตัวที่จะห้ามใจ. และก็มีกันต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ตามโอกาสตามเวลา ไม่บ่อยนัก.
สิ่งที่ผมรุ้สึกไม่ดี ณ ทุกวันนี้คือ. ผมไม่สามารถ ที่จะห้ามใจให้เลิกการกระทำนี้ได้ ทั้งที่เคยพยามแล้ว. แต่ในทุกครั้งแม่ยายก็ไม่เคยขัดขืนเลย. ผมเองละอายต่อแฟนผม. ที่ในทุกเวลาเราอยุ่กันสามคน. ผมกับแม่มองหน้ากันต่างคนรุ้แก่ใจว่าเกิดอะไร. แต่ก็ไม่มีใครพูดออกมาปิดกันเป็นความลับของสองคนต่อไป
สิ่งที่ผมอยากจะให้เป็นอุทาหรคือ. อย่าทำให้มันเกิดขึ้น หากมีครั้งแรก. ยังไงซะครั้งที่สอง สาม มันไม่ยาก. แต่ถ้าพลาดไปแล้วก็พยายามควบคุมเรื่องราวให้ได้